นครราชสีมา 9 ก.พ. – เราย้อนกับไปลำดับเหตุการณ์ช็อกคนไทยทั้งประเทศในวันมาฆบูชาที่จังหวัดนครราชสีมากันอีกครั้ง เหตุเกิดตั้งแต่ 15.00 น. วานนี้ (8 ก.พ.) และสิ้นสุดลงด้วยการวิสามัญฆาตรกรรมเวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้ (9 ก.พ.)
15.00 น. 8 ก.พ. ยิงผู้บังคับบัญชาและแม่ยายดับคาบ้าน
ตำรวจโรงพักโพธิ์กลาง อำเภอเมืองนครราชสีมารับแจ้ง ว่าเมื่อเวลาประมาณหลัง 15.00 น. จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองพันกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ใช้อาวุธปืนสั้นยิงพันเอกอนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ที่เป็นผู้บังคับบัญชา และนางอนงค์ มิตรจันทร์ แม่ยายพันเอกอนันต์ฐโรจน์ เสียชีวิต จากนั้นขับรถไปยังคลังอาวุธภายในค่ายทหาร ก่อเหตุยิงทหารเวรที่เฝ้าคลังอาวุธ เสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บ 2 นายก่อนชิงอาวุธสงครามจำนวนมาก ขับรถฮัมวี่หลบหนีมาตามถนน มุ่งหน้าภายในตัวเมือง ระหว่างทาง ได้ใช้อาวุธที่ขนมา กราดยิงชาวบ้านที่สัญจรไปมาและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ ยิงไม่เลือกหน้าบริเวณวัดป่าศรัทธารวม เสียชีวิต 9 ศพ
18.00 น. มุ่งหน้าเทอร์มินอล 21
ประมาณ 18.00 น. คนร้ายขับรถหลบหนีเข้าไปห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 ระหว่างนี้ มีการกราดยิงประชาชน เจ้าหน้าที่ รปภ.จนเสียชีวิตทั้งในและนอกห้างนอกอีกประมาณ 9 ศพ โดยผู้ก่อเหตุยิงถังแก๊สด้านนอกห้างจนเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง คนร้ายได้ถ่ายคลิปตัวเองเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กส่วนตัวหลังก่อเหตุบริเวณด้านนอกอาคาร จากนั้นมีรายงานประชาชนติดอยู่ภายในห้างที่เกิดเหตุ บางส่วนถูกจับเป็นตัวประกัน เจ้าหน้าที่เริ่มเข้าปิดล้อมพื้นที่ควบคุมสถานการณ์ในรัศมี 2 กิโลเมตรรอบห้างที่เกิดเหตุ
19.19 น. คนร้ายโพสต์เหนื่อยเหลือเกิน
มีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุอยู่ที่ชั้น 4 ของห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 ระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษๆ ชุดต่างๆ เริ่มเข้าปิดล้อมพื้นที่ โดยช่วงเวลาประมาณ 19.19 น. คนร้ายโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว มีข้อความ “เหนื่อยเหลือเกิน” ขณะเดียวกันที่จังหวัดชัยภูมิ ตำรวจพื้นที่เชิญตัวมารดาของผู้ก่อเหตุเร่งเดินทางมาจังหวัดนครราชสีมา
19.58 น. นายกฯ สั่งการเร่งปิดล้อมจับกุมผู้ก่อเหตุ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบสถานการณ์คนร้ายกราดยิงที่ จังหวัดนครราชสีมา ขณะร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพฯ พร้อมสั่งการให้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการกองทัพบก ติดตามสถานการณ์ สอบสวนหาสาเหตุ และดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ให้ดีที่สุด พร้อมกำชับให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลเรื่องการรักษาพยาบาล และให้เจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้
21.33 น. บล็อกเฟซบุ๊กผู้ก่อเหตุ
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้เฟซบุ๊กบล็อกการใช้งานของคนร้าย ทำให้คนร้ายไม่สามารถโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
22.00 น. เสียงปืนปะทุอีกครั้ง
หลังเวลา 22.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีเสียงปืนดังออกมาจากภายในอาคารหลายครั้งก่อนจะสงบลง โดยช่วงนี้ เบื้องต้นได้รับรายงานมียอดผู้เสียชีวิตจำนวน 17 ศพ ผู้บาดเจ็บ 21 คนนำตัวส่งรักษาในโรงพยาบาลพื้นที่ใกล้เคียง
23.35 น. เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมพื้นที่ภายในเทอร์มินอล 21
เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมพื้นที่ตั้งแต่ชั้น G ของห้างเทอร์มินอล 21 และช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ภายใน
00.00 น. 9 ก.พ. ยอดผู้เสียชีวิตขยับเพิ่ม
ยอดเสียชีวิตในช่วงนี้ขยับขึ้นไปที่ 20 ศพ บาดเจ็บสาหัส 10 คน เจ็บเล็กน้อย 31 คน เจ้าหน้าที่ระดมทีมแพทย์และพยาบาลกว่า 130 คน ประจำโรงพยาบาลมหาราช พร้อมสแตนด์บายเสริมทีมอีก 240 คน ประสานกับโรงพยาบาลในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงเตรียมพร้อมห้องฉุกเฉินและพร้อมรับการผ่าตัดเร่งด่วน
00.53 น. เสริมกำลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดพิทักษ์ 3 ค่ายนเรศวร 271 ประจวบคีรีขันธ์ 20 นาย อาวุธครบมือเข้าพื้นที่ เพื่อเตรียมปฏิบัติการร่วมฯ
01.40 น. ช่วยคนติดค้างภายในห้าง
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษหน่วยต่างๆ ทยอยเข้าควบคุมพื้นที่ภายใน และควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว จนกระทั่งนำประชาชนชุดสุดท้ายประมาณ 60 คน ที่ติดค้างอยู่ภายในชั้น LG ออกมาได้อย่างปลอดภัย มีรายงานว่า คนร้ายเคลื่อนไหวอยู่ชั้น LG ซึ่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษกำลังปิดล้อมพื้นที่กดดันคนร้าย
03.00 น. เสียงปืนยังได้ยินเป็นระยะ
ในช่วง 03.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีเสียงปืนได้ยินเป็นระยะภายใน โดยเจ้าหน้าที่ขับรถพยาบาลเข้าไปรับคนเจ็บภายในที่เกิดเหตุ โดยมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษได้บาดเจ็บสาหัส
03.20 น. เร่งกู้ชีพตำรวจถูกยิงที่ศีรษะ
ขณะที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเวลาประมาณ 03.20. น. หน่วยกู้ภัยนำผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นตำรวจชุดหนุมานถูกยิงบริเวณศีรษะออกจากโรงพยาบาลเซนต์แมรี่มายังห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลมหาราช
03.35 น. คนร้ายพยายามหนี
เจ้าหน้าที่ยิงปะทะกับคนร้ายบริเวณด้านหลังของศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช มีรายงานว่า คนร้ายพยายามยิงเปิดทางหลบหนี แต่ไม่สามารถฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ออกไปได้
04.05 น. เจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะ
มีการยืนยันว่าเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษเสียชีวิตแล้ว 1 นาย ลำเลียงศพไปที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี่
05.50 น. เสียงปืนปะทุอีกครั้ง
มีรายงานว่า พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางออกจากพื้นที่เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ช่วงก่อน 06.00 น. เกิดเสียงดังคล้ายปืนขึ้นมาอีก 3 ชุด ที่อาคารเทอร์มินอล 21 โดยก่อนหน้านี้เกิดเหตุยิงปะทะกัน 1 ชุดเวลา 05.25 น. โดยยังไม่มีรายงานการจับกุมคนร้าย
07.30 น.
ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 21 คน บาดเจ็บ 33 คน หลังจากนั้น มีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 4 ศพ
08.40 น. ลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากห้าง
เจ้าหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำรถพยาบาลเข้าลำเลียงผู้บาดเจ็บจากภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ออกมา โดยมีเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือคุ้มกัน
09.00 น. ยืนยืนยันผู้ก่อเหตุเสียชีวิตจากการปะทะ
มีรายงานว่า เมื่อ 5 นาทีก่อนเวลา 09.00 น. จ่าสิบเอกผู้ก่อเหตุได้เสียชีวิตลงแล้วจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ รอยืนยันอย่างเป็นทางการ
09.23 น. ยืนยันวิสามัญคนร้ายเสียชีวิต
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันการวิสามัญมาตกรรมคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยปฏิบัติการร่วม หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 หน่วยคอมมานโด กองบังคับการตำรวจราชวัลภลรักษาพระองค์ 904 หน่วยหนุมาน กองบังคับการปราบปราม หน่วยอรินทราช 26 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หน่วยนเรศวร 261 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำลังสุรนารี .- สำนักข่าวไทย