สรุปสถานการณ์โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจรุนแรง

สธ.16 ม.ค.-สถาบันบำราศนราดูร สรุปรายงานล่าสุดสถานการณ์โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ จากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 


นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรคและราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อคณะกรรมการด้านสาธารณสุขเทศบาลเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของประเทศจีน ออกแถลงการณ์ล่าสุดว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสปอดอักเสบและถูกแยกรักษาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2563 แล้วจำนวนทั้งสิ้น 59 ราย  โดย 41ราย มีผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบว่าก่อให้เกิดโรคในคนมาก่อน ในจํานวนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายจากโรคประจำตัวที่มีอยู่ แต่ก็ยังไม่พบรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศจีนเพิ่มเติม  ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2563 จนกระทั่งวันที่ 15 มกราคม 2563 

ดังนั้น ผลการสอบสวนโรค ตัดความเป็นไปได้ว่าเชื้อที่ระบาดอยู่นี้เป็นโรคทางเดินหายใจรุนแรงเฉียบพลัน หรือซาร์ส ที่คุ้นเคย และเคยทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยรายเมื่อ 10 ปีก่อน และยืนยันว่าไม่ใช่โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางหรือโรคเมอร์ส รวมถึงไข้หวัดนกและอดิโนไวรัส เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ป่วยหลายคนทํางานที่ตลาดอาหารทะเลจีนใต้ ซึ่งขายสัตว์มีชีวิตอื่นๆด้วย บ่งชี้ว่าเชื้อนี้อาจเกี่ยวโยงกับสัตว์ อาการส่วนใหญ่ที่พบในคนไข้ เป็นอาการโรคทางเดินหายใจและปอดอักเสบที่พบทั่วไป ได้แก่ เป็นไข้ หายใจลําบาก 


ผู้เข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจรุนแรงนี้ ได้แก่ ผู้มีประวัติเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นภายใน 14 วันและมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล และหรือมีอาการหอบเหนื่อย ณ วันที่ 14 มกราคม 2563 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ดําเนินการเฝ้าระวังคัดกรองผู้โดยสารเครื่องบินในเส้นทางที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่และท่าอากาศยานภูเก็ต 

สรุปยอดผู้ป่วยเข้าได้กับเกณฑ์เข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวัง  ตั้งแต่เริ่มใช้มาตรการเฝ้าระวังเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2563 จํานวน 15 ราย ผลการ ตรวจทางห้องปฏิบัติการพบสาเหตุจากไข้หวัดใหญ่เป็นส่วนใหญ่ มีผู้ป่วย 1 ราย เป็นหญิงชาวจีนอายุ 61 ปีที่มีปอดอักเสบได้รับการยืนยันวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งนับว่าเป็นผู้ป่วยรายแรกในประเทศไทยและเป็นรายแรกที่ได้รับการยืนยันวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นอกประเทศจีน 

หน่วยงานภาครัฐในประเทศ โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้จัดการแจ้งและเตรียมความพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วมีการตรวจ สอบเที่ยวบินตามสนามบิน และเตรียมพื้นที่กักในสถานพยาบาลใกล้เคียงไว้แล้วและมีการดําเนินการเฝ้าระวังส่งต่อผู้ป่วย รวมถึงสํารวจความพร้อมของห้องแยกความดันลบในสถานพยาบาลและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ 


ประชาชนควรติดตามสถานการณ์ข่าวสารผู้ป่วยในต่างประเทศและผู้เข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังภายในประเทศอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องและแนะนำผู้ที่จะเดินทางไปเมืองอู่ฮั่นหรือสถานที่ใกล้เคียงในเรื่องพฤติกรรมสุขภาพควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม หากจำเป็นให้สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชน หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์และไม่สัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วยหรือตายและหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจลล้างมือ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม