พรรคประชาธิปัตย์ 7 ก.พ.-“อัลวาร์” ย้ำวิกฤติ ปชป.เรื่องเร่งด่วน ผู้บริหารต้องทบทวนตัวเอง เร่งเปิดประชุมใหญ่วิสามัญ ระดมสมองกอบกู้พรรค ห่วงไม่เร่งแก้ไข 3 จว.ใต้อาจสูญพันธุ์ พรรคถดถอยหนัก ลั่นเป็นรองเลขาพรรค ไม่ใช่เพื่อประดับบารมี แต่ต้องใช้หน้าที่ขับเคลื่อนพรรค ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง
นายอัลวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ในฐานะรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการยื่นหนังสือถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้เปิดประชุมใหญ่วิสามัญแก้ไขวิกฤติพรรคและรับผิดชอบร่วมกัน ว่า ได้ยื่นหนังสือดังกล่าวไปหลังการประชุม ส.ส.พรรคเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จากผู้บริหารว่าจะดำเนินการตามที่เรียกร้องหรือไม่ โดยยืนยันว่าสิ่งที่ทำเพราะอารมณ์ แต่พิจารณาจากปัญหา และเห็นว่าควรเร่งแก้ไขโดยเร่งด่วน
“ในฐานะที่เป็นรองเลขาธิการพรรค อยากเห็นการขับเคลื่อนพรรคเดินไปข้างหน้า สิ่งที่นำเสนอล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น ไม่มีบรรทัดไหนในหนังสือดังกล่าวทำเพื่อตัวเอง เพราะการยื่นเรื่องให้เปิดประชุมใหญ่วิสามัญฯ นั้น หากนำไปสู่จุดที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค ก็ไม่ต่างจากการเสนอให้ปลดตัวเอง จึงชี้ชัดได้ว่าผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่พยายามทำเพื่อพรรค ตามกำลังความสามารถที่ทำได้ เราต้องไม่ทำให้พรรคเลวร้ายไปกว่านี้ ยอมรับความจริงว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาธิปัตย์บอบช้ำมาก และหลังเลือกตั้งก็มีสองแนวคิด ทั้งอยากร่วมรัฐบาลและไม่ให้ร่วมรัฐบาล สุดท้ายจำเป็นต้องร่วมรัฐบาลเพื่อประคับประคองประเทศให้เดินไปข้างหน้า แต่ต้องเดินหน้าด้วยธรรมาภิบาลที่ดี เป็นภารกิจแรกที่ต้องทำ” นายอัลวาร์ กล่าว
รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้เราต้องเยียวยาความบอบช้ำของพรรคและคนในพรรค ขณะเดียวกันต้องเรียกความเชื่อมั่นและศรัทธาจากคนของเรากลับคืนมาให้ได้ เป็นสองบทบาทที่ต้องดำเนินการเพื่อชาติและดูแลพรรคไปพร้อม ๆ กัน เพราะประชาชนจับตาดูอยู่ว่าทิศทางของพรรคจะเป็นอย่างไร ที่สำคัญ คือ ผู้บริหารควรจะประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง รับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดกว้าง ต้องสมานบาดแผลที่เป็นช่องว่างระหว่างคนในพรรคจนนำไปสู่ความแตกแยกโดยเร็ว เพราะมีแนวโน้มที่เลือดจะไหลออกไปเรื่อย ๆ อีกหลังจากนี้
“ผมจึงขอให้เปิดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อหาแนวทางร่วมกัน ฝ่าฟันวิกฤติร่วมกันอย่างมีพลังต่อไป ผมเป็นรองเลขาธิการพรรคไม่เคยมีปัญหากับพรรค อดทนมาตลอด ผมเข้ามาอยู่พรรคตั้งแต่ปี 2548 เห็นความพ่ายแพ้ของพรรค เก็บข้อมูลมาตลอด ผมไม่ได้แฮปปี้เพียงเพราะมีตำแหน่งมาประดับบารมี แต่ต้องใช้ตำแหน่งทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์กับพรรคอย่างแท้จริงด้วย ผมเป็นคนเดียวใน 11 เขตของจังหวัดชายแดนใต้ที่รอดมาเป็น ส.ส. เราสูญเสียที่นั่งไปให้กับพรรคอื่น ถ้าไม่มีมาตรการแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที ครั้งหน้าเราอาจจะไม่เหลือจำนวน ส.ส.เท่าวันนี้ แต่อาจถดถอยมากกว่านี้ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขทันที ทุกเรื่องผมพูดต่อหน้าหัวหน้าพรรค เพราะนิสัยเป็นคนพูดตรง ๆ ไม่มีลับหลัง” นายอัลวาร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารขอให้เปิดประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อระดมสมองแก้ปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์ที่สูญเสียบุคลากรจากการลาออกอย่างต่อเนื่องของนายอัลวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานีและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่นายอัลวาร์ ที่เห็นว่าพรรคจำเป็นต้องเปิดประชุมใหญวิสามัญฯ เท่านั้น ยังมี ส.ส.หลายคนร่วมลงชื่อสนับสนุนด้วย โดยผู้ที่ลงชื่อร่วมสนับสนุนายอันวาร์ ประกอยด้วย 1.นายพนิต วิกิจเศรษฐ์ 2.นายอัศวิน วิภูศิริ 3.นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 4.นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ส.ส.พังงา 5.น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล 6.นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช 7.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ส่วนนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้ร่วมลงชื่อสนับสนุนไปด้วย ได้ขอถอนชื่อออก นอกจากนี้ ยังมี ส.ส.อีกหลายคนที่ประสงค์จะลงชื่อสนับสนุน เพราะเพิ่งทราบเรื่อง อาทิ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก และนายจุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร.-สำนักข่าวไทย