กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – กรมสรรพากรจับมือสมาคมธนาคารไทย ชูแคมเปญ “SMEs โปรดี บัญชีเดียว” ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมแจงคลังเล็งขยายเวลายื่นภาษีบุคคลถึงสิ้น มิ.ย.หวังบรรเทาภาระประชาชน
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรร่วมกับสถาบันการเงิน 20 แห่ง ลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้จัดทำบัญชีชุดเดียวและงบการเงินถูกต้องและสอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการ ซึ่งเป็นโครงการการต่อเนื่องจากมาตรการเอสเอ็มอี บัญชีชุดเดียวและเป็นการยกระดับความร่วมมือครั้งสำคัญของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จัดทำงบการเงินที่ถูกต้องสะท้อนผลการดำเนินงานของกิจการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมายื่นแล้ว 79,000 ราย ผ่านการตรวจสอบแล้ว 24,000 ราย
ทั้งนี้ จะร่วมกับสมาคมธนาคารไทยให้ความรู้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและใช้เทคโนโลยีใหม่ในการทำดิจิทัลเซอร์วิวพร้อมเชื่อมโยงข้อมูลไปยังบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เพื่อให้สามารถนำไปขอสินเชื่อและบริการทางการเงินที่ดียิ่งขึ้น
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ปี 2562 มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 3,084,290 ราย ก่อให้เกิดการจ้างงานรวม 13,950,241 คน คิดเป็นร้อยละ 85.5 ของการจ้างงานรวมทั้งประเทศ และก่อให้เกิดจีดีพีร้อยละ 43 ของจีดีพีทั้งประเทศ โดยตัวเลขประมาณการจีดีพีเอสเอ็มอีปี 2562 เติบโตร้อยละ 3.5 ซึ่งมากกว่าจีดีพี ของประเทศที่เติบโตร้อยละ 2.5 ขณะที่เอสเอ็มอีจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประมาณ 700,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เสียภาษีให้รัฐประมาณ 420,000 ราย โดยรายที่เสียภาษีมีไม่น้อยที่กิจการมีหลายบัญชี เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ที่ต่างกรรมต่างวาระ จึงไม่สามารถนำงบการเงินมาวิเคราะห์สภาพคล่องและรู้ผลการดำเนินงานที่แท้จริงของธุรกิจได้ ทำให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก เนื่องจากงบการเงินที่นำมาแสดงไม่สามารถสะท้อนศักยภาพของธุรกิจ จึงส่งผลต่อการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทยต้องการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วยการเสนอสินเชื่อดอกเบี้ยอัตราพิเศษ โดยผู้ประกอบการสามารถติดต่อขอสินเชื่อกับธนาคารที่สะดวกได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า บสย.จะให้การสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกับกรมสรรพากร ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์ ยกเว้นค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ 2 ปี และยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการตลอดปี 2563 ภายใต้เงื่อนไขที่ บสย.กำหนด สำหรับผู้ที่ขอสินเชื่อจากธนาคารพันธมิตรทุกแห่ง เพื่อเป็นแรงจูงใจและของขวัญให้กับกลุ่มเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้
ส่วนการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90/91 ปีภาษี 2562 อธิบดีกรมสรรพากรระบุว่าขณะนี้มีบุคคลธรรมดายื่นแบบภาษีมากกว่า 200,00 ราย โดยยื่นผ่านอินเทอร์เน็ตมากสุดกว่าร้อยละ 80 สำหรับกรณีกระทรวงการคลังมีข้อเสนอให้ขยายระยะเวลาการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไปอีก 3 เดือนนั้น เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนที่มีรายได้เกี่ยวเนื่องกับการรับงานภาครัฐ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการเบิกจ่ายที่ไม่สามาถดำเนินการได้ เนื่องจากงบประมาณปี 2563 ล่าช้า ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ตามข้อกฎหมายสามารถทำได้ โดยในส่วนผู้ที่ยื่นแบบภาษีแล้วได้รับคืนก็จะได้รับคืนภาษีเร็วขึ้น ส่วนคาดว่าจะเสียภาษีหรือเสียภาษีเพิ่มสามารถไปยื่นภาษีได้ภายในเดือนมิถุนายน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม ต้องให้กระทรวงการคลังไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง . – สำนักข่าวไทย