เยาวราชคึกคักซื้อของไหว้ตรุษจีน

เยาวราช 19 ม.ค. –  เยาวราชคึกคัก ชาวไทยเชื้อสายจีนออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าเซ่นไหว้ตรุษจีน ขณะที่ร้านทองเงียบเหงา เถ้าแก่เลิกซื้อแจกอั่งเปา



บรรยากาศก่อนวันจ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2563  มีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนออกมาจับจ่ายซื้อสินค้า เป็ด ไก่ หมู อาหารทะเลสดและแห้ง เครื่องเซ่นไหว้ย่านเยาวราชอย่างคึกคัก โดยส่วนใหญ่จะเน้นใช้จ่ายแบบประหยัด และซื้อเครื่องเซ่นไหว้เท่าที่จำเป็นของแต่ละครอบครัว เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ  ขณะที่ราคาสินค้าปีนี้มีการปรับเพิ่มจากช่วงปกติเพียงเล็กน้อย เพราะต้นทุนสินค้าหลายชนิด เช่น หมู น้ำมัน ราคาสูงขึ้น สินค้าส่วนใหญ่ทั้งเครื่องเซ่นไหว้ ผักผลไม้และอาหารต่าง ๆ ยังขายดี ยกเว้นกระดาษเงินกระดาษทอง หรือเครื่องเซ่นไหว้ที่ต้องนำมาเผากราบไหว้บรรพบุรุษตามประเพณี ที่ทุกตลาดยอดขายลดลง โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ลดลงถึง 40-50% เนื่องจากต้องการแก้ปัญหาเรื่องฝุ่น


สำหรับราคาสินค้าตรุษจีนปีนี้ ไก่สด กิโลกรัมละ 70 บาท ไก่ต้ม ตัวละ 480 – 500 บาท เป็ดต้ม ตัวละ 400 บาท หมูย่างทั้งตัวกิโลกรัมละ 300 บาท แปะก๊วย กิโลกรัมละ 80 บาท ขนมเข่งคู่ละ 25 -30 บาท ขนมเทียนชิ้นละ 8 บาท กระเพาะปลา เริ่มต้นขีดละ 100 บาท หมี่ซั่ว กิโลกรัมละ 60 – 120 บาท เก๋ากี้ขีดละ 50 บาท ถุงผ้าสีแดงมีตัวอักษรจีนมงคล ถุงละ 15 บาท


นางอรุณรัตน์ รัตนถาวรกิติ คนไทยเชื้อสายจีนที่มาจับจ่ายย่านเยาวราช เล่าว่า วันตรุษจีนถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่จีน ปีหนึ่งมีครั้งเดียว เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมานาน แม้ราคาสินค้าจะสูงขึ้น ก็ยังซื้อสินค้าเท่าเดิม เพื่อความเป็นสิริมงคลของครอบครัว โดยเลือกซื้อสินค้าล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงคนเยอะ พร้อมขอพรปีใหม่นี้ให้ประสบความสำเร็จราบรื่น มีความสุข สมหวัง สุขภาพดี ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข

ด้านร้านขายเสื้อคอจีนและกี่เพ้าคึกคักอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พ่อค้าแม่ค้า กล่าวว่าลูกค้าปีนี้มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มาหาซื้อชุดกี่เพ้า โดยชุดเด็กจะขายดีกว่า เพราะผู้ปกครองจะซื้อให้ลูกหลานใส่ อีกทั้งหลายโรงเรียนก็จัดกิจกรรมวันตรุษจีนให้นักเรียนเลือกใส่ชุดกี่เพ้า หรือเสื้อผ้าสีแดงไปร่วมกิจกรรม โดยราคาใกล้เคียงกับตรุษจีนปีที่ผ่านมา เสื้อเด็ก ตัวละ 100 บาท ทั้งชุดราคา 199 บาท ส่วนผู้ใหญ่ราคา 450-500 บาท

นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที โกลด์ บูลเลี่ยน และผู้ประกอบการร้านทองจินฮั้วเฮง กล่าวว่า การซื้อขายทองคำที่ย่านเยาวราชปีนี้ไม่คึกคักเท่าปีที่ผ่านมา เนื่องราคาทองปรับตัวสูงขึ้นสุดในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2559 ทองแท่งขายบาทละ 22,400 บาท  ทองรูปพรรณ ขายบาทละ 22,900 บาท โดยบริษัทต่าง ๆ แจกอั่งเปาทองคำน้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากราคาทองคำเริ่มปรับตัวสูง และผู้บริหารบริษัทต่าง ๆ ผลัดเปลี่ยนเป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่จะแจกโบนัสช่วงปีใหม่แทนอั่งเปา ขณะที่คนไทยเชื้อสายจีนยังนิยมให้ทองคำกับบุตรหลาน เพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิต แต่อาจจะซื้อน้อยลง จากเดิมเฉลี่ยซื้อคนละ 1 – 2 บาท ปัจจุบัน 1 สลึง – 1 บาท  โดยทางร้านได้มีจัดทำทองคำ 12 นักษัตรหลากหลายขนาด เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อง่ายขึ้นในราคาที่ไม่แพงมาก และหันมาทำทองโปร่งมากขึ้นเหมาะกับลูกค้าที่ต้องการทองคำเส้นใหญ่ แต่ใช้ทองคำน้ำหนักน้อยกว่า และคาดว่าหลังวันที่ 25 มกราคม ลูกค้าได้รับอั่งเปาจะมาซื้อทองที่ร้านคึกคักขึ้น

สำหรับทิศทางราคาทองคำปีนี้ ยังคงต้องติดตาม 2 ปัจจัย คือ ความตึงเครียดสหรัฐ-อิหร่าน ที่มีทิศทางดีขึ้น หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศไม่ตอบโต้อิหร่านด้วยกำลังทหาร และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยจนถึงไตรมาส 3 ปี 2563 และคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1 ครั้ง ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2563 ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ 

ส่วนปัจจัยที่น่าจับตามอง คือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐปลายปี 2563 ด้านปัจจัยในประเทศมองว่ายังไม่น่ากังวล มองเป้าหมายราคาทองคำปี 2563 อยู่ที่ 1,560 – 1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 22,000 – 23,000 บาทต่อบาททองคำ อย่างไรก็ตาม มองแนวโน้มราคาทองคำ ปีนี้เป็นขาขึ้น แม้ว่าระยะสั้นอาจจะย่อตัวลงบ้าง แต่เชื่อว่าระยะยาวจะเป็นขาขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนจากการเจรจาการค้าแม้ว่าจะมีข้อตกลงเฟสแรก แต่ยังมีการเจรจารอบอื่น ๆ ที่ยังไม่แน่นอน การใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของเฟด ความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย และความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่อาจยืดเยื้อ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้นักลงทุนสนใจย้ายมาถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

รมช.คลัง เร่งดัน กม.สถานบันเทิงครบวงจร ยันไร้เส้นสาย-เกี้ยเซียะ

‘รมช.คลัง’ ลั่นเร่งดันกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บอกทุนจดทะเบียนหมื่นล้าน ไม่จำกัดสัญชาติ แต่ต้องมีคุณภาพ ยันไม่มีเส้นสาย-เกี้ยเซียะในรัฐบาล

แอปเงินกู้มือถือ

ยังคุยไม่เคลียร์ “ประเสริฐ” เรียก OPPO-Realme เเจงเพิ่ม

“ประเสริฐ” เตรียมเรียก OPPO-Realme มาเเจงเพิ่ม หลังคุยไม่เคลียร์ พร้อมถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเเจ้งต้นทางแอปฯ เงินกู้ผิดปกติ

หนาวจัด

อ.น้ำหนาว เพชรบูรณ์ หนาวจัด -3 องศาฯ

อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ หนาวจัด ติดลบ 3 องศาฯ ทำให้เกิดแม่คะนิ้งเกาะตามพื้นและหลังคารถ ส่วนแม่ค้าเสื้อผ้ามือสองชาวโคราช แจกเสื้อกันหนาวชาวบ้านฟรี หลังอุณหภูมิในพื้นที่แตะ 10 องศาฯ