กทม. 25 ม.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ปกคลุมพื้นที่ กทม. เข้มตรวจจับรถควันดำ ปัญหาหลักทำเกิดฝุ่นพิษ
พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากที่ประชุมใหญ่ซึ่งมี พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานและร่วมกำหนดมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง PM 2.5 ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยพบว่า ปริมาณ PM 2.5 กว่า 72.5 มีสาเหตุมาจากการขนส่งทางถนน ซึ่งนอกเหนือจาก 12มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยึดเป็นแนวทางที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนแล้ว กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้กวดขันตั้งจุดตรวจวัดควันดำรถยนต์ที่เกินมาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 มีผลการจับกุม 141,760 คดี มากกว่าปีก่อนทถึง 8,027 คดี คิดเป็นร้อยละ 6 และเฉพาะในเดือนมกราคม2563 ถึงปัจจุบัน มีการจับกุมดำเนินคดีแล้วจำนวน 8,284 คดี มากกว่าเดือนธันวาคม 2562 ที่มีผลการจับกุม 7,880 คดี ถึง 404 คดี
ในส่วนการให้บริการประชาชน กองบังคับการตำรวจจราจร ได้ดำเนินการควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย โดยมีการตั้งจุดบริการตรวจวัดควันดำเพื่อประชาชน จำนวน 3 จุด กระจายรอบพื้นที่กรุงเทพฯได้แก่ จุดตรวจ สน.คู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี , จุดตรวจ งานช่างเครื่องยนต์/ตรวจพิสูจน์ กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร และ จุดตรวจถนนเทพรัตน์ กม.2 โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.36 ระหว่างเวลา 09.00-15.00 น.เว้นวันอาทิตย์ ประชาชนทั่วไปสามารถมาติดต่อขอรับบริการได้ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจวัดมลพิษจากท่อไอเสียรถประจำทาง จำนวนกว่า 1,180 คัน ประสานความร่วมมือกับห้างร้าน สถานประกอบการ ในการช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองอีกทางหนึ่ง
พลตำรวจโทปิยะ กว่าวต่อว่า ผบ.ตร.ยังสั่งการให้ทุกหน่วยกำหนดแผนการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหา ทั้งมาตรการการบังคับใช้กฎหมาย มาตรการแสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย มาตรการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ โดยแบ่งออกเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ต่อเนื่องได้ผลเป็นรูปธรรม เน้นย้ำการตั้งด่านเพื่อตรวจวัดควันดำ จะต้องไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด และให้กำหนดตัวบุคคลที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน ควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ ทั้งนี้ ยังได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลประสานไปยัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อนำรถยนต์ไฟฟ้ามาปฏิบัติหน้าที่แทน เพื่อช่วยลดมลพิษอีกทางหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย