กรุงเทพฯ 15 ม.ค.- อากิระ นิชิโนะ เผยการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายยู 23 ปีถือเป็นการก้าวไปอีก 1 ขั้น ขณะที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งให้ทัพช้างศึก และนักเตะที่ช่วยสร้างประวัติศาสตร์ อัดฉีดเพิ่มอีก 3 ล้านบาท
หลังจากนักเตะทีมช้างศึก ยู 23 ปี เสมอกับอิรัก 1-1 ในฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี คัด 3 ทีมไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 รอบแรก กลุ่มเอ นัดสุดท้าย ทีมชาติไทย ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อค่ำวานนี้ โดยไทยได้ประตูจากจุดโทษของ เจริญศักดิ์ วงศ์กรณ์ นาที 6 ส่วนอิรักตีเสมอ จาก โมฮัมเหม็ด นาสซีฟ ทำให้ทีมไทย มี 4 คะแนน ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
หลังจบเกม อากิระ นิชิโนะ กล่าวว่า การเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายถือเป็นการก้าวไปข้างหน้าอีก 1 ขั้น ส่วนเหตุที่เปลี่ยนถึง 7 คน จากนัดที่ 2 เพราะบางคนเริ่มล้า จึงใช้ตัวสำรองที่ซ้อมได้ดีอยู่แล้วลงเล่น และย้ำทุกคนไม่ต้องกลัว มีสมาธิและอดทน เพื่อรักษาสกอร์ หลังจากเข้ารอบ 8 ทีม ยังไม่รู้รอบต่อไปจะพบใคร การเป็นเจ้าภาพ เราจะได้พักมากกว่าทีมคู่แข่ง 1 วัน การได้พักตัวหลัก ทำให้หลายคนสดชื่นขึ้น การเล่นรอบต่อๆ ไป ยังคงเน้นเล่นบนพื้น เข้าทำอย่างรวดเร็ว ส่วนเกมรับยอมรับยังเป็นจุดอ่อน ไม่ได้แก้ไขง่าย ๆ ทุกคนต้องช่วยกันซ้อน
ด้าน “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยทางเพจ Fair ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งให้ทัพช้างศึก และขอบคุณนักเตะทุกคน รวมถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ที่สามารถพาทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ผ่านเข้าไปเล่นรอบน็อกเอาท์ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย U23 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ “บิ๊กอ๊อด” ยังอัดฉีด 3 ล้านบาทให้กับนักเตะอีกด้วยหลังจากผ่านเข้ารอบ 8 ทีม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอีก 1 แสนบาท ทำให้นักเตะได้รับยอดรวมอัดฉีดไปแล้ว 13.1 ล้านบาท
ด้าน “ไอซ์” กรพัฒน์ นารีจันทร์ ผู้รักษาประตูที่โชว์ฟอร์มเซฟหลายจังหวะกล่าวว่า ดีใจที่ช่วยให้ทีมชนะ ส่วน “เท่” เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่ยิงจุดโทษให้ไทยขึ้นนำ กล่าวว่า จากนี้อยากให้แฟนบอลชาวไทยช่วยกันให้กำลังใจ จะทำให้ดีที่สุดเพื่อไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ให้ได้
ส่วนผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ออสเตรเลีย ที่มี 4 คะแนน ชุดสีเขียว พบกับ บาห์เรน ที่มี 1 คะแนน โดยออสเตรเลีย ออกนำไปก่อน 1-0 จากการยิงของ เรมี นาจจารีน นาทีที่ 34 แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 45+3 บาห์เรน ตามตีเสมอ 1-1 จาก โมฮาเหม็ด มาร์ฮูน จบเกมเสมอกันไป 1-1
ส่งผลให้ออสเตรเลีย แข่ง 3 นัด มี 5 คะแนน เป็นแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วนทีมไทย เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มมี 4 คะแนน ผ่านเข้ารอบเช่นกัน ส่วนอิรัก มี 3 คะแนน อยู่อันดับ 3 และบาห์เรน มี 2 คะแนน จบอันดับ 4 ของกลุ่ม
โดยทีมไทย จะเข้าไปพบกับ อันดับ 1 ของกลุ่มบี ระหว่าง ซีเรีย กับ ซาอุดีอาระเบีย รวมถึงกาตาร์ ที่ยังมีลุ้น ในวันเสาร์ที่ 18 มกราคมนี้ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ส่วนออสเตรเลีย จะเข้าไปพบกับอันดับ 2 ของกลุ่มบี.-สำนักข่าวไทย