รมว.ท่องเที่ยวฯ ตอบกระทู้ แก้ปัญหาท่องเที่ยวจากผลกระทบไวรัสโคโรนา

รัฐสภา 5 ก.พ.-สภาฯ ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่ รมว.ท่องเที่ยวฯ ย้ำเน้นสร้างความมั่นใจไทยไม่ใช่แหล่งแพร่ระบาด มีมาตรฐานการดูแลความปลอดภัยในระดับสากล


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (5 ก.พ.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมสภาฯ โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ประธานได้เปิดโอกาสให้สมาชิกปรึกษาหารือตามข้อบังคับการประชุม ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเกี่ยวกับสาธารณูปโภค อาทิ ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านกรณีสนามกีฬาประจำอำเภอสำโรงทาบ ซึ่งประชาชนมีความต้องการ เนื่องจากจะเป็นสถานที่ในการทำกิจกรรมของนักเรียนและใช้ประโยชน์ต่อชุมชน จึงอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าว

ขณะที่ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย หารือกรณีถนนทางหลวง อำเภอโพธิ์ทอง-แสวงหา ยังดำเนินการไม่เสร็จสมบูรณ์ จึงฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการปรับปรุงให้เป็น 4 ช่องทางจราจรตลอดเส้นทาง รวมทั้งหารือปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างพื้นที่ทางหลวงหมายเลข 309 บริเวณวัดไชโย ถึงอำเภอเมืองจังหวัดอ่างทอง รวมทั้งช่วงแยกที่ดินถึงแยกอำเภอป่าโมก มีปัญหาในบางช่วง จึงอยากให้กรมทางหลวงพิจารณาดำเนินการดูแลและซ่อมแซมให้กับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังหารือขอให้ภาครัฐเพิ่มค่าตอบแทนให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งถือเป็นผู้ที่อาสาเข้ามาทำงานเพื่อชุมชนและสังคม จึงต้องการให้มีการเพิ่มสวัสดิการให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ พร้อมกันนี้ยังเสนอเพิ่มเงินดำรงชีพให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการ


พร้อมกันนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมในการพาคนไทยจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน กลับมายังประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ ของทางภาครัฐ ถือว่าเป็นมาตรฐานและมีการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา แต่สิ่งที่กังวล คือ เรื่องการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแพร่ระบาด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับข้อมูลด้านสาธารณสุขที่ถูกต้อง ป้องกันปัญหาเรื่องของข้อมูลข่าวที่เป็นเท็จ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ

จากนั้น นายวรศิษฏ์ เลียงประสิทธิ์ ส.ส.สตูล พรรคภูมิใจไทย ตั้งกระทู้ถามนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องผลกระทบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยว่า ขณะนี้ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ ได้แพร่ระบาดไปยังหลายประเทศ ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อในไทย 25 ราย รักษาหายแล้ว 8 คน และอีก 17 คนยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล มีหลายหน่วยงานที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดให้ได้ โดยไวรัสโคโรนาส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ทำให้ประชาชนวิตกกังวล ไม่กล้าเดินทางออกนอกประเทศ

นายวรศิษฏ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ทางการจีนมีการจำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาไทยลดลง ซึ่งภาคการท่องเที่ยว ถือเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่สำคัญของไทย โดยไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึงปีละ 3 ล้านล้านบาทจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 38 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนถึง 10 ล้านคน สูงที่สุดของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา ขณะนี้เห็นผลแล้วว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในเมืองหลักลดลง ทั้งจังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ กระบี่ สมุย และกรุงเทพฯ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าของที่ระลึก และเรือนำเที่ยวที่ซบเซาลง สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงถึงร้อยละ 60 แล้ว เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน และคาดว่าจะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องหากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย จึงขอถามว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีการติดตามสถานการณ์และมีการประเมินความเสียหายกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยอย่างไร และมีนโยบายช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทั้งในระยะสั้นอย่างไร และในระยะยาวมีนโยบายสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมาเที่ยวประเทศไทยอย่างไร รวมถึงมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ด้วย และทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีการวางแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมท่องเที่ยวในประเทศไว้อย่างไร เพื่อทดแทนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง 


ด้าน นายพิพัฒน์ ตอบกระทู้ถามว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ 2563 ทำให้ไทยสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวไปแล้วกว่า 12,249 ล้านบาท ทางกระทรวงฯ เล็งเห็นผลกระทบที่นักท่องเที่ยวชะลอตัว แต่เป็นโอกาสในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลเตรียมดำเนินการต่าง ๆ อาทิ การเพิ่มขีดความสามารถมัคคุเทศก์ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้พร้อมรองรับการท่องเที่ยว ให้กระทรวงการคลังออกมาตรการความเป็นไปได้ในการลดภาษีน้ำมันให้กับสายการบิน การลดดอกเบี้ยเงินกู้ออกไปอีก 6 เดือน ส่วนการช่วยเหลือธุรกิจด้านการท่องเที่ยวนั้น จะมีการลดภาษีสนามบินให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติใหม่ที่นอกจากจีน การสนับสนุนทุนดอกเบี้ยต่ำให้กับสถานประกอบการ การอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนเลื่อนการเดินทางมายังไทยได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะมีการประเมินผลด้านภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย การจัดทำแนวทางการสื่อสารระบบ Single Massage ให้เป็นแนวทางเดียวกัน เน้นย้ำสร้างความมั่นใจว่าประเทศไทยไม่ใช่แหล่งแพร่ระบาด และมีมาตรฐานการดูแลความปลอดภัยในระดับสากล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวจีนและนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ และมีการตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ โดยมีการประชุมทุก 2 วัน และวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ จะเชิญนายกสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มาร่วมกับทำเวิร์คช็อปเพื่อหามาตรการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวร่วมกัน รวมทั้งหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวด้วยว่า ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น แบ่งเป็นมาตรการในระยะ 3 เดือน และ 6 เดือนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2563 โดยจะชูชุดแข็งจากน้ำใจของคนไทย เต็มใจบริการ โดยจะมีการสื่อสารเพื่อเห็นใจและให้กำลังใจ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเครือข่ายผู้ประกอบการจีน สร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มเป้าหมายตลาดที่มีศักยภาพร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ การสร้างความเข้าใจในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีการสื่อสารให้ประชาชนรู้เท่าทันโรค แสดงออกถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ความห่วงใยในการดูแลสุขภาพไปยังนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีการแจกหน้ากากอนามัยในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และหากพบนักท่องเที่ยวที่เข้าข่ายติดเชื้อให้รีบแจ้งทันที

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการระยะยาว จะเน้นสร้างความมั่นใจในการคัดกรองนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวยุโรปที่จะเดินทางมาไทยในช่วงอีก 6 เดือนข้างหน้า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และกระตุ้นให้เกิดตลาดการท่องเที่ยว เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจลงตรา ยกระดับคุณภาพด้านการท่องเที่ยว ขยายเวลาธุรกิจภาคกลางคืน เฉพาะพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ สนับสนุนเที่ยวบินเหมาลำจากตลาดที่มีศักยภาพ เช่น เกาหลี รัสเซีย และจีน เชื่อว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพให้เดินทางมายังไทยได้ การส่งเสริมธุรกิจประชุม สัมมนา และแต่งงาน ให้เข้ามาจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง การประชาสัมพันธ์และเชิญชวนนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ โดยเฉพาะอินเดีย รวมถึงส่งเสริมและกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้มีการใช้จ่ายให้ทั่วถึงในธุรกิจห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]