ทำเนียบฯ 13 ม.ค.-นายกรัฐมนตรี ขอบคุณคนรุ่นใหม่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนประเทศ ไม่ติดใจวิ่งไล่ลุง ย้ำไม่เป็นศัตรูกับใคร เคารพความเห็นทุกฝ่าย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดตัวโครงการยุวชนสร้างชาติ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พร้อมให้โอวาทนักศึกษาที่เข้าร่วมจากโครงการยุวชนอาสา 500 คน จาก 7 มหาวิทยาลัยภาครัฐและเอกชน ว่า รัฐบาลมุ่งผลักดันแก้ปัญหาความยากจน วางยุทธศาสตร์ชาติ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว ทุกวันนี้ประเทศอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านและเป็นความท้าทายที่จะทำให้ประเทศเดินหน้า หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เช่น เรื่องการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ
“ขอบคุณคนรุ่นใหม่ที่นำเสนอแนวคิดใหม่ ๆ เพราะการพัฒนาทรัพยากรเป็นเรื่องสำคัญ และทุกวันนี้ต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลง โดยต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย เพื่อขับเคลื่อนสังคมให้ไปข้างหน้าด้วยกัน ต้องสอดคล้องกับข้อกฎหมาย นอกจากนี้ อยากให้เยาวชนทุกคนร่วมมือเป็นกำลังสำคัญของชาติ เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะมาทดแทนคนรุ่นเก่า บางคนอาจจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี บางคนอาจเป็น ส.ส. ซึ่งเกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศต่อไป ดังนั้นจะต้องไม่มีปัญหาขัดแย้งกัน ซึ่งวันนี้ประเทศกำลังพัฒนา จึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณมากขึ้นทุกปี ไม่ได้ตั้งงบฯ มาใช้ประโยชน์ส่วนตัว สอดคล้องกับแผนงานระยะสั้น ปานกลาง และระยะยาว ซึ่งบางเรื่องอาจทำไม่ได้ทันที แต่สิ่งสำคัญต้องไม่มีการทุจริต” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยไม่เหมือนที่ใดในโลก เพราะมีอัตลักษณ์ มีความเข้มแข็งในตัวเอง แต่อาจจะมีปัญหาบ้างในเรื่องประชาธิปไตย ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกัน โดยยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีทำตามกติกาทุกอย่าง และเคารพความคิดเห็นของลูก ๆ หลานๆ คนรุ่นใหม่ แต่ขอให้คิดวิเคราะห์ด้วย พร้อมฝากให้ทุกคนช่วยกันคิดเพื่อนำไปสู่การพัฒนา โดยเฉพาะการพัฒนาท้องถิ่น
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลไม่ได้รีดภาษี แต่การได้มาซึ่งงบประมาณพัฒนาประเทศ มาจากภาษีประชาชน จึงขอให้ทุกคนจ่ายภาษีอย่างถูกต้อง และวันนี้งบประมาณมีมากขึ้น แต่ไม่ได้ตั้งงบขึ้นมาเพื่อใช้ส่วนตัว และยืนยันว่าทุกอย่างมีกระบวนการตรวจสอบ แต่ขอให้ตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์
“เชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคใด รวมถึงทุก ๆ คนต่างหวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งไม่ว่าใครจะเชียร์ หรือจะไล่ ผมก็ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร พร้อมเคารพความเห็นทุกฝ่าย แต่ไม่อยากให้มาเสียเวลากับเรื่องเหล่านี้ เรื่องใดขุ่นข้องหมองใจ ควรพูดคุยกัน อย่าให้กลับไปใช้กำลังเข่นฆ่ากันอีก เพื่อขับเคลื่อนประเทศชาติต่อไป ขณะนี้โลกกำลังมีปัญหา ดังนั้นเราไม่ควรขัดแย้งกันภายใน ควรนำวิกฤติที่เกิดขึ้นมาใช้เป็นโอกาส” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย