ศาลนัดอ่านคำวินิจฉัย “อนาคตใหม่” ล้มล้างการปกครอง

กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่ หลังถูกร้องว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง โดยมีการจัดกำลัง 1 กองร้อย รักษาความปลอดภัยเข้มงวดโดยรอบศาลรัฐธรรมนูญ


องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย คดีที่นายณฐพร โตประยูร ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่


โดยศาลรัฐธรรมนูญได้จัดเตรียมสถานที่ และวางมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย ด้วยการนำแผงเหล็กมากั้นแนวเขตของศาลรัฐธรรมนูญ แบ่งออกเป็นโซนสื่อมวลชน ที่มีการติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดถ่ายทอดจากห้องพิจารณาคดีลงมายังบริเวณชั้นล่าง และห้องสื่อมวลชนได้รับฟัง 


ส่วนจุดแลกบัตรและตรวจค้นอาวุธ ซึ่งอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นห้องพิจารณาคดี ที่จุดนี้ตัวแทนผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้องคดี จะต้องแลกบัตรและตรวจอาวุธ รวมทั้งฝากสิ่งของ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ นาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมทั้งตัวแทนสหภาพยุโรป (อียู) และสถานทูตอังกฤษ ที่ประสานขอเข้ารับฟังคำวินิจฉัย

ส่วนประชาชนที่จะมาให้กำลังใจหรือติดตามรับฟังการอ่านคำวินิจฉัยคดี เจ้าหน้าที่ได้จัดพื้นที่บริเวณโถงกลางของอาคารเอ พร้อมติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด โดยตามจุดต่างๆ จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจาก สน.ทุ่งสองห้อง และกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 คอยดูแลความปลอดภัย และแม้ทางแกนนำพรรคอนาคตใหม่จะไม่เดินทางมารับฟังคำวินิจฉัย แต่เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสังคม จึงได้มีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยเบื้องต้นไว้ประมาณ 1 กองร้อย หรือ 150 คน อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ไม่พบว่ามีกลุ่มประชาชนเดินทางมาที่บริเวณศาลรัฐธรรมนูญ มีเพียงสื่อมวลชนที่มารอเฝ้าติดตามการอ่านคำวินิจฉัย และยังไม่มีการสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

ทั้งนี้ คณะตุลาการฯ นัดประชุมในเวลา 10.00 น. เพื่อแถลงด้วยวาจาและลงมติ ก่อนจะอ่านคำวินิจฉัยในเวลา 11.30 น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ