จ.พะเยา 12 ก.พ.-นายกฯ ตรวจแผนบริหารจัดการน้ำที่พะเยา ยันกักเก็บน้ำเพิ่มหลายเท่า เตรียมพัฒนาทุกพื้นที่ต่อยอดธุรกิจท่องเที่ยว เร่งทำทุกโครงการ แต่ติดปัญหางบล่าช้า เพราะเกิดปัญหาในสภา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามการบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาหนองเล็งทราย อ.แม่ใจ จ.พะเยา โดยนายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปจากนายกมล เชียงวงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงแนวทางการบริหารจัดน้ำ ว่า แผนการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ขณะนี้จะทำให้การกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นหลายเท่า ซึ่งผิดจากเมื่อก่อนที่มีระบบการจัดการน้ำค่อนข้างน้อยและจำกัด แต่สิ่งที่ต้องคิดกันใหม่คือ การดำเนินการที่ไม่ให้กระทบต่อระบบนิเวศน์ และปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้ทันสมัย เพื่อจะพัฒนาพื้นที่ในอนาคต
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพื้นที่ทำกินของประชาชนซึ่งมีปัญหาเรื่องการรุกล้ำที่ดิน บางครั้งหน่วยงานที่ต้องการทำเขื่อนก็ทำไม่ได้ จึงอยากให้ทุกคนร่วมกันมองไปถึงอนาคตว่าจะสามารถช่วยเหลือหรือแก้ไขอย่างไรได้บ้าง ยืนยันว่างบประมาณที่เข้ามาเสริมในจังหวัดพะเยาได้เตรียมไว้เพียงพอและมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่การเบิกจ่ายต้องมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ งบประมาณต้องใช้แบบบูรณาการ โดยงบในแต่ละจังหวัดสอดคล้องกันในหลายกระทรวง
“อยากให้ทุกคนเข้าใจการจัดการงบประมาณของรัฐบาลเพื่อลูกหลานในอนาคต รวมถึงการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในอนาคตต้องควบคู่กับศีลธรรมทางจิตใจด้วย เมื่อเช้าได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และนมัสการเจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง ก็รู้สึกสดชื่นที่ได้เห็นประชาชนที่มาทำบุญมีหน้าตาเบิกบานและแจ่มใส และน่ารักทุกคน ขอให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป ผมไม่ต้องการความขัดแย้ง ไม่จำเป็นต้องรักคนใดคนหนึ่ง แต่ขออย่างเดียว ขอให้รักประเทศของตัวเอง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมสนับสนุนงบประมาณให้ลงไปในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกหมู่บ้านให้มากขึ้น ตามแผนยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้แล้ว เพื่อให้ชุมชนผลักดันการท่องเที่ยวและประเพณีให้เป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น ดึงดูดธุรกิจการท่องเที่ยว แต่สิ่งสำคัญคือการพัฒนาในแต่ละส่วนของธุรกิจการท่องเที่ยว ไม่อยากให้เหมือนกัน แต่อยากให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อนำสิ่งที่แตกต่างของแต่ละตำบลมาเป็นจุดขายในธุรกิจการท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องคุณภาพชีวิต ทุกกระทรวงมีนโยบาย และรัฐบาลทำมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เด็กในครรภ์จนถึงเด็กโต รัฐบาลกำลังทยอยดำเนินการ ขอให้รัฐบาลหาเงินด้วย มีหลักการเยอะแยะหมดตามที่ทุกพรรคพูดมา แต่รัฐบาลเป็นคนทำ รัฐบาลต้องมากลั่นกรองรายละเอียด ไม่ใช่ผมสั่งคนเดียว เพราะถ้าทำทั้งหมดก็ไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะไม่มีเงินจะทำอะไรแล้ว ทุกคนต้องมาหารือกัน ขอให้ช่วยกันคิดแบบนี้
“โครงการสังคม คุณภาพชีวิตต้องทยอยดำเนินการ เพราะปัญหาติดอยู่ที่งบประมาณ ประกาศเมื่อใดก็ได้เมื่อนั้น แต่เงินจะมาเมื่อไหร่ก็ต้องรองบประมาณก่อน หลายอย่างปีนี้ล่าช้า แต่ไม่ได้ล่าช้าเพราะรัฐบาล ผมไม่อยากโทษใคร เพราะตั้งแต่แรกการจัดทำงบประมาณก็ตรงไปตามการเลือกตั้ง เพราะทุกคนอยากเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งแล้วขั้นตอนแต่ละขั้นตอนก็มีระยะเวลาอยู่ ต่อมาก็ดันมีปัญหาในสภาฯ รัฐบาลไม่อยากให้เกิดอยู่แล้ว แยกแยะให้ออก เกิดที่ไหนใครจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร ไม่เช่นนั้นก็ตีกันทั่วไปหมด ก็ไม่ต้องทำอะไรสักอย่าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนปัญหาที่ดินก็มีโครงการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ที่จะต้องเดินหน้าทุกจังหวัดต่อไป ส่วนผู้ที่บุกรุกก็ต้องทำให้ถูกกฎหมาย ขอให้คำนึงถึงคนไม่มีที่ทำกินและไม่ได้บุกรุก การส่งเสริมการรวมกลุ่มชุมชน การค้าขายออนไลน์ รวมถึงการดูแลสุขภาพประชาชนที่ต้องทำให้ดีขึ้น เช่น ผลักดันยาเข้าระบบ การรักษาอุบัติเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมง
“ขอฝากทุกคนให้ทำงานร่วมกัน ช่วยกันพัฒนาท้องถิ่น และต่อยอดภูมิปัญญาของเรา ลดความขัดแย้ง อย่าไปฟังคนบิดเบือน บางอย่างมันไม่ใช่ ท่านก็เห็นอยู่ ผมขี้เกียจไปทะเลาะกับใครทั้งสิ้น ขอเวลาทำงานดีกว่า วันนี้ทุกคนตั้งใจทำงาน ไม่เคยหยุดงาน เมื่อวานก็ไปโคราช แล้วก็มีประชุมครม. แต่อย่างไรเราก็ต้องดูแลทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด ผมมาต่างจังหวัดแล้วกว่า 95 ครั้ง เกือบทุกกลุ่มจังหวัดแล้ว ขอให้ทุกคนเข้าใจรัฐบาล ร่วมมือกับรัฐบาล เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องปรับตัวใหม่ ไม่ใช่ข้าราชการกับประชาชนเดินกันคนละถนน ไม่อยากเจอกัน ต้องหารือร่วมกัน เสนอขึ้นมาตามลำดับชั้น ผู้ว่าฯ มายังกระทรวงฯ เสนอมายังรัฐบาล ผมแก้ให้หมดด้วยกฎหมายที่มีอยู่ ให้สามารถดำเนินการได้ ทำตามใจมากก็รวนไปหมด ต้องมีความเป็นธรรมและโอกาส” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถามประชาชนที่มาร่วมรับฟังว่า รถไฟอยากได้จริงหรือ ขอมานานแล้ว ขอมาหลายรัฐบาลแล้วใช่ไหม แล้วไม่เคยได้ใช่ไหม แล้วรัฐบาลนี้ได้แล้วหรือยัง ชาวบ้านตอบว่า ให้แล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ให้แล้วแต่ยังไม่มา รอไปก่อน เดี๋ยวก็มี สัญญาคือสัญญา และว่า “มีหลายอย่างที่จะทำไว้ให้ ต้องไปดูแผนแม่บทที่มี ไม่ใช่ใช้งบ 3 ล้านล้านจนหมด จะต้องชำระของเก่าด้วย จึงจะเกิดโครงการใหม่ อยากได้อะไรก็เสนอขึ้นมา แต่ต้องมีแผนงานให้ละเอียดเรียบร้อย”
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินพบปะประชาชนที่มาร่วมรับฟัง ซึ่งประชาชนบางส่วนได้ตะโกนชื่นชมนายกรัฐมนตรีเป็นภาษาเหนือ “หล่อขนาด” แปลว่า หล่อมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบว่า “งามเหมือนกั๋น” พร้อมถ่ายรูปร่วมกับประชาชน อย่างเป็นกันเอง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการสินค้าโอทอปของจังหวัดพะเยา พร้อมอุดหนุนสินค้าโอทอปทุกร้าน เช่น กระเป๋าผักตบชวา กาแฟ ข้าว พร้อมเลือกเสื้อม่อฮ่อมสีน้ำเงิน โดยถอดเสื้อคลุมสีดำของตัวเองออก และสวมเสื้อม่อฮ่อมทับแทน
เมื่อเสร็จภารกิจที่จ.พะเยาแล้ว นายกรัฐมนตรีจะไปปฎิบัติภารกิจต่อที่จังหวัดน่าน เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดน่าน.-สำนักข่าวไทย
