รมว.ท่องเที่ยวฯ ตอบกระทู้ แก้ปัญหาท่องเที่ยวจากผลกระทบไวรัสโคโรนา

รัฐสภา 5 ก.พ.-สภาฯ ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่ รมว.ท่องเที่ยวฯ ย้ำเน้นสร้างความมั่นใจไทยไม่ใช่แหล่งแพร่ระบาด มีมาตรฐานการดูแลความปลอดภัยในระดับสากล


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (5 ก.พ.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมสภาฯ โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ประธานได้เปิดโอกาสให้สมาชิกปรึกษาหารือตามข้อบังคับการประชุม ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเกี่ยวกับสาธารณูปโภค อาทิ ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านกรณีสนามกีฬาประจำอำเภอสำโรงทาบ ซึ่งประชาชนมีความต้องการ เนื่องจากจะเป็นสถานที่ในการทำกิจกรรมของนักเรียนและใช้ประโยชน์ต่อชุมชน จึงอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าว

ขณะที่ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย หารือกรณีถนนทางหลวง อำเภอโพธิ์ทอง-แสวงหา ยังดำเนินการไม่เสร็จสมบูรณ์ จึงฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการปรับปรุงให้เป็น 4 ช่องทางจราจรตลอดเส้นทาง รวมทั้งหารือปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างพื้นที่ทางหลวงหมายเลข 309 บริเวณวัดไชโย ถึงอำเภอเมืองจังหวัดอ่างทอง รวมทั้งช่วงแยกที่ดินถึงแยกอำเภอป่าโมก มีปัญหาในบางช่วง จึงอยากให้กรมทางหลวงพิจารณาดำเนินการดูแลและซ่อมแซมให้กับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังหารือขอให้ภาครัฐเพิ่มค่าตอบแทนให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งถือเป็นผู้ที่อาสาเข้ามาทำงานเพื่อชุมชนและสังคม จึงต้องการให้มีการเพิ่มสวัสดิการให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ พร้อมกันนี้ยังเสนอเพิ่มเงินดำรงชีพให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการ


พร้อมกันนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมในการพาคนไทยจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน กลับมายังประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ ของทางภาครัฐ ถือว่าเป็นมาตรฐานและมีการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา แต่สิ่งที่กังวล คือ เรื่องการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแพร่ระบาด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับข้อมูลด้านสาธารณสุขที่ถูกต้อง ป้องกันปัญหาเรื่องของข้อมูลข่าวที่เป็นเท็จ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ

จากนั้น นายวรศิษฏ์ เลียงประสิทธิ์ ส.ส.สตูล พรรคภูมิใจไทย ตั้งกระทู้ถามนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องผลกระทบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยว่า ขณะนี้ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ ได้แพร่ระบาดไปยังหลายประเทศ ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อในไทย 25 ราย รักษาหายแล้ว 8 คน และอีก 17 คนยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล มีหลายหน่วยงานที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดให้ได้ โดยไวรัสโคโรนาส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ทำให้ประชาชนวิตกกังวล ไม่กล้าเดินทางออกนอกประเทศ

นายวรศิษฏ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ทางการจีนมีการจำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาไทยลดลง ซึ่งภาคการท่องเที่ยว ถือเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่สำคัญของไทย โดยไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึงปีละ 3 ล้านล้านบาทจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 38 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนถึง 10 ล้านคน สูงที่สุดของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา ขณะนี้เห็นผลแล้วว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในเมืองหลักลดลง ทั้งจังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ กระบี่ สมุย และกรุงเทพฯ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าของที่ระลึก และเรือนำเที่ยวที่ซบเซาลง สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงถึงร้อยละ 60 แล้ว เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน และคาดว่าจะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องหากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย จึงขอถามว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีการติดตามสถานการณ์และมีการประเมินความเสียหายกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยอย่างไร และมีนโยบายช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทั้งในระยะสั้นอย่างไร และในระยะยาวมีนโยบายสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมาเที่ยวประเทศไทยอย่างไร รวมถึงมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ด้วย และทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีการวางแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมท่องเที่ยวในประเทศไว้อย่างไร เพื่อทดแทนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง 


ด้าน นายพิพัฒน์ ตอบกระทู้ถามว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ 2563 ทำให้ไทยสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวไปแล้วกว่า 12,249 ล้านบาท ทางกระทรวงฯ เล็งเห็นผลกระทบที่นักท่องเที่ยวชะลอตัว แต่เป็นโอกาสในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลเตรียมดำเนินการต่าง ๆ อาทิ การเพิ่มขีดความสามารถมัคคุเทศก์ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้พร้อมรองรับการท่องเที่ยว ให้กระทรวงการคลังออกมาตรการความเป็นไปได้ในการลดภาษีน้ำมันให้กับสายการบิน การลดดอกเบี้ยเงินกู้ออกไปอีก 6 เดือน ส่วนการช่วยเหลือธุรกิจด้านการท่องเที่ยวนั้น จะมีการลดภาษีสนามบินให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติใหม่ที่นอกจากจีน การสนับสนุนทุนดอกเบี้ยต่ำให้กับสถานประกอบการ การอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนเลื่อนการเดินทางมายังไทยได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะมีการประเมินผลด้านภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย การจัดทำแนวทางการสื่อสารระบบ Single Massage ให้เป็นแนวทางเดียวกัน เน้นย้ำสร้างความมั่นใจว่าประเทศไทยไม่ใช่แหล่งแพร่ระบาด และมีมาตรฐานการดูแลความปลอดภัยในระดับสากล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวจีนและนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ และมีการตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ โดยมีการประชุมทุก 2 วัน และวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ จะเชิญนายกสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มาร่วมกับทำเวิร์คช็อปเพื่อหามาตรการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวร่วมกัน รวมทั้งหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวด้วยว่า ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น แบ่งเป็นมาตรการในระยะ 3 เดือน และ 6 เดือนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2563 โดยจะชูชุดแข็งจากน้ำใจของคนไทย เต็มใจบริการ โดยจะมีการสื่อสารเพื่อเห็นใจและให้กำลังใจ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเครือข่ายผู้ประกอบการจีน สร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มเป้าหมายตลาดที่มีศักยภาพร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ การสร้างความเข้าใจในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีการสื่อสารให้ประชาชนรู้เท่าทันโรค แสดงออกถึงการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ความห่วงใยในการดูแลสุขภาพไปยังนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีการแจกหน้ากากอนามัยในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และหากพบนักท่องเที่ยวที่เข้าข่ายติดเชื้อให้รีบแจ้งทันที

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการระยะยาว จะเน้นสร้างความมั่นใจในการคัดกรองนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวยุโรปที่จะเดินทางมาไทยในช่วงอีก 6 เดือนข้างหน้า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และกระตุ้นให้เกิดตลาดการท่องเที่ยว เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจลงตรา ยกระดับคุณภาพด้านการท่องเที่ยว ขยายเวลาธุรกิจภาคกลางคืน เฉพาะพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ สนับสนุนเที่ยวบินเหมาลำจากตลาดที่มีศักยภาพ เช่น เกาหลี รัสเซีย และจีน เชื่อว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพให้เดินทางมายังไทยได้ การส่งเสริมธุรกิจประชุม สัมมนา และแต่งงาน ให้เข้ามาจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง การประชาสัมพันธ์และเชิญชวนนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ โดยเฉพาะอินเดีย รวมถึงส่งเสริมและกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้มีการใช้จ่ายให้ทั่วถึงในธุรกิจห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]