fbpx

ตลท.ตั้งเป้ามาร์เก็ตแคปใหม่ปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 550,000 ล้านบาท

เชียงราย 20 ม.ค. –  ตลท. ชี้ปีนี้ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยนอกประเทศ – ในประเทศ กดดันตลาดหุ้นไทย แนะนักลงทุนกระจายการลงทุนให้หลากหลาย  ยอมรับเป้าหมายมาร์เก็ตแคปหุ้นไทยปี 66 ไม่ถึง 150 % ของจีดีพี  พร้อมตั้งเป้ามาร์เก็ตแคปใหม่ปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 550,000  ล้านบาท 


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในปีนี้นักลงทุนต้องติดตามความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ ทั้งเรื่องการเจรจาการค้า ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ การดำเนินนโยบายทางการเงินประเทศต่างๆ ที่จะกระทบตลาดหุ้น ซึ่งนักลงทุนต้องปิดความเสี่ยงด้วยการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อชดเชยกันไป ต้องตั้งวัตถุประสงค์ในการลงทุนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันไป โดยขอให้ปรึกษากับนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ที่ปรึกษาการลงทุน ในการวิเคราะห์ข้อมูลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรม และ บริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ ซึ่งจะแตกต่างกันมีทั้งเชิงบวกและเชิงลบ ซึ่ง ตลท.ตั้งเป้าหมายสร้างการเติบโตของผู้ลงทุนในประเทศ ทั้งเรื่องการยกระดับความรู้  ความเข้าใจ และการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ลงทุนรูปแบบใหม่ คุ้มครองผลประโยชน์ให้กับกลุ่มนักลงทุน และพยายามรักษาสัดส่วนนักลงทุนในประเทศ ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงมีสัดส่วนอยู่ประมาณ 30-35% หลังจากที่โปรแกรมซื้อขายอัจฉริยะ (AI) เข้ามารมีบทบาทมากขึ้น ซึ่งทาง ตลท.พยายามรักษาสัดส่วนของผู้ลงทุนทุกกลุ่มให้มีความสมดุลมากที่สุด 


นายภากร กล่าวอีกว่า ไม่ได้กังวลเรื่องการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป )  แม้ว่ามาร์เก็ตแคปในปี 2566  อาจจะจะไม่ถึงเป้า 150% ของผลิตภัณฑ์มลรวมในประเทศ (จีดีพี) เพราะการเติบโตของมาร์เก็ตแคปต้องขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกด้วย ในปี 2562ที่ผ่านไป เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำเพียง 2.8 – 3% จากเดิมคาดว่าโต 4 % และความสามารถทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ลดลง จากอดีตเติบโตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 10% แต่ ตลท.เชื่อมั่นในศักยภาพความแข็งแกร่งตลาดทุนไทย โดยในช่วงปลายปีที่ผ่านมีบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาระดมทุน เช่น บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) ที่มีมูลค่าระดมทุนใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนว่าตลาดหุ้นไทยยังเป็นแหล่งระดมทุนที่มีศักยภาพหากเทียบกับหลายประเทศในแถบอาเซียน 

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลท.  เปิดเผยว่า คาดว่าปี2563 ตลาดหลักทรัพย์ จะมีมูลค่ามาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้น 550,000 ล้านบาท แบ่งเป็นมาร์เก็ตแคปบริษัทเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 250,000 ล้านบาท และอีก 250,000 ล้านบาท จาก บจ.เดิมที่มีการระดมทุนเพิ่ม จากปี2562 ที่มีมาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้น780,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นIPO 380,000 ล้านบาท และบจ.เดิมเพิ่มทุนอีก400,000ล้านบาท

ทั้งนี้ ตามแผนล่าสุดมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 บริษัทที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปเกิน 10,000 ล้านบาทที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ SET .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช.อีกรอบ สอบตำรวจทำคดีเว็บพนันออนไลน์

“บิ๊กโจ๊ก” บุกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกครั้ง เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษหัวหน้าและคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดในคดีเว็บพนันออนไลน์ที่มีการทำคดีโดยมิชอบ

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย