สุราษฎร์ธานี 28 ม.ค. – พาลงใต้ไปไล่ล่าโจรโรคจิต ฉายา “เสือโหย” ที่ก่อเหตุฉุดคร่าข่มขืนผู้หญิงต่อเนื่อง ในพื้นที่ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้ชาวบ้านหวาดผวาหนัก ไม่กล้าออกกรีดยางในช่วงกลางคืน ล่าสุดเจ้าหน้าที่รวบตัว “เสือโหย” ได้แล้ว ขณะนอนหลับอยู่บนเปลในป่า
นี่เป็นโฉมหน้าของ “เสือโหย” หรือนายอนุสรณ์ สมบุญ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนต่อเนื่อง ตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ข้อหาพยายามข่มขืนกระทำชำเรา บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีพฤติกรรมละเมิดทางเพศ ฉุดคร่าข่มขืนผู้หญิง โดยเฉพาะเด็กสาวที่ขับขี่รถจักรยานยนต์คนเดียวในยามค่ำคืน และอยู่บ้านตามลำพัง ไม่เว้นแม้แต่ญาตินามสกุลเดียวกัน โดยฝ่ายปกครอง ตำรวจ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เกือบ 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลายจุด แต่ยังไร้วี่แวว เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะยังกบดานอยู่ในพื้นที่ ขณะเดียวกัน ทางอำเภอได้ออกหนังสือเวียน คาดโทษเอาผิดกับผู้ให้ความช่วยเหลือและให้ที่พักพิงผู้ต้องหา ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ชาวบ้านผวาหนัก ไม่กล้าออกกรีดยางในช่วงกลางคืน ต้องเปลี่ยนเวลามากรีดยางในช่วงเช้าแทน
เหตุการณ์ล่าสุดประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน “เสือโหย” ได้บุกเข้าบ้านหญิงสาวที่เป็นญาติกันและนามสกุลเดียวกัน หวังข่มขืน แต่หญิงสาวตื่นขึ้นมาโวยวายเสียงดัง ทำให้หลบหนีไป และผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันนี้ (28 ม.ค.) หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อส. อ.คีรีรัฐนิคม ช่วยกันติดตามตัวและออกกดดันตามบ้านญาติ สามารถจับกุมตัว “เสือโหย” ได้แล้ว ขณะกำลังนอนหลับอยู่บนเปลในป่า ซึ่ง ตชด.ได้ใช้สุนัขดมกลิ่นจากเสื้อผ้าของ “เสือโหย” ที่ทิ้งไว้ภายในบ้านของแม่ ซึ่งเขามาอาศัยอยู่ก่อนก่อเหตุ และเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังในพื้นที่ป่า หมู่ 10 ต.ย่านยาว อ.คีรีรัฐนิคม จนกระทั่งพบร่องรอยหลายจุด และจับกุมตัวได้ในที่สุด ก่อนจะนำตัวมาที่ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่ “เสือโหย” ลงจากรถ โดยมีผ้าคลุมหน้า ผู้เป็นแม่เข้าไปกอดร้องไห้อย่างหนัก พร้อมกับถามว่า ลูกทำจริงหรือเปล่า ซึ่ง “เสือโหย” ได้พูดกับแม่ว่า อะไรจริงไม่จริง เดี๋ยวก็รู้ โดยภายหลังข่าวการจับกุม ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่รู้สึกโล่งใจ และคลายความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
สำหรับประวัตินายอนุสรณ์ หรือ “เสือโหย” เคยถูกดำเนินคดีข้อหาครอบครองอาวุธปืน ข่มขืนและอนาจาร ในพื้นที่ อ.คีรีรัฐนิคม โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เข้าออกเรือนจำ 4-5 ครั้ง ครั้งละ 9 เดือนถึง 2 ปี ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษมาได้ประมาณ 2 เดือน และกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก ผู้เสียหายหลายคนโดนกระทำ แต่ไม่กล้าแจ้งความ. – สำนักข่าวไทย