เอกชนมองไทยน่าลงทุน-ท่องเที่ยวในสายตาต่างชาติ

รร.แกรนด์ไฮแอท 15 ม.ค. – ภาคเอกชนมองไทยน่าลงทุนและท่องเที่ยวในสายตาต่างชาติ เชื่อยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง 


นางจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนาประจำปี 2563 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ภายใต้หัวข้อ “เจาะอุตสาหกรรมเด่นขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2020”  โดยระบุว่าภายใต้ปัจจัยผลกระทบ ไม่ว่าสงครามการค้าสหรัฐกับจีน หรือปัญหาเงินบาทแข็งค่า ยังมองว่าประเทศไทยน่าลงทุนอย่างมาก  ซึ่งสงครามการค้าจะยังไม่จบลงง่าย ๆ แต่ไม่เป็นปัญหาหรือสร้างผลกระทบให้กับการค้าและการลงทุน แต่จะเป็นพลังขับเคลื่อนให้หลายประเทศ เช่น จีน ย้ายฐานการลงทุนมาประเทศต่าง ๆ ซึ่งจีนมองไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนอย่างมาก จึงต้องปรับตัวรองรับการย้ายฐานมาประเทศไทย โดยอุตสาหกรรมที่จีนและหลายประเทศมาลงทุนไทยเพิ่มขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมพลังงาน หรือแม้แต่ไทยกำลังจะมีการประมูล 5G 

นางจรีพร กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาไทยจะหลุดการลงทุนจากหลายประเทศ แต่หลังจากไทยรื้อฟื้นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ทำให้หลายประเทศมองว่าน่าจะเข้ามาลงทุนอีอีซีมากสุด ที่สำคัญจากการที่ได้ประเมินหลายประเทศไม่ได้มองว่าเป็นประเทศที่ไม่มีเสถียรภาพโดยเฉพาะปัญหาการเมือง เพราะดูได้ชัดเจนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานักลงทุนจากหลายประเทศไม่มองว่าการเมืองไทยเป็นปัญหาเห็นได้ชัดจากแผนการเข้ามาลงทุนผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าไทยน่าลงทุนมากที่สุด แต่คนไทยหรือผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวขยายฐานการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาไทย  จึงมองว่าแม้จีดีพีปีที่ผ่านมาจะเติบโตเพียงร้อยละ 2.8 แต่ปี 2563 จีดีพีจะเติบโตถึงร้อยละ 3 อีกทั้งแม้ไทยจะเจอปัญหาการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้การค้าได้รับผลกระทบบ้าง แต่หลายกลุ่มอุตสาหกรรมยังมีแผนเดินหน้าการค้าการลงทุน 


ทั้งนี้ มองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีโอกาสเติบโต อย่ามองเหตุการณ์รายวัน ควรมองสถานการณ์ของไทยระยะยาว ซึ่งในอนาคตไทยไม่เพียงทำการค้าในกลุ่มอาเซียน หากความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซ็ปเกิดขึ้นการค้าและการลงทุนของไทยจะเพิ่มขึ้นมหาศาล และปี 2563 หลายโครงการที่ไทยวางกรอบไว้จะเดินหน้าเต็มที่ หลังจากงบประมาณปี 2563 ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร และปีนี้แผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นตามมา ทำให้ไทยมีอัตราการเติบโตดีขึ้นและแข็งแกร่งแน่นอน

นายชัยรัตน์  ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไทยยังเป็นประเทศที่นักลงทุนให้ความสนใจ เห็นได้จาก 10 ปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาในประเทศไทยแต่ละปีมากเกือบ 40 ล้านคน แม้ปีที่ผ่านมาทั่วโลกจะประสบปัญหาเศรษฐกิจ แต่การท่องเที่ยวของไทยยังไม่ได้รับผลกระทบมากมาย ซึ่งปี 2562 นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวไทยมากถึง 39 ล้านคน รายได้มากกว่า 1.9 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดการณ์ว่าปี 2562 จะมีนักท่องเที่ยว 40 ล้านคน รายได้มากกว่า 2 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้นักท่องเที่ยวจีนมากถึง 11 ล้านคน ดังนั้น จึงเชื่อมั่นว่าไทยยังเป็นประเทศที่น่าเข้ามาท่องเที่ยว แต่สิ่งที่คนไทยต้องเร่งปรับตัว คือ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานและไม่ควรเอาเปรียบ การสร้างมาตรฐานการให้บริการ การใช้ความเป็นเสน่ห์ของคนไทย จุดแข็งอาหารไทย การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวไทยให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น  หากคนไทยช่วยกันรักษาเชื่อว่าอีก 10 ปีข้างหน้านักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะมาท่องเที่ยวไทยมากถึง 60 ล้านคน ซึ่งปีนี้ได้มีการประเมินว่าจะมีคนจากทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 41 ล้านคน หรือรายได้มากกว่า 2.1 ล้านล้านบาท การที่นักท่องเที่ยวกันมาเที่ยวไทยมากขึ้น จากเดิมท่องเที่ยวแบบทัวร์ แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่ท่องเที่ยวแบบครอบครัวมากันเอง ดั้งนั้น ไทยต้องเร่งปรับตัวรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก 

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า ภาคเอกชนยังมีความกังวลสงครามการค้าสหรัฐกับจีน เพราะไม่รู้ปีนี้จะจบอย่างไร ถ้าจบลงด้วยดีน่าจะทำให้การค้าจากทั่วโลกมีโอกาสเติบโตได้  ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ากลุ่มอุตสาหกรรมอาหารไทยจะเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 2.5 ถ้าสงครามสหรัฐกับจีนจบด้วยดี โอกาสอุตสาหกรรมเติบโตก็มีมาก อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูปของไทยยังเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลกโดยเฉพาะอาหารแปรรูป ขณะเดียวกันไทยต้องเร่งปรับปรุงคุณภาพอาหาร โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปด้านสุขภาพ เพราะระยะหลังอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารเติบโตได้ดีคนทั่วโลกหันไปดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งในส่วนของภาคเอกชนอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงพาณิชย์หาหนทางว่าจะมีการต่อยอดอาหารไทยลักษณะเป็นสตอรี่ให้คนทั่วโลกรู้คุณค่าอาหารไทยว่าอาหารไทยเกิดขึ้นได้อย่างไร หากมีการจัดทำเป็นสตอรี่จะทำให้คนทั่วโลกรู้ถึงคุณค่าของอาหารไทยมากขึ้น  เร็ว ๆ นี้คาดว่าจะทำเป็นสตอรี่อาหารไทยบางชนิด แต่สิ่งที่กังวลปีนี้ คือ ปัญหาภัยแล้งอาจทำให้พืชบางชนิด เช่น ข้าวประสบปัญหา ประกอบกับข้าวไทยมีคู่แข่งมากมาย ราคาแพงกว่าประเทศอื่น หน่วยงานภาครัฐจะต้องเข้ามาดูแลปัญหาเหล่านี้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”