ธปท.สำรองเงินสด 3.8 หมื่นล้านบาท รองรับตรุษจีน

กรุงเทพฯ 17 ม.ค. – ธปท.สำรองเงินสด 38,000 ล้านบาท ให้แบงก์เบิกจ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน


นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในปลายเดือนมกราคม 2563 เป็นช่วงที่มีเทศกาลตรุษจีน ซึ่งความต้องการใช้ธนบัตรของประชาชนอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ ธปท. ประมาณการว่าธนาคารพาณิชย์จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท.ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเทศกาลตรุษจีน เป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นสุทธิประมาณ 38,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับการเบิกจ่ายปกติ 

ทั้งนี้ ธปท.ได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอ พร้อมประสานงานกับธนาคารพาณิชย์ในการเบิกจ่าย เพื่อเตรียมการรองรับความต้องการของประชาชน


ธนาคารกสิกรไทยเตรียมสำรองเงินสดสำหรับให้บริการในสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม เพื่อรองรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน 22 – 25 มกราคม 2563 รวมทั้งสิ้น 43,700 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองเงินสดผ่านช่องทางสาขา  22,800 ล้านบาท โดยเป็นเงินสำรองสำหรับสาขาในเขตกรุงเทพฯ 10,900 ล้านบาท และสาขาในเขตภูมิภาค 11,900 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมี 885 สาขาทั่วประเทศ สำหรับการสำรองเงินสดเพื่อเครื่องเอทีเอ็ม (K-ATM) ที่มีอยู่กว่า 8,168 เครื่องทั่วประเทศ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 20,900 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองเพื่อบรรจุเครื่องเอทีเอ็มในเขตกรุงเทพฯ  9,200 ล้านบาท และเอทีเอ็มในเขตภูมิภาคจำนวน 11,700 ล้านบาท

ธนาคารไทยพาณิชย์เตรียมความพร้อมสำรองธนบัตร เพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้า  59,000 ล้านบาท โดยเป็นการสำรองลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพมหานคร 28,500 ล้านบาท และต่างจังหวัด 30,500 ล้านบาท แบ่งเป็นตู้เอทีเอ็ม 29,000 ล้านบาท และสาขา 30,000 ล้านบาท เป็นธนบัตรฉบับใหม่ประมาณ 5,000 ล้านบาท ปัจจุบันธนาคารมีสาขาทั้งสิ้น 958 สาขา (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562) มีเครื่องเอทีเอ็มรวม 9,372 เครื่อง (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562)

ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2563 ทางธนาคารได้มีการสำรองเงินสดไว้ให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มเติมจากภาวะปกติโดยรวมทั้งสิ้นประมาณ 40,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคาร สาขาไมโครภายในห้างสรรพสินค้ากว่า 1,000 แห่ง และช่องทางบริการเอทีเอ็มที่มีกว่า 10,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเงินสดของประชาชนสำหรับใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ พร้อมสำรองธนบัตรใหม่บางส่วนสำหรับใช้เป็นเงินอั่งเปามอบเป็นธรรมเนียมในเทศกาลปีใหม่จีน นอกจากนี้ ทางธนาคารยังได้เตรียมความพร้อมสำหรับดำเนินการเพิ่มความถี่ในการเติมเงินยังตู้บัวหลวงเอทีเอ็มเป็นกรณีพิเศษอีกด้วย เพราะฉะนั้นลูกค้าของธนาคารจึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถเบิกถอนเงินสดมาใช้ในช่วงเทศกาลดังกล่าวได้อย่างสบายใจ


ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยแจ้งว่าสำรองธนบัตรผ่านสาขาและเอทีเอ็ม 677.4 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง