กรุงเทพฯ 20 ม.ค. – ปตท. – มิตซุย ลงนามสัญญาร่วมทุน เดินหน้าธุรกิจหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ พร้อมหนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 เต็มรูปแบบ
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี (ไทยแลนด์) จำกัด จัดพิธีลงนามความร่วมมือด้านการลงทุนการดำเนินธุรกิจการให้บริการดิจิทัล หุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ ที่ตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรม ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจของผู้ประกอบการ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรมและเชื่อมโยงสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน
นายวิทวัส สวัสดิ์-ชูโต ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) กล่าวว่า การลงนามร่วมทุนในครั้งนี้ ปตท. มีความมุ่งมั่นในการเดินหน้ายุทธศาสตร์การลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยต่อยอดจากการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ ปตท. มีความชำนาญอยู่เดิมมาร่วมพัฒนา เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ในภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ซึ่งการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดการดำเนินงานที่คล่องตัว มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิเคราะห์แนวโน้มและทิศทางการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม อีกทั้งเป็นการกระตุ้นและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมสามารถพัฒนาและเชื่อมโยงการผลิตสินค้าและบริการผ่านการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยในระยะแรก ปตท. และ มิตซุยจะมุ่งพัฒนาการออกแบบระบบ (System Integrator: SI) เพื่อช่วยให้ทั้งผู้ให้บริการและผู้ประกอบการสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจ โดยใช้เทคโนโลยีและดิจิตอลเป็นพื้นฐาน
“ความร่วมมือในวันนี้ จะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมมีการใช้ระบบหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เกิดการขยายตัวของการผลิต นำไปสู่การใช้อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติอย่างแพร่หลาย สอดคล้องกับอุตสาหกรรม New S-Curve ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของประเทศ อันจะเป็นกลไกที่ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจมีการเติบโตที่ดีขึ้น และนำพาประเทศก้าวสู่การพัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานของนวัตกรรม (Innovation-driven economy) สามารถเพิ่มศักยภาพในการขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังตลาดโลกได้ในอนาคต” นายวิทวัส กล่าว . – สำนักข่าวไทย