ดึง 10 ตลาดขายสินค้าราคาถูกช่วงตุรษจีน

นนทบุรี 21 ม.ค. – อธิบดีกรมการค้าภายในดึง 10 ตลาด จำหน่ายสินค้าช่วงตรุษจีนอย่างเป็นธรรมราคาถูก ขณะที่ภาพรวมเทศกาลตรุษจีนปีนี้ราคาสินค้าเซ่นไหว้ส่วนใหญ่ทรงตัว 


นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ กรมการค้าภายในได้มีการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับประชาชนและป้องปรามไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและเอาเปรียบผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่พี่น้องประชาชน และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปให้แก่เกษตรกรซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าระดับฐานราก ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์  กรมการค้าภายในจึงจัดงาน “สินค้าเกษตร ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน” เป็นประจำต่อเนื่องหลายปี โดยปีนี้จัดระหว่างวันที่ 21 – 23 มกราคม 2563 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. บริเวณลานอเนกประสงค์ ชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์ 


ทั้งนี้ ภายในงานได้จัดพื้นที่การจำหน่ายสินค้ากว่า 130 คูหา ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ ของใช้ตรุษจีน  สินค้าผักและผลไม้  สินค้าจากศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน (Farm Outlet) สินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้า GI ข้าวสารบรรจุถุง สินค้าอุปโภคบริโภค อาหารปรุงสำเร็จ และสินค้าจากตลาดต้องชมที่อยู่ในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน โดยได้ประสานเชื่อมโยงเกษตรกร กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผู้ผลิตสินค้า GI และผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค มาวางจำหน่ายในราคาพิเศษต่ำกว่าราคาท้องตลาดทั่วไป ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้บริโภคได้ถึงร้อยละ 10 – 20 นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่าย วันละ 2 รอบ เวลา 08.30 น. และ 12.00 น. ได้แก่  เนื้อหมู/หมูไหว้ กก.ละ 100 บาท (ราคาตลาด กก. ละ 160 บาท) ได้รับความร่วมมือจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ไก่ต้ม ตัวละ 199 บาท (ราคาตลาดตัวละ 279 บาท) ไข่ไก่ เบอร์ 2 แผงละ 65 บาท (ราคาตลาดแผงละ 97 บาท) น้ำมันพืชปาล์มเกสร ขวด 1 ลิตร ขวดละ 35 บาท (ราคาตลาดขวดละ 42 บาท) 

นอกจากนี้ กรมการค้าภายในจะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ฉลาดซื้อประหยัดใช้ ภายใต้ชื่องาน “พาณิชย์ตุ้งแช่รับปีหนูทอง” เพื่อจำหน่ายสินค้าราคาเป็นธรรม ประหยัด คุณภาพดี ช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และเป็นช่องทางการกระจายผลผลิตให้แก่เกษตรกร ซึ่งงานจัดขึ้นพร้อมกัน 10 ตลาด ใน 4 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี ศูนย์การค้าตลาดรังสิต, กรุงเทพฯ ตลาดยิ่งเจริญ ตลาดมีนบุรี ตลาดฟู้ดวิลล่า ตลาดบางขุนศรี ตลาดอ่อนนุชเฟรชมาร์ท, นนทบุรี ตลาดดวงแก้ว ตลาดพระราม 5 ตลาดบางใหญ่ และนครปฐม ตลาดศาลายา จึงขอเชิญชวนประชาชนมาเลือกซื้อสินค้าได้ตามวัน เวลาและสถานที่ดังกล่าว 


“ราคาสินค้าเครื่องเซ่นไหว้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว เพราะประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะห้างค้าปลีกได้จัดโปรโมชั่นราคาไว้ล่วงหน้า และน่าจะไม่มีการปรับขึ้นอีกในช่วงของวันจ่าย 23 มกราคมนี้ โดยสินค้าที่ราคาทรงตัว ได้แก่ ไก่เนื้อ ราคาไก่ต้มตัวใหญ่เกิน 3 กิโลกรัม อยู่ที่ตัวละ 370 บาท ขนาดเล็กตัวประมาณ 2 กิโลกรัมกว่า ๆ ตัวละ 270 บาท เป็ดย่าง-เป็ดพะโล้ เฉลี่ยตัวละ 480 บาท  และขนมเข่ง-ขนมเทียน ราคาทรงตัว  ขณะเดียวกันยังมีสินค้าที่ปรับลดจากปีก่อนหน้า เช่น กล้วยหอม ผักกาดขาด กะหล่ำ รวมถึงหน่อไม้จีน แปะก๊วย หมี่ฮ่องกง และของแห้งนำเข้าจากจีน ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ราคาถูกลงในปีนี้” นายวิชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม สินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหมูขณะนี้ราคาหน้าฟาร์มเฉลี่ย 73-75 บาทต่อกิโลกรัม หรือพื้นที่ห่างไกลกิโลกรัมละ 80 บาทนั้น ทำให้ราคาขายปลีกปรับขึ้นกิโลกรัมละ 5-10 บาท แต่ถือว่าสอดคล้องกับสถานการณ์ความต้องการในตลาดที่ยังมีสูงทั้งการส่งออกและใช้ไหว้ตรุษจีน รวมทั้งราคาไข่ไก่ มีการปรับขึ้นฟองละ 10 สตางค์ โดยไข่ไก่เบอร์ 2 ขยับขึ้นเป็นฟองละ 3.20 บาท  และส้มเขียวหวาน ปรับสูงขึ้นกิโลกรัมละ 5-10 บาท หากพื้นที่ใดแพงมากจนเกินไปสามารถร้องเรียนมาที่สายด่วน 1569 ได้

นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังจะติดตามหน้ากากอนามัยในระบบด้วย เนื่องจากขณะนี้กระแสการดูแลปัญหาด้านฝุ่น PM 2.5 กำลังมาแรงและประชาชนเรื่มตื่นตัวหันมาใช้หน้ากากอนามัยมากขึ้นและเกรงว่าหน้ากากอนามัยจะขาดแคลนนั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดและเชื่อว่าจะไม่เกิดการขาดแคลนหน้ากากอนามัยอย่างแน่นอน แต่พื้นที่ใดมีความต้องการสูงจะประสานภาคเอกชน เพื่อกระจายสินค้ากันต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]