สถาบันขงจื้อภูเก็ต ม.อ.จัดงานฉลองตรุษจีน สานสัมพันธ์ 45 ปี ทูตไทย-จีน

ภูเก็ต 13 ม.ค.- สถาบันขงจื้อภูเก็ต ม.อ.ร่วมกับสำนักงานกงสุลจีนประจำภูเก็ต จัดงานเทศกาลตรุษจีน ฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน


ที่สยามนิรมิต  ภูเก็ต จ.ภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ เลขาผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดงานเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน เนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน โดยมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ รอง ผบช.ภ.8 นายหลี ชุ่นฝู รองกงสุลใหญ่จีนประจำสงขลาและผู้อำนวยการสำนักงานกงสุลจีนประจำภูเก็ต ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ทุกวิทยาเขต ผู้แทนสถาบันขงจื้อภูเก็ต แขกผู้มีเกียรติ คณะครู นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมงานจำนวนมาก งานนี้จัดขึ้นโดยสถานกงสุลใหญ่จีน ประจำสงขลาและสำนักงานกงสุลจีนประจำภูเก็ต ร่วมกับสถาบันขงจื้อภูเก็ต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย  การแสดงศิลปะการแสดงจีน จากนักเรียนโรงเรียนภูเก็ตไทยหัวอาเซียนวิทยา ,มหกรรมแสดงสินค้าไฮเทคจีน นิทรรศการการศึกษา ,นิทรรศการแบรนด์สินค้าจีน ,นิทรรศการวัฒนธรรมจีน ฯลฯ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้รู้จักกับวัฒนธรรมจีนด้วยตนเอง 


นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน ว่า การแลกเปลี่ยนประวัติศาสตร์ระหว่างไทยกับจีนที่มีมายาวนาน ในวาระครบรอบ 45 ปี 2 ประเทศจะสานความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นต่อไป

นายเรวัต  กล่าวว่า ที่ผ่านมาทั้ง 2 ประเทศมีการแลกเปลี่ยนหลายระดับ มีความก้าวหน้าและผลประโยชน์ร่วมกัน ในวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นภายในงาน ทั้งด้านเทคโนโลยี ภาษา การแสดงจากจีน ฯลฯ จะช่วยเพิ่มความเข้าใจให้ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศมีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น


ด้านนายหลี ชุ่นฝู รองกงสุลใหญ่จีนประจำสงขลาและผู้อำนวยการสำนักงานกงสุลจีนประจำภูเก็ต กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับราชอาณาจักรไทยนั้น ประชาชนทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิด และผูกพันกัน มีการติดต่อร่วมมือกัน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่แน่นแฟ้น เป็นระยะเวลา 45 ปีแล้ว นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ สำนักงานกงสุลจีนประจำภูเก็ต เป็นสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำสงขลา และเป็นองค์กรกงสุลแห่งที่ 4 ที่รัฐบาลจีนจัดตั้งขึ้นในราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ รวมทั้งผลักดัน การแลกเปลี่ยน ความร่วมมือ ร่วมถึงการท่องเที่ยวระหว่างกัน

“เชื่อว่าความสัมพันธ์ไทย-จีน จะพัฒนาอย่างมั่นคง ยั่งยืนตลอดไป และการจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนเนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน จะเป็นช่องทางแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทยจีนได้เป็นอย่างดี” นายหลี ชุ่นฝู กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก