ทีเส็บเปิดตัวโครงการประชุมเมืองไทยส่งเสริมเศรษฐกิจไทย

กรุงเทพฯ 16 ม.ค. – ทีเส็บเปิดตัวโครงการประชุมเมืองไทยส่งเสริมเศรษฐกิจไทย ตั้งเป้าดึงตลาดประชุมองค์กร สร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศกว่า 70 ล้านบาท  


นางสาววิชญา สุนทรศารทูล รักษาการรองผู้อำนวยการ สายงานบริหาร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย สร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศ ซึ่งอุตสาหกรรมการจัดประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล หรือ Meetings and Incentives (MI) เป็นอุตสาหกรรมที่มีจำนวนนักเดินทางและสร้างรายได้สูงสุดในธุรกิจไมซ์ โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและสามารถช่วยผลักดันให้เกิดการกระจายรายได้สู่ภูมิภาคและกระตุ้นการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจภายในท้องถิ่นชุมชน


ทั้งนี้ ทีเส็บร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยผนึกกำลังสมาชิกผู้ประกอบการไมซ์กว่า 200 หน่วยงาน เข้าร่วมโครงการประชุมเมืองไทยส่งเสริมเศรษฐกิจไทยภายใต้แคมเปญมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ กระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น สนับสนุนกลุ่มองค์กรบริษัท ในการจัดประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศ ภายใต้ข้อกำหนดว่ากิจกรรมจะต้องจัดขึ้นคนละจังหวัดกับที่ตั้งของบริษัทนั้น ๆ โดยต้องมีวันพักค้างอย่างน้อย 1 คืน มีผู้เข้าร่วมงานอย่างน้อย 40 คนขึ้นไปต่อกลุ่ม จะได้รับเงินสนับสนุนในรูปแบบบัตรกำนัลมูลค่า 20,000 บาทต่อกลุ่ม และจัดงานผ่านบริษัทผู้รับจัดบริการเดินทางที่เป็นนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศไทย หรือ DMC (Destination Management Company) ที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยการรับรองของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งมีสมาชิกผู้ประกอบการด้านไมซ์ ทั้ง DMC โรงแรมที่พัก ศูนย์ประชุม บริการขนส่ง และแหล่งนันทนาการต่าง ๆ อยู่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศที่พร้อมต้อนรับและให้บริการนักเดินทาง

“ทีเส็บตั้งเป้าหมายกระตุ้นรายได้กว่า 70 ล้านบาทภายใน 31 กรกฎาคม จากการจัดการประชุม สัมมนาองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศของกลุ่มบริษัทองค์กรได้ไม่ต่ำกว่า 500 กลุ่ม หรือเฉลี่ย 20,000-40,000 คน ที่จะร่วมกระจายรายได้สู่ชุมชนทั่วภูมิภาค เพื่อช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศ” นางสาววิชญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง