สบส.เตือนเสี่ยง!!! ใช้บริการฉีดสารเสริมความงามถึงที่พัก

กรมสบส.11ก.พ.-กรมสบส.เตือนประชาชนอย่ารักสบายเรียกใช้บริการฉีดสารเสริมความงามถึงที่พัก ผิดกฎหมายและอันตราย สุ่มเสี่ยงตกเป็นเหยื่อเหล่าหมอกระเป๋า สูญทั้งเงิน แถมเจ็บตัว หากพบเห็นหรือทราบเบาะแสให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการโดยทันที


นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ด้วยปัจจุบันที่ประชาชนสามารถเลือกรับบริการหลากหลายประเภทผ่านสมาร์ทโฟน ทำให้หลายคนมีพฤติกรรมในการรับบริการแบบส่งตรงถึงที่พัก ทั้งอาหาร ซักผ้า ทำผม ล้างรถ แต่ไม่ใช่บริการทุกประเภทจะสามารถส่งตรงถึงประชาชนได้ ซึ่งหนึ่งในบริการที่ไม่ควรเรียกใช้บริการนอกสถานที่โดยเด็ดขาด คือ บริการฉีดสารเสริมความงาม ที่อาจทำให้ต้องตกเป็นเหยื่อของเหล่าหมอกระเป๋าเสียทั้งเงิน แถมเจ็บตัว 


โดย พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 กำหนดให้การศัลยกรรมเสริมความงาม ด้วยการศัลยกรรมหรือฉีดสารเสริมความงามประเภทต่าง ๆ จะต้องกระทำโดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม และทำในสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น หากกระทำโดยผู้ที่ไม่มีความชำนาญ หรือทำในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐานก็จะก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อผู้รับบริการ ทั้งการติดเชื้อจากเครื่องมือไม่สะอาด สารเสริมความงามที่ใช้ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สารที่ฉีดเข้าไปอุดตันหลอดเลือดทำให้เนื้อตาย ซึ่งมักพบได้บ่อยที่จมูก ร่องแก้ม หรือหากเกิดการอุดตันหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงจอประสาทตาก็จะทำให้ตาบอด อีกทั้งการที่สารเสริมความงามรั่วไหลเข้าไปในกระแสเลือด หรือผู้รับบริการมีอาการแพ้อย่างรุนแรงก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส.กล่าวว่า การเรียกตัวบุคคลมาให้บริการฉีดสารเสริมความงามในที่พักนอกจากจะเป็นอันตราย ยังมีความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ในข้อหาประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต (คลินิกเถื่อน) ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งหากผู้ให้บริการไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมก็จะมีความผิดตามพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ข้อหาหมอเถื่อนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพิ่มอีกกระทงด้วย 


“หากพบเห็นการกระทำในลักษณะดังกล่าวหากอยู่ในเขต กทม.ให้รีบแจ้งมาศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกรม สบส. หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7057 หรือเฟซบุ๊ก : ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สบส. กระทรวงสาธารณสุข ส่วนภูมิภาคให้แจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่เพื่อจัดการลงโทษตามกฎหมายโดยทันที” ทันตแพทย์อาคม กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย