ครม.เตรียมพิจารณา “ชิมช้อปใช้เฟส 4” ผลักดันไทยเที่ยวไทย

พัทลุง 3 ก.พ. – ครม.เตรียมพิจารณาชิมช้อปใช้เฟส 4 ผลักดันไทยเที่ยวไทย หลังปัญหาไวรัสโคโรนากระทบนักท่องเที่ยวต่างชาติ  วันนี้นัดถก ผอ.สำนักประมาณหาทางออกงบปี 63 สั่ง ธ.ก.ส.ตั้งบริษัทลูกซื้อเครื่องจักรให้เกษตรกรเช่า



นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยระหว่างลงพื้นติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน “โครงการประชารัฐสร้างไทย พัฒนาปักษ์ใต้ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน”  ว่า เศรษฐกิจไทยเจอมรสุมหลายลูก ทั้งปัญหาไวรัสโคโรนากระทบต่อการท่องเที่ยว ปัญหางบประมาณปี 2563 ยังไม่บังคับใช้ ปัญหาเศรษฐกิจโลก แต่ไม่ใช่เวลาต้องมานั่งโทษใคร ทุกคนต้องหันหน้าเข้าหากัน เพื่อให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ แม้จีดีพีจะขยายตัวลดลงไปบ้าง แต่ไทยยังมีศักยภาพดีพอ ยอมรับปัญหางบประมาณเป็นพายุลูกใหญ่ต้องหาทางผ่าทางตันไปให้ได้เร็วที่สุด จึงเตรียมหารือกับผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อหาทางออกร่วมกันวันนี้ (3 ก.พ.) รองรับการใช้จ่ายงบประมาณ  และระหว่างรอช่องทางใช้เงินต้องศึกษาดูว่าจำเป็นหรือไม่ ต้องมีแหล่งเงินมาใช้หมุนเวียนเพิ่มเติม 


“กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.พิจารณามาตรการส่งเสริม “ไทยเที่ยวไทย” วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อดูแลภาคท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากปัญหาไวรัสโคโรนา ผ่านโครงการชิมช้อปใช้เฟส 4 เมื่อต่างชาติไม่เดินทางเข้ามา จึงต้องงัดมาตรการจูงใจคนไทยเที่ยวไทย หวังลดผลกระทบจากปัญหาโรคแพร่ระบาด และต้องดูแลน้ำใจนักท่องเที่ยวจีน เมื่อโรคระบาดคลี่คลายจะได้กลับมาเยือนอีกครั้ง รวมทั้งปัญหางบประมาณ ทุกคนต้องเผชิญ ทุกคนจึงต้องช่วยกันหาทางออก การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จึงต้องแนะนำหาทางออกร่วมกัน ไม่ใช่การสาดโคลนจนทำให้ชาวบ้านเบื่อการเมือง ไม่ใช่เห็นแต่การทะเลาะกัน หากแนะนำแนวทางออกจะไม่มีปัญหาระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน  เพราะทุกครั้งลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน เขาไม่สนใจว่าจะมาจากพรรคการเมืองไหน แต่หากเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ชาวบ้านเขาต้อนรับและรักอย่างจริงใจ” นายสมคิด กล่าว 


นายสมคิด กล่าวเพิ่มเตมว่า ความร่วมมือของทุกฝ่ายต้องไม่ทำให้ต่างชาติรับรู้ว่าไทยกำลังมีปัญหา  เพราะในสายต่างนักลงทุนต่างชาติยังเชื่อมั่นไทย และทุกประเทศต่างมีปัญหาทั้งนั้น จึงต้องช่วยกันประคับประคอง สัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงการคลังออกมาตรการกระตุ้นการลงทุนหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 2.5 เท่า การยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักร แบงก์รัฐร่วมปล่อยสินเชื่อ จึงมั่นใจเอกชนมาลงทุน เพราะถึงจุดที่ต้องลงทุนเพื่อประคองเศรษฐกิจไทย ค่าเงินบาทแข็งค่าเป็นโอกาสต่อการลงทุน เพื่อช่วยเหลือประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องระวังอย่างใกล้ชิด หากรักษาระดับเคลื่อนไหวปัจจุบันจะดูแลเรื่องส่งออกได้เช่นกัน และสงครามการค้าจีน-สหรัฐคลี่คลาย การส่งออกจะฟื้นกลับมาใหม่ ชี้ให้เห็นว่าการพึ่งพาการส่งออกมากเกินไปเป็นจุดอ่อนสำคัญและได้พูดมาตลอดหลายเวที   

รัฐบาลจึงต้องเน้นสร้างเศรษฐกิจไทยในประเทศให้เข้มแข็ง จึงหวังใช้นโยบายประชารัฐสร้างไทย ทำให้ชุมชนเข้มแข็งพัฒนาสินค้าท้องถิ่น นำจุดแข็งท้องถิ่นมาปรับปรุงพัฒนา มาสร้างรายได้ให้ชุมชน เช่นสถาบันการเงินชุมชนหลายแห่งภาคใต้มีทุน 20-30 ล้านบาท และยังเพิ่มขึ้นผ่านการบริหารกันเองในชุมชน เมื่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ร่วมกันดูแลให้เข้มแข็ง 100-200 แห่งประเทศ ชาวบ้านจะมีแหล่งทุนในชุมชน เช่น ผลิตภัณฑ์กระจูดวรรณี จ.พัทลุง สร้างรายได้ให้สมาชิกในชุมชนอย่างมาก แนวโน้มยังทำตลาดออนไลน์ได้เพิ่มเติม 

“ทุกหน่วยงานจึงต้องเข้ามาแนะนำเติมความรู้ จุดประกายแนวคิดกับชาวบ้าน จึงมอบหมายให้ ธ.ก.ส.ศึกษาการตั้งบริษัทลูก เพื่อซื้อเครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ ทางการเกษตร จากนั้นจะไปให้กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน หรือเกษตรกรรายย่อยเช่าใช้ประโยชน์ เพราะรายย่อยไม่มีทุนดำเนิน หรือจะให้ผ่อนเป็นรายเดือน รายปี หากมีเครื่องมือ เครื่องจักรรองรับการแปรรูป จะมีกำลังขยายกิจการในชุมชน บางครั้งคิดได้แต่ไม่มีทุนซื้อเครื่องมือเครื่องจักร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกัน” นายสมคิด กล่าว 

ทั้งนี้ การใช้เครื่องมือดึงหลายหน่วยงานพัฒนาชุมชนเริ่มมา 15 ปีแล้ว เช่น กองทุนหมู่บ้านฯ จึงต้องประสานร่วมกันมากขึ้นเพื่อให้เกิดพลัง หากกองทุนหมู่บ้าน 70,000 แห่ง เข้าใจทิศทางเดียวกัน รัฐบาลเติมทุน แบงก์รัฐ หรือแห่งอื่นช่วยส่งเสริม ร่วมก้าวต่อไปได้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองให้ขยายตัวผู้นำชุมชนต้องเข้าใจแนวทางพัฒนา เพื่อไม่ต้องขายสินค้าโอทอปปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น รอการจัดงานโอทอป ช่วงนี้จึงต้องเร่งตามจี้ทุกหน่วยงานผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เช่น ตลาดสวนไผ่ขวัญใจ เพียงแค่ค่าจอดรถจากคนมาเที่ยวตลาดยังสร้างรายได้ให้ชุมชน จึงต้องผลักดันให้เป็นตัวอย่างกับชุมชนอื่น เพราะหากพัฒนาได้ดีจะเป็นตัวอย่างให้กับชุมชนอื่น ๆ

“หากทุกจังหวัดชุมชนเข้มแข็งจะเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตจากข้างใน แต่ละจังหวัดผลิตสร้างรายได้ บริการเท่าใด เช่น จังหวัดพัทลุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองอันดับหนึ่ง ช่วยเพิ่มรายได้เติบโตถึงร้อยละ 4 ต่อปี หากรายได้ชุมชนเพิ่มต่อเนื่องจะไม่ต้องรอการส่งออกไปต่างประเทศ การใช้จ่ายภาครัฐ เมื่อ ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ส่งเสริมให้ขายสินค้าออนไลน์ได้ บริษัท ไปรษณีไทยส่งสินค้าได้ การขายสินค้าสะดวกขึ้นการระเบิดจากข้างในตามแนวทางในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงเป็นโอกาสต้องเร่งทำ จ.แพร่ น่าน เริ่มเติบโต หากผลักดันได้ครบทุกจังหวัดเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งแน่นอน” นายสมคิด กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]