กระบี่ 17 ม.ค.- ราคาปาล์มน้ำมันมีการปรับตัวสูงต่อเนื่อง และทำราคาสูงสุดถึงกิโลกรัมละ 7 บาท สร้างความดีใจให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันเป็นอย่างมาก ชาวสวนปาล์มน้ำมันมีข้อเสนอแนะการแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำในระยะยาวมายังรัฐบาลด้วย
เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันใน จ.กระบี่ กำลังเร่งมือเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมัน เพื่อส่งขายให้ลานเทหลังจากราคาปาล์มน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด วันนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 7 บาท เกษตรกรบอกว่า นี่เป็นราคาที่สูงสุดในรอบ 8 ปี และถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดให้ชาวสวนปาล์มในช่วงปีใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ ชาวสวนปาล์มทั้งรายใหญ่และรายย่อย ต้องเผชิญกับความเดือดร้อนจากราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำมาอย่างยาวนาน โดยเคยถึงขั้นตกต่ำมากสุดถึงกิโลกรัมละ 1 บาท 30 สตางค์มาแล้ว
การปรับตัวสูงขึ้นของปาล์มน้ำมันถึงกิโลกรัมละ 7 บาท สร้างความดีใจให้เกษตรกรเป็นอย่างมาก แต่ในระยะยาว เพื่อเป็นการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันตกต่ำ เกษตรกรเสนอทางออกรัฐบาลควรมีการซื้อขายล่วงหน้า และรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมัน B100 นอกจากจะเป็นการช่วยเกษตรกรยังช่วยลดมลพิษฝุ่น PM 2.5 ด้วย
ชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานกลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ระบุว่า การปรับตัวสูงขึ้นของปาล์มน้ำมันในช่วงนี้ อาจเป็นผลมาจากจำนวนผลผลิตในตลาดที่มีน้อย เนื่องจากยังไม่ถึงฤดูการเก็บเกี่ยวที่แท้จริง ซึ่งก็คือในช่วง 4-5 เดือนข้างหน้า มองว่าในระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ รัฐบาลควรมีมาตรการซื้อขายปาล์มน้ำมันล่วงหน้าเหมือนกับพืชผลทางการเกษตรชนิดอื่น หรือหากต้องการให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้ รัฐควรสร้างโรงงานกลั่นน้ำมันบี 100 ขึ้นในกระบี่ เพื่อลดภาระค่าขนส่งปาล์มน้ำมันไปกลั่นได้ถึงกิโลกรัมละ 2 บาท
ที่สำคัญคือ ควรรณรงค์ให้ประชาชนหันมาเติมน้ำมัน B100 หรือน้ำมันไบโอดีเซล 100% แทนการใช้น้ำมันชนิดอื่นให้มากขึ้น
เพราะนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำได้แล้ว ผลการวิจัยยังพบว่า น้ำมัน B100 เป็นน้ำมันที่ไม่มีการเจือปนของสารกำมะถันอันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่นพิษ หรือ PM 2.5 ซึ่งหลายพื้นที่ของประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
ทั้งนี้ ต้องติดตามต่อไปว่า ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ซึ่งจะมาถึงพร้อมกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และคาดกันว่าเบื้องต้นจะมีผลปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดพร้อมกันมากกว่า 2 ล้านตัน ราคาปาล์มน้ำมันจะยังคงยืนหยัดอยู่ที่กิโลกรัมละ 7 บาท ได้เหมือนเช่นวันนี้ หรืออาจปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลงกว่าเดิมอย่างไรต้องติดตามกันต่อไป.-สำนักข่าวไทย