กทม. 16 ต.ค.-คนไทยจากอิสราเอล ที่อพยพมากับเครื่องบินกองทัพอากาศ ถึงสถาบันบำราศนราดูร ผ่านการตรวจร่างกายและสภาพจิตใจเบื้องต้น ด้าน หนุ่มหนองคาย เล่าภาพที่สะเทือนใจว่า มีเพื่อนคนไทยหนึ่งคนที่หลบไม่ทัน ถูกยิงเจ็บและหายไปต่อหน้า ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
คนไทยในอิสราเอลที่เดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยเครื่องบินแอร์บัสกองทัพอากาศ จำนวน 130 คน เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 มาถึง ที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อรอญาติมารับ ซึ่งทั้งหมดผ่านการคัดกรองจาก บน.6 ทั้งการตรวจร่างกายทุกคน พบมีอาการการบาดเจ็บ แขนหัก 1 ราย แต่รับการรักษามาแล้ว ติดเชื้อทางเดินหายใจ พบมีอาการหวัด 6 คน และการคัดกรองด้านสุขภาพจิตพบว่า 37 คน มีภาวะเครียด แต่ไม่มีผู้ที่จะต้องเข้าแอดมิดรักษาต่อที่ รพ. โดยแพทย์จากสถาบันบำราศฯ จะทำการติดตามอาการต่อเนื่องหลังกลับภูมิลำเนา โดยมี 1 คน ค้างที่นี่ 1 คืน เพื่อรอญาติมารับ
โดยทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายอนันต์ สมาหาญ ชาวหนองคาย อายุ 31 ปี ที่อยู่ระหว่างรอเดินทางกลับภูมิลำเนา บอกว่าไปทำงานเป็นคนขับรถขนมันฝรั่ง ในเขตพื้นที่ไม่ไกลจุดปะทะ ทำได้ 5 ปี กำลังจะครบสัญญา จึงคิดว่าจะไม่กลับไปที่อิสราเอลอีก ยอมรับว่าที่ผ่านมาพื้นที่ตรงนั้นมีการสู้รบกันอยู่บ้างแต่ไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้ โดยเล่าเหตุการณ์ในวันที่ 7 ตุลาคม ตนต้องไปหลบอยู่ในบังเกอร์ และออกมาหลบในห้อง พักรอทหารมาช่วย ซึ่งในช่วงที่รอการช่วยเหลือ ต้องเผชิญกับกลุ่มฮามาสที่มาไล่เคาะห้อง หากใครหลบไม่ทันก็จะถูกยิงทันที พร้อมเล่าภาพที่สะเทือนใจว่า มีเพื่อนคนไทยหนึ่งคนที่หลบไม่ทัน ถูกยิงบาดเจ็บและหายไปต่อหน้า ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมเปิดกระเป๋าให้ทีมข่าวดูว่าแม้จะทำงานมาเกือบ 5 ปี แต่สิ่งที่เอาติดตัวกลับมาได้มีเพียงเสื้อกางเกงที่ใส่ในวันหลบหนีติดตัวกลับมาเมืองไทยเท่านั้น นอกนั้นต้องทิ้งไว้หมด เอาชีวิตรอดกลับมาก่อน
โดยที่สถาบันบำราศนราดูร มีห้องพักรองรับได้ 60 ห้อง หากแรงงานที่ต้องการพักผ่อน หรือระหว่างญาติเดินทางมารับ ก็สามารถเข้าพักได้.-สำนักข่าวไทย