ซีไอเอ็มบีชี้ไวรัสโคโรนาฉุดนักท่องเที่ยวมาไทยครึ่งปีแรกหาย 30%

กรุงเทพฯ 3 ก.พ. – ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยประเมินไวรัสโคโรนาระบาดฉุดนักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติมาไทยครึ่งปีแรกหาย 30% พร้อมติดตามมาตรการฟื้นเศรษฐกิจของจีนช่วงครึ่งปีหลัง หวั่นจีนใช้มาตรการจีนเที่ยวจีนจะยิ่งกระทบท่องเที่ยวไทยทั้งปี แนะรัฐบาลไทยใช้ยาแรงกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ


นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัยซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกจะได้รับผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวคาดว่านักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติที่เดินทางมาไทยครึ่งปีแรกจะติดลบ 30 % ขณะที่ภาคการส่งออกของไทยจะได้รับผลกระทบจากการที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนไตรมาส 1/2563 จะขยายตัวเพียง 4% ซึ่งน้อยกว่าไตรมาส 1/2562 ที่ขยายตัวได้ 6% ประกอบกับเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นอาจทำให้ส่งออกไทยครึ่งปีแรกติดลบ ขณะที่การบริโภคภายในประเทศครึ่งปีแรกยังชะลอจากปัญหาภัยแล้ง และ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ที่ยังสะดุด โดยคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายและมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบไตรมาส 3 ทำให้การลงทุนของภาครัฐล่าช้า เอกชนขาดความเชื่อมั่นส่งผลต่อการจ้างงานและรายได้ของประชาชน พร้อมยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 จะโตต่ำกว่า 2% และทั้งปี 2563 จะโตต่ำกว่า 2.7% 

สำหรับประเด็นสำคัญที่ยังต้องติดตาม แม้ไวรัสโคโรนาจะคลี่คลาย คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่อาจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินและนโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลง รวมทั้งยังต้องจับตานโยบายจีนเที่ยวจีน ซึ่งรัฐบาลจีนเคยใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ จึงเป็นโจทย์ที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจะต้องเตรียมรับมือ  


ทั้งนี้ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัยซีไอเอ็มบีไทย ระบุฝากความหวังกับการใช้นโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย และนโยบายทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะช่วยประคองภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรก พร้อมยอมรับมีความเป็นห่วงการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากมีงบประมาณทางการคลังที่จำกัด และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่หวังผลระยะสั้นที่เคยใช้อาจไม่ได้ผลเหมือนในอดีต จึงมองไทยอาจจำเป็นต้องใช้ยาแรง เช่น มาตรการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือลดหย่อนเรื่องต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนระดับกลางถึงบนที่ยังมีกำลังซื้อ แต่เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีมีข่าวลบค่อนข้างมาก ทำให้ขาดความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย