เอกชนมองไทยน่าลงทุน-ท่องเที่ยวในสายตาต่างชาติ

รร.แกรนด์ไฮแอท 15 ม.ค. – ภาคเอกชนมองไทยน่าลงทุนและท่องเที่ยวในสายตาต่างชาติ เชื่อยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง 


นางจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนาประจำปี 2563 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ภายใต้หัวข้อ “เจาะอุตสาหกรรมเด่นขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2020”  โดยระบุว่าภายใต้ปัจจัยผลกระทบ ไม่ว่าสงครามการค้าสหรัฐกับจีน หรือปัญหาเงินบาทแข็งค่า ยังมองว่าประเทศไทยน่าลงทุนอย่างมาก  ซึ่งสงครามการค้าจะยังไม่จบลงง่าย ๆ แต่ไม่เป็นปัญหาหรือสร้างผลกระทบให้กับการค้าและการลงทุน แต่จะเป็นพลังขับเคลื่อนให้หลายประเทศ เช่น จีน ย้ายฐานการลงทุนมาประเทศต่าง ๆ ซึ่งจีนมองไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนอย่างมาก จึงต้องปรับตัวรองรับการย้ายฐานมาประเทศไทย โดยอุตสาหกรรมที่จีนและหลายประเทศมาลงทุนไทยเพิ่มขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมพลังงาน หรือแม้แต่ไทยกำลังจะมีการประมูล 5G 

นางจรีพร กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาไทยจะหลุดการลงทุนจากหลายประเทศ แต่หลังจากไทยรื้อฟื้นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ทำให้หลายประเทศมองว่าน่าจะเข้ามาลงทุนอีอีซีมากสุด ที่สำคัญจากการที่ได้ประเมินหลายประเทศไม่ได้มองว่าเป็นประเทศที่ไม่มีเสถียรภาพโดยเฉพาะปัญหาการเมือง เพราะดูได้ชัดเจนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานักลงทุนจากหลายประเทศไม่มองว่าการเมืองไทยเป็นปัญหาเห็นได้ชัดจากแผนการเข้ามาลงทุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าไทยน่าลงทุนมากที่สุด แต่คนไทยหรือผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวขยายฐานการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาไทย  จึงมองว่าแม้จีดีพีปีที่ผ่านมาจะเติบโตเพียงร้อยละ 2.8 แต่ปี 2563 จีดีพีจะเติบโตถึงร้อยละ 3 อีกทั้งแม้ไทยจะเจอปัญหาการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้การค้าได้รับผลกระทบบ้าง แต่หลายกลุ่มอุตสาหกรรมยังมีแผนเดินหน้าการค้าการลงทุน 


ทั้งนี้ มองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีโอกาสเติบโต อย่ามองเหตุการณ์รายวัน ควรมองสถานการณ์ของไทยระยะยาว ซึ่งในอนาคตไทยไม่เพียงทำการค้าในกลุ่มอาเซียน หากความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซ็ปเกิดขึ้นการค้าและการลงทุนของไทยจะเพิ่มขึ้นมหาศาล และปี 2563 หลายโครงการที่ไทยวางกรอบไว้จะเดินหน้าเต็มที่ หลังจากงบประมาณปี 2563 ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร และปีนี้แผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นตามมา ทำให้ไทยมีอัตราการเติบโตดีขึ้นและแข็งแกร่งแน่นอน

นายชัยรัตน์  ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไทยยังเป็นประเทศที่นักลงทุนให้ความสนใจ เห็นได้จาก 10 ปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาในประเทศไทยแต่ละปีมากเกือบ 40 ล้านคน แม้ปีที่ผ่านมาทั่วโลกจะประสบปัญหาเศรษฐกิจ แต่การท่องเที่ยวของไทยยังไม่ได้รับผลกระทบมากมาย ซึ่งปี 2562 นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวไทยมากถึง 39 ล้านคน รายได้มากกว่า 1.9 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดการณ์ว่าปี 2562 จะมีนักท่องเที่ยว 40 ล้านคน รายได้มากกว่า 2 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้นักท่องเที่ยวจีนมากถึง 11 ล้านคน ดังนั้น จึงเชื่อมั่นว่าไทยยังเป็นประเทศที่น่าเข้ามาท่องเที่ยว แต่สิ่งที่คนไทยต้องเร่งปรับตัว คือ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานและไม่ควรเอาเปรียบ การสร้างมาตรฐานการให้บริการ การใช้ความเป็นเสน่ห์ของคนไทย จุดแข็งอาหารไทย การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวไทยให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น  หากคนไทยช่วยกันรักษาเชื่อว่าอีก 10 ปีข้างหน้านักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะมาท่องเที่ยวไทยมากถึง 60 ล้านคน ซึ่งปีนี้ได้มีการประเมินว่าจะมีคนจากทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 41 ล้านคน หรือรายได้มากกว่า 2.1 ล้านล้านบาท การที่นักท่องเที่ยวกันมาเที่ยวไทยมากขึ้น จากเดิมท่องเที่ยวแบบทัวร์ แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่ท่องเที่ยวแบบครอบครัวมากันเอง ดั้งนั้น ไทยต้องเร่งปรับตัวรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก 

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า ภาคเอกชนยังมีความกังวลสงครามการค้าสหรัฐกับจีน เพราะไม่รู้ปีนี้จะจบอย่างไร ถ้าจบลงด้วยดีน่าจะทำให้การค้าจากทั่วโลกมีโอกาสเติบโตได้  ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ากลุ่มอุตสาหกรรมอาหารไทยจะเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 2.5 ถ้าสงครามสหรัฐกับจีนจบด้วยดี โอกาสอุตสาหกรรมเติบโตก็มีมาก อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูปของไทยยังเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลกโดยเฉพาะอาหารแปรรูป ขณะเดียวกันไทยต้องเร่งปรับปรุงคุณภาพอาหาร โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปด้านสุขภาพ เพราะระยะหลังอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารเติบโตได้ดีคนทั่วโลกหันไปดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งในส่วนของภาคเอกชนอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงพาณิชย์หาหนทางว่าจะมีการต่อยอดอาหารไทยลักษณะเป็นสตอรี่ให้คนทั่วโลกรู้คุณค่าอาหารไทยว่าอาหารไทยเกิดขึ้นได้อย่างไร หากมีการจัดทำเป็นสตอรี่จะทำให้คนทั่วโลกรู้ถึงคุณค่าของอาหารไทยมากขึ้น  เร็ว ๆ นี้คาดว่าจะทำเป็นสตอรี่อาหารไทยบางชนิด แต่สิ่งที่กังวลปีนี้ คือ ปัญหาภัยแล้งอาจทำให้พืชบางชนิด เช่น ข้าวประสบปัญหา ประกอบกับข้าวไทยมีคู่แข่งมากมาย ราคาแพงกว่าประเทศอื่น หน่วยงานภาครัฐจะต้องเข้ามาดูแลปัญหาเหล่านี้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์

วัดราชบพิธฯ 17 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์ เพิ่มความเข้มกฎหมายเก่า ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นส่วนน้อยทำพระพุทธศาสนาเสื่อม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2568 แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ณ วัดราชบพิธสถิต ว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงประทานพรให้เรามุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ ท่านก็ต้องการความร่วมมือกันของทุกฝ่าย และประเด็นที่สำคัญคือ การไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ท่านบอกว่า ให้จัดการได้เต็มที่ หากผิดปาราชิกก็ต้องทำไปตามวินัยที่มีอยู่ และขณะนี้มีการพูดคุยกันว่า ฝ่ายพลเรือน พยายามที่จะขออนุญาตออกกฎระเบียบ ซึ่งท่านก็เห็นพ้องต้องกันกับสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ว่าอยากให้นำกฎหมายเก่ามาดู และเพิ่มความเข้มงวด หากจะเขียนอะไรลงไปก็ให้เต็มที่ อย่าให้พระพุทธศาสนามีความเสื่อม และเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเฉพาะจุด โซเชียลพูดถึงไกลไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเคร่งครัด และหากมีการแก้กฎหมายแล้วให้หารือที่มหาเถรสมาคม แต่ถือว่าพระองค์ท่านให้เป็นหลักแล้วว่าให้ดำเนินการให้เข้มงวด ส่วนที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาระบุว่า เตรียมเปิดคดีใหม่มีพระในระดับชั้นสมเด็จเข้าไปเกี่ยวข้องแต่ไม่เกี่ยวกับคดีสีกากอล์ฟ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ได้ฟังจากสื่อ คิดว่าตอนนี้ได้คุยกับพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง […]

พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ”

กทม. 17 ก.ค.-พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส ใน จ.พิจิตร วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ” ด้านตำรวจจ่อลุยตรวจค้นวัด รวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน เวลา 9.30 น. รออีก 1 รูป พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส Video Call บอกรัก สีกากอล์ฟ ในลักษณะว่าเธอเป็นคนแรก และเป็นคนเดียว รักมาก ซึ่งจัดการตรวจสอบพบว่า พระรูปดังกล่าว เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และมีความสัมพันธ์ในลักษณะฟิลแฟนแบบนี้มานานแล้ว และเป็นคนส่งเงินค่าเช่าบ้านให้สีกากอล์ฟ แทบทุกเดือน สำหรับความคืบหน้ากรณี “สีกากอล์ฟ” มีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่ กว่า 20 รูป ในวันนี้มีรายงานว่า ตำรวจ ปปป. พร้อมด้วยตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบกลาง จะลุยตรวจค้นวัดรวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน รวมถึงหาพยานหลักฐานเชื่อมโยง อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส ทุจริตเงินวัดไปให้สีกากอล์ฟ โดยการตรวจค้น จะเกิดขึ้นหลังจากการประชุมตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 13.00 น. […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]