ชงอนุมัติลงทุนเมกะโปรเจค ครม.สัญจรนราธิวาส

กรุงเทพฯ 20 ม.ค. – จับตาคมนาคม ชง ครม.สัญจร นราธิวาส ลงทุนเมกะโปเจค  1.7 แสนล้าน ตามยุทธศาสตร์ใช้เมกะโปรเจคขับเคลื่อนเศรษฐกิจ


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอแผนโครงการลงทุนที่สำคัญ ของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ที่จะเริ่มเบิกจ่ายใช้งบประมาณ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2564 และเบิกจ่ายผูกพัน  4 ปี  โดยจะเป็นโครงการที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านบาท จำนวน 46โครงการ คิดเป็นมูลค่าลงทุนวงเงินรวม 179, 671 แสนล้านบาท ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ จังหวัดนราธิวาส พิจารณาในวันพรุ่งนี้( 21ม.ค.) 

สำหรับ รายละเอียดของโครงการนำเสนอ แบ่งเป็นโครงการ ที่อยู่ในกำกับของกรมทางหลวง ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาโครงข่ายถนนหลวงจำนวน 41 โครงการ วงเงินรวม 170, 665 ล้านบาท, โครงการในกำกับดูแลของกรมทางหลวงชนบท 3,151 ล้านบาท กรมท่าอากาศยาน 3,800 ล้านบาทและการรถไฟแห่งประเทศไทย 2,055.2 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การนำเสนอแผนการลงทุน ในโครงสร้างพื้นฐานที่มีมูลค่าโครงการตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท และ เป็นโครงการที่มีการเบิกจ่าย ภายใน 3 – 4 ปีข้างหน้านี้ กระทรวงคมนาคม วางเป้าหมาย ให้โครงการเหล่านี้ มีส่วนสำคัญที่เป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตามที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ได้นำแผน ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา

โดย สนข. ได้ทำการวิเคราะห์ถึงปัญหาในอดีตซึ่งการพัฒนาภาคคมนาคมขนส่ง เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง ทำให้เกิดปัญหาการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะไม่สะดวก และไม่เพียงพอ ขณะที่การขนส่งสินค้าทางรางซึ่งเป็นระบบขนส่งหลักก็ไม่มีประสิทธิภาพ, ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่สูงขึ้นทุกปี, ปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากปัญหา ฝุ่น PM 2.5 ในอากาศ รวมถึงปัญหาการใช้พลังงานในภาคคมนาคมที่ไม่มีประสิทธิภาพ


ขณะที่การขับเคลื่อนการลงทุนด้านคมนาคมในปี 2563 ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เน้นย้ำการลงทุนด้านคมนาคม ให้การก่อสร้างต้องแล้วเสร็จเปิดให้บริการเร็ว เพื่อให้การใช้โครงสร้างพื้นฐานมีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และมีราคาที่สมเหตุผล

หากพิจารณาในรายละเอียดโครงการลงทุนสำคัญของกระทรวงคมนาคม ที่จะต้องเร่งดำเนินการในปีงบประมาณ 2563เป็นต้นไป  มีจำนวน 86 โครงการ  วงเงินรวม 2.4  ล้านๆบาท แบ่งเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 29 โครงการอยู่ระหว่างประกวดราคา 8 โครงการ, เตรียมประกวดราคา 18 โครงการ, อยู่ระหว่างรอนำเสนอคณะรัฐมนตรี 16 โครงการ และอยู่ระหว่างการศึกษา รูปแบบการลงทุนและสิ่งแวดล้อม 15 โครงการ

ส่วนโครงการลงทุนเหล่านี้ ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก  คือ โครงการลงทุนในระบบขนส่งหลักของประเทศ เช่น  โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่สายเด่นชัย-เชียงราย โครงการรถไฟฟ้าภายในเมือง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยมีโครงการที่เตรียมประกวดราคาและนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก, รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน -ราษฎร์บูรณะ รวมทั้งรถไฟฟ้าในหัวเมืองหลัก เช่น จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดนครราชสีมา  เป็นต้น

ด้านผลการศึกษา สนข.ระบุชัดเจนว่า โครงการลงทุนด้านคมนาคมขนส่งจะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจมากกว่าร้อยละ 12 ส่งผลดีทั้งต่อ ภาคการท่องเที่ยว ที่เป็นรายได้หลักของประเทศภาคการส่งออก สินค้าเกษตรและการพัฒนาอุตสาหกรรม . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้