กรุงเทพฯ 2 ก.พ.- ประธานวิปฝ่ายค้าน เตรียมประชุมหาข้อมูลและจัดทำประเด็นซักฟอกเป็นซีรีส์ ก่อนวางตัวผู้อภิปราย กังวลผู้อภิปรายประสบการณ์น้อย เตรียมซักซ้อมต่อเนื่อง เชื่อมีข้อมูลเด็ดที่ประชาชนอยากรู้ ยืนยันพรรคเศรษฐกิจใหม่ถอนตัวจากพรรคฝ่ายค้านไม่มีผลต่อการทำงาน กลับสบายใจมากกว่าเดิม
นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน และส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมหลังพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 6 รัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้คุยกันมาอยู่เรื่อย ๆ ในวันพรุ่งนี้จะเป็นการเอาเนื้อหามาลงรายละเอียด และทำเป็นซีรีส์ เชื่อมต่อกัน ก่อนที่จะวางตัวผู้ที่จะอภิปราย และวางลำดับ วางสคริปต์ คร่าวๆ เนื่องจากมีผู้อภิปรายจำนวนมาก จึงไม่อยากให้ประเด็นซักฟอกซ้ำกัน
“พรุ่งนี้เริ่มลงดีเทลแล้ว แต่ก็กังวลนิดหน่อย เพราะคนเยอะ ประมาณ 20-25 คน ซึ่งหลายคนยังประสบการณ์น้อย ก็ต้องเติมประสบการณ์ให้ใหม่ โดยจะซักซ้อมและจัดประชุมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนของข้อมมูลนั้นเรามีดีและเนื้อหาแน่น” นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงไฮไลท์ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เป็นเรื่องใด นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่อยากอภิปรายให้เห็นภาพที่ บางเรื่อง บางอย่าง บางคนไม่รู้หรือไม่คิดว่าผู้ที่ถูกอภิปรายจะเป็นได้ หรือทำได้ขนาดนี้ เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่ประธานจะสั่งห้ามไม่ให้มีการอภิปรายเชื่อมโยงเรื่องในอดีตที่ผ่านมาโดยให้อภิปรายในกรอบการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันเท่านั้น นายสุทิน กล่าวว่า เชื่อว่าเป็นเกมของเขาอยู่แล้ว ที่จะต้องห้ามปรามแบบนี้ แต่เราเอาอยู่ เชื่อว่ามันมีคำอธิบายได้ ที่เราจะโยงให้เห็นภาพต่อเนื่องกัน ซึ่งก็ต้องมีการเท้าความ สำคัญที่สุดต้องถามประชาชน และให้ประชาชนตัดสิน
“เพราะเป็นเรื่อง 4-5 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยมีการตรวจสอบ ถามว่าประชาชนอยากฟังอยากให้เราตรวจสอบไหมก็ต้องถามประชาชนด้วย ส่วนใหญ่ก็อยากฟัง แต่อย่างไรก็ตาม พรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะประชุมกันอย่างดี ท้ายที่สุดเป็นเรื่องทักษะที่ต้องเน้นให้กับผู้อภิปรายฉายภาพให้เห็นเป็นซีรีส์ ให้เห็นถึงความล้มเหลวที่ผ่านมา”นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงการที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ประกาศถอนตัวจากฝ่ายค้าน ถือว่าส่งผลกระทบต่อพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า การที่พรรรคเศรษฐกิจใหม่ถอนตัวออกไปนั้น ไม่มีผลเลย เพราะตอนอยู่เมื่อก่อนมีก็เหมือนไม่มี แทบจะไม่มีผลอะไรเลย ดังนั้นจะไปหรืออยู่ก็ไม่ต่างกัน กลับกันตอนที่อยู่ต่างหาก มีแต่ความกังวลมากกว่า เพราะกลัวว่าความลับจะรั่วไหลไปยังฝั่งรัฐบาล ตอนนี้จึงมีความสบายใจมากกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย