กทม.2 ก.พ.-ผลสำรวจพบประชาชนเชื่อมั่นกระทรวงสาธารณสุขสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้ และส่วนใหญ่ยังตื่นตัวดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้น ทั้งสวมหน้ากากอนามัย ไม่ไปแหล่งชุมชน นอกจากนี้ยังเห็นว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข ทำเต็มที่แล้ว
ผศ.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่องเสียงประชาชนต่อโรคโคโรนา กรณี ศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ ผ่าน “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” (Social Media Voice)ด้วยระบบ Net Super Poll จำนวน 5,968 ตัวอย่าง และ “เสียงประชาชนในสังคมดั้งเดิม” (Traditional Voice) จำนวน 1,302 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 29 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา พบว่า
ส่วนใหญ่ร้อยละ 59.6 คิดว่าช่วงเวลาของการระบาดโรคโคโรนาจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ขณะที่ร้อยละ 40.4 คิดว่าจะระบาดอีกนาน เป็นช่วงระยะยาว อย่างไรก็ดีส่วนใหญ่ร้อยละ 87.7 มีความตื่นตัวดูแลสุขภาพมากขึ้นด้วยการใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงคนหนาแน่น แหล่งท่องเที่ยว เวลาทานอาหารร่วมกับผู้อื่น กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เป็นต้น ขณะที่ร้อยละ12.3 ยังเฉย ๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ไม่ตื่นตัวอะไร
อย่างไรก็ตามที่น่าสนใจคือความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระทรวงสาธารณสุขไทย หมอไทยเก่ง เชื่อมือหมอ ระบบสาธารณสุขไทยดี คุมโรคระบาดได้อยู่ ร้อยละ 57.9 ขณะที่ไม่เชื่อมั่นร้อยละ 42.1 และส่วนใหญ่ร้อยละ 74.7 เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำงานเต็มที่แล้ว และส่วนใหญ่เช่นกันหรือร้อยละ 63.6 เห็นว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขทำงานเต็มที่แล้ว
ส่วนผลการสำรวจประมาณการ “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” (Social Media Voice) ผ่านระบบ Net Super Poll เกี่ยวกับโรคระบาดโคโรนา พบว่า มีจำนวนคนที่ข้อมูลโรคระบาดโคโรนาเข้าถึงในโลกโซเชียลเพิ่มขึ้นจาก 21,602,083 คนหรือประมาณ 21 ล้านกว่าคนในวันที่ 25 มกราคม สูงขึ้นมาอยู่ที่ 22,998,547 คน หรือเกือบ 23 ล้านคนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้พฤติกรรมการพูดคุยของคนในโลกโซเชียลเป็นเชิงบวกต่อการตื่นตัวและใส่ใจสุขภาพมากขึ้นร้อยละ 54.2 ขณะที่เป็นข้อความเชิงลบอยู่ที่ร้อยละ 45.8 ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากและที่น่าห่วงคือ กลุ่มคนอิทธิพลในโลกโซเชียลของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลส่วนใหญ่จะโจมตีรัฐบาลและเผยแพร่ข้อมูลน่ากลัวเกี่ยวกับโรคระบาดโคโรนา แต่ข้อมูลจากสำนักข่าวกระแสหลักจะให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์เชิงเฝ้าระวังป้องกันมากกว่า
อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนในโลกโซเชียลกลางๆไม่ฝักใฝ่การเมืองจะส่งข้อความส่วนใหญ่เป็นเรื่องการแนะนำใส่หน้ากากอนามัยป้องกันได้ทั้งฝุ่นและโรคระบาด นอกจากนี้ ยังค้นพบข้อความให้กำลังใจเตือนให้ระวังการติดเชื้อและการให้กำลังใจกันต่อคนไทยและต่างชาติมากกว่าจะมองเป็นเรื่องการเมือง เช่น ใส่หน้ากากอนามัย คนจีนเขาไม่กล้าด่ารัฐบาลของเขา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองเขาแยกแยะออก เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย