กทม. 22 ม.ค.- พรุ่งนี้ เข้าสแกนบ้าน”ไอซ์ หีบเหล็ก”อีกครั้ง ประสาน นักประดาน้ำบริษัทเอกชน ใช้เทคโนโลยี กล้องถ่ายถาพใต้น้ำหาศพเพิ่ม
พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ประชุมชุดสืบสวน สน. เพชรเกษม ตำรวจสวัสดิภาพเด็กและสตรี หรือ ดส.เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางแค ตำรวจน้ำ และผู้เกี่ยวข้อง หารือแนวทางการนำน้ำออกจากสระเพื่อค้นหาศพเพิ่มเติม บริเวณบ่อน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่บ้านเลขที่ 59 ท้าย ซอยเพชรเกษม 47 ของนายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ หรือ “ไอซ์ หีบเหล็ก” ผู้ต้องหาคดีครอบครองอาวุธปืน ยาเสพติด และฆ่าอำพรางศพน้องกุ๊กกิ๊ก ตามคำบอกเล่าของพยานซึ่งระบุว่า ยังมีศพหญิงสาวอีก 1 ราย ซึ่งเป็นรายที่ 3 ถูกนำใส่หีบเหล็กโยนทิ้งบ่อน้ำนี้
โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังตำรวจสวัสดิภาพเด็กและสตรี ได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางแค เข้าประเมินพื้นที่บ่อน้ำ พิจารณาความเป็นไปได้ในการสูบน้ำออกจากบ่อ เพื่อค้นหาศพเพิ่มเติม ก่อนเสนอข้อมูลต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หาข้อยุติว่าจะสูบน้ำหรือไม่
ด้านพลตำรวจโทภัคพงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า ยังไม่มีการสูบน้ำออกจากบ่อในขณะนี้ แต่ในวันพรุ่งนี้เวลา 10 .00 น. จะใช้วิธีการเข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยการประสานกองพิสูจน์หลักฐานและขอหมายศาลเข้าตรวจค้นร่วมกับนักประดาน้ำ ตำรวจน้ำ และยังได้รับความร่วมมือจากบริษัทเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการค้นหาสิ่งของใต้ น้ำร่วมค้นหา โดยจะใช้เทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพใต้น้ำในการบันทึกภาพตรวจสอบวัตถุพยานต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าวิธีนี้จะเพียงพอในการค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมและค้นหาศพ ในคดีดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามการที่ตำรวจนครบาล ยังไม่ใช้วิธีการสูบน้ำออกจากบ่อ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางแค ได้ประเมินว่าจะต้องใช้เวลานานถึง1 สัปดาห์ ในการสูบน้ำออกจากบ่อ
ส่วนการดำเนินคดีกับนายไอซ์ ได้มี การดำเนินคดี ทั้งหมด 4 คดีคือคดีมีอาวุธปืนไว้ครอบครอง และมียาเสพติดไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย /คดีการตรวจยึดยาบ้าได้อีก 2,000 เม็ด /คดีฆาตกรรม น.ส.กุ๊กกิ๊ก ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด และ คดีที่พบโครงกระดูกเพิ่มเติม ในบ้าน.โดยยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเด็กอายุ 12 ปีที่ มารดามาแจ้งความคนหายไว้หรือไม่ จึงยังต้องรอผลตรวจ ชิ้นส่วนของกระดูก จากแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช รายงานผล ชันสูตร ก่อนว่าเป็นของผู้ใด และเป็นของคนเดียวกันทั้งหมดหรือไม่ ทั้งนี้ หากพบว่ามีผู้กระทำผิดร่วมด้วย ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย