นายกฯ แนะพัฒนาพื้นที่ต่อยอดท่องเที่ยว

จ.พะเยา 12 ก.พ.-นายกฯ ตรวจแผนบริหารจัดการน้ำที่พะเยา ยันกักเก็บน้ำเพิ่มหลายเท่า เตรียมพัฒนาทุกพื้นที่ต่อยอดธุรกิจท่องเที่ยว เร่งทำทุกโครงการ แต่ติดปัญหางบล่าช้า เพราะเกิดปัญหาในสภา 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามการบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาหนองเล็งทราย อ.แม่ใจ จ.พะเยา โดยนายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปจากนายกมล เชียงวงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงแนวทางการบริหารจัดน้ำ ว่า แผนการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ขณะนี้จะทำให้การกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นหลายเท่า ซึ่งผิดจากเมื่อก่อนที่มีระบบการจัดการน้ำค่อนข้างน้อยและจำกัด แต่สิ่งที่ต้องคิดกันใหม่คือ การดำเนินการที่ไม่ให้กระทบต่อระบบนิเวศน์ และปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้ทันสมัย เพื่อจะพัฒนาพื้นที่ในอนาคต 


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพื้นที่ทำกินของประชาชนซึ่งมีปัญหาเรื่องการรุกล้ำที่ดิน บางครั้งหน่วยงานที่ต้องการทำเขื่อนก็ทำไม่ได้ จึงอยากให้ทุกคนร่วมกันมองไปถึงอนาคตว่าจะสามารถช่วยเหลือหรือแก้ไขอย่างไรได้บ้าง ยืนยันว่างบประมาณที่เข้ามาเสริมในจังหวัดพะเยาได้เตรียมไว้เพียงพอและมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่การเบิกจ่ายต้องมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ งบประมาณต้องใช้แบบบูรณาการ โดยงบในแต่ละจังหวัดสอดคล้องกันในหลายกระทรวง 

“อยากให้ทุกคนเข้าใจการจัดการงบประมาณของรัฐบาลเพื่อลูกหลานในอนาคต รวมถึงการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในอนาคตต้องควบคู่กับศีลธรรมทางจิตใจด้วย เมื่อเช้าได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และนมัสการเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง ก็รู้สึกสดชื่นที่ได้เห็นประชาชนที่มาทำบุญมีหน้าตาเบิกบานและแจ่มใส และน่ารักทุกคน ขอให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป ผมไม่ต้องการความขัดแย้ง ไม่จำเป็นต้องรักคนใดคนหนึ่ง แต่ขออย่างเดียว ขอให้รักประเทศของตัวเอง” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมสนับสนุนงบประมาณให้ลงไปในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกหมู่บ้านให้มากขึ้น ตามแผนยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้แล้ว เพื่อให้ชุมชนผลักดันการท่องเที่ยวและประเพณีให้เป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น ดึงดูดธุรกิจการท่องเที่ยว แต่สิ่งสำคัญคือการพัฒนาในแต่ละส่วนของธุรกิจการท่องเที่ยว ไม่อยากให้เหมือนกัน แต่อยากให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อนำสิ่งที่แตกต่างของแต่ละตำบลมาเป็นจุดขายในธุรกิจการท่องเที่ยว 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องคุณภาพชีวิต ทุกกระทรวงมีนโยบาย และรัฐบาลทำมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เด็กในครรภ์จนถึงเด็กโต รัฐบาลกำลังทยอยดำเนินการ ขอให้รัฐบาลหาเงินด้วย มีหลักการเยอะแยะหมดตามที่ทุกพรรคพูดมา แต่รัฐบาลเป็นคนทำ รัฐบาลต้องมากลั่นกรองรายละเอียด ไม่ใช่ผมสั่งคนเดียว เพราะถ้าทำทั้งหมดก็ไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะไม่มีเงินจะทำอะไรแล้ว ทุกคนต้องมาหารือกัน ขอให้ช่วยกันคิดแบบนี้ 

“โครงการสังคม คุณภาพชีวิตต้องทยอยดำเนินการ เพราะปัญหาติดอยู่ที่งบประมาณ ประกาศเมื่อใดก็ได้เมื่อนั้น แต่เงินจะมาเมื่อไหร่ก็ต้องรองบประมาณก่อน หลายอย่างปีนี้ล่าช้า แต่ไม่ได้ล่าช้าเพราะรัฐบาล ผมไม่อยากโทษใคร เพราะตั้งแต่แรกการจัดทำงบประมาณก็ตรงไปตามการเลือกตั้ง เพราะทุกคนอยากเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งแล้วขั้นตอนแต่ละขั้นตอนก็มีระยะเวลาอยู่ ต่อมาก็ดันมีปัญหาในสภาฯ รัฐบาลไม่อยากให้เกิดอยู่แล้ว แยกแยะให้ออก เกิดที่ไหนใครจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร ไม่เช่นนั้นก็ตีกันทั่วไปหมด ก็ไม่ต้องทำอะไรสักอย่าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนปัญหาที่ดินก็มีโครงการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่จะต้องเดินหน้าทุกจังหวัดต่อไป ส่วนผู้ที่บุกรุกก็ต้องทำให้ถูกกฎหมาย ขอให้คำนึงถึงคนไม่มีที่ทำกินและไม่ได้บุกรุก การส่งเสริมการรวมกลุ่มชุมชน การค้าขายออนไลน์ รวมถึงการดูแลสุขภาพประชาชนที่ต้องทำให้ดีขึ้น เช่น ผลักดันยาเข้าระบบ การรักษาอุบัติเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมง

“ขอฝากทุกคนให้ทำงานร่วมกัน ช่วยกันพัฒนาท้องถิ่น และต่อยอดภูมิปัญญาของเรา ลดความขัดแย้ง อย่าไปฟังคนบิดเบือน บางอย่างมันไม่ใช่ ท่านก็เห็นอยู่ ผมขี้เกียจไปทะเลาะกับใครทั้งสิ้น ขอเวลาทำงานดีกว่า วันนี้ทุกคนตั้งใจทำงาน ไม่เคยหยุดงาน เมื่อวานก็ไปโคราช แล้วก็มีประชุมครม. แต่อย่างไรเราก็ต้องดูแลทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ผมมาต่างจังหวัดแล้วกว่า 95 ครั้ง เกือบทุกกลุ่มจังหวัดแล้ว ขอให้ทุกคนเข้าใจรัฐบาล ร่วมมือกับรัฐบาล เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องปรับตัวใหม่ ไม่ใช่ข้าราชการกับประชาชนเดินกันคนละถนน  ไม่อยากเจอกัน ต้องหารือร่วมกัน เสนอขึ้นมาตามลำดับชั้น ผู้ว่าฯ มายังกระทรวงฯ เสนอมายังรัฐบาล ผมแก้ให้หมดด้วยกฎหมายที่มีอยู่ ให้สามารถดำเนินการได้ ทำตามใจมากก็รวนไปหมด ต้องมีความเป็นธรรมและโอกาส” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถามประชาชนที่มาร่วมรับฟังว่า รถไฟอยากได้จริงหรือ ขอมานานแล้ว ขอมาหลายรัฐบาลแล้วใช่ไหม แล้วไม่เคยได้ใช่ไหม แล้วรัฐบาลนี้ได้แล้วหรือยัง ชาวบ้านตอบว่า ให้แล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ให้แล้วแต่ยังไม่มา รอไปก่อน เดี๋ยวก็มี สัญญาคือสัญญา และว่า “มีหลายอย่างที่จะทำไว้ให้ ต้องไปดูแผนแม่บทที่มี ไม่ใช่ใช้งบ 3 ล้านล้านจนหมด จะต้องชำระของเก่าด้วย จึงจะเกิดโครงการใหม่ อยากได้อะไรก็เสนอขึ้นมา แต่ต้องมีแผนงานให้ละเอียดเรียบร้อย” 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินพบปะประชาชนที่มาร่วมรับฟัง ซึ่งประชาชนบางส่วนได้ตะโกนชื่นชมนายกรัฐมนตรีเป็นภาษาเหนือ “หล่อขนาด” แปลว่า หล่อมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบว่า “งามเหมือนกั๋น” พร้อมถ่ายรูปร่วมกับประชาชน อย่างเป็นกันเอง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการสินค้าโอทอปของจังหวัดพะเยา พร้อมอุดหนุนสินค้าโอทอปทุกร้าน เช่น กระเป๋าผักตบชวา กาแฟ ข้าว พร้อมเลือกเสื้อม่อฮ่อมสีน้ำเงิน โดยถอดเสื้อคลุมสีดำของตัวเองออก และสวมเสื้อม่อฮ่อมทับแทน

เมื่อเสร็จภารกิจที่จ.พะเยาแล้ว นายกรัฐมนตรีจะไปปฎิบัติภารกิจต่อที่จังหวัดน่าน เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดน่าน.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย