กรุงเทพฯ 13 ม.ค.-โจรวัยเก๋า ชะล่าใจงัดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดออก หวังทำลายหลักฐานไม่ให้ตำรวจตามจับขณะย่องเข้าลักทรัพย์ได้ทรัพย์สินไปหลายแสนบาท สุดท้ายไม่รอดเจ้าของบ้านซ่อนกล้องอีก 1 ตัว
ตำรวจสน. เตาปูนควบคุมตัว นายบุญธรรมหรือซู ลิซ้ำ อายุ 68 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณร้านรับซื้อของเก่า ย่านเตาปูน หลังก่อเหตุปีนเสาไฟฟ้าขึ้นระเบียงชั้น 2 บ้านข้างเคียง ก่อนใช้ชะแลงงัด ลูกกรงเหล็ก หน้าต่างชั้นสองซึ่งบริเวณดังกล่าวมีป้ายร้านบัง ทำให้คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นขณะคนร้ายลงมือก่อเหตุได้ ก่อนเข้าไปภายในตัวบ้านขโมยของเก่า อาทิ สร้อยข้อมือนาก 1 เส้น,สร้อยคอทองเค 2 เส้น,สร้อยคอ+สร้อยข้อมือทองคำ 3 เส้น,แหวนเพชรแถว 2 วง,สร้อยข้อมือเพชร 1 เส้น,สร้อยคอเพชร 1 เส้น,ต่างหูเพชร 2 คู่ นาฬิกาข้อมือ 20 เรือน,นาฬิกา bvlgari 1 เรือน ,พระบูชา 4 องค์ , พระเครื่อง 1 ถุง(บรรจุหลายองค์)เครื่องเงินต่างๆจำนวน 1 ถาด,บัตรเครดิตและเงินสดจำนวนหลายหมื่นบาท รวมมูลค่าความเสียหายแล้วหลายแสนบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 62
อย่างไรก็ตามในระหว่างเกิดเหตุคนร้ายได้งัดเอาเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่ติดไว้ภายในร้านออกไปด้วย โดยไม่รู้ว่านอกจากกล้องวงจรปิดที่ติดภายในร้านแล้วทางร้านยังมีกล้องวงจรปิดซุกซ่อนไว้ในตุ๊กตาหมี ซึ่งบันทึกภาพส่งข้อมูลเข้าโทรศัพท์มือถือของเจ้าของร้าน
สอบสวนนายบุญธรรม รับสารภาพว่า ต้องการหาเงินไปกินเหล้าและเล่นการ พนัน จึงจงใจเข้าลักทรัพย์ภายในร้านรับซื้อของเก่า เนื่องจากทราบว่ามีของมีค่า และเป็นของเก่าสามารถนำไปขายต่อในตลาดมือสองได้ จึงเลือกลงมือในช่วงเวลา ที่เจ้าของร้านเดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัดช่วงเทศกาลปีใหม่ และมั่มใจตำรวจไม่ สามารถติดตามจับกุมตัวเองได้ หลังก่อเหตุได้นำทรัพย์สินไปจำหน่ายบางส่วน ก่อนนำเงินไปใช้จ่ายตามที่คิดไว้และเปิดโรงแรม ย่านป้อมปราบ พักผ่อน แต่เงินที่ได้ใช้กินเที่ยวได้เพียง 15 วัน ก่อน ถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา ว่าลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยทำลายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย .-สำนักข่าวไทย