กรุงเทพฯ 11 ม.ค.- การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA มีความห่วงใยประชาชน เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในช่วงนี้กลับมามีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล MEA จึงเริ่มเปิดระบบพ่นด้วยหัวฉีดละอองน้ำกว่า 500 หัวฉีด บนดาดฟ้าอาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่คลองเตย
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 นางสาวผาสุก สัมปุณณะโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เปิดเผยว่า ตามที่ กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อเวลา 07.00 น. พบปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ตรวจวัดค่าได้ 42 – 109 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก.ลบ.ม.) คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 42 พื้นที่ และมีผลกระทบต่อสุขภาพ 6 พื้นที่ (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก.ลบ.ม.) โดยค่าฝุ่นละอองสูงสุดในกรุงเทพมหานครอยู่ที่ เขตภาษีเจริญ เขตบางกอกน้อย เขตบางขุนเทียน เขตพระนคร และเขตบางคอแหลม สำหรับที่ตั้งของอาคารวัฒนวิภาส สำนักงานใหญ่ MEA ตั้งอยู่ที่ถนนพระราม 4 เขตคลองเตย พบว่ามีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ที่ 74 มคก.ลบ.ม. ซึ่งเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพนั้น
MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีความตระหนักในการมีส่วนร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงเริ่มเปิดใช้ระบบพ่นละอองน้ำลดฝุ่น PM 2.5 บนดาดฟ้าอาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ คลองเตย อีกครั้ง โดยอาคารดังกล่าวเป็นอาคารสูง 25 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนพระราม 4 และได้มีการติดตั้งระบบพ่นด้วยหัวฉีดละอองน้ำมากกว่า 500 หัวฉีดบนดาดฟ้า เพื่อใช้ดำเนินการพ่นละอองน้ำเพื่อลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่ปี 2562 ผ่านมา และกลับมาเปิดระบบอีกครั้งในวันนี้ เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่น PM 2.5 จนกว่าจะคลี่คลาย ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศประเทศไทยแบบเรียลไทม์ได้ทางเว็บไซต์ http://air4thai.pcd.go.th/webV2/
#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร
Energy for city life, Energize smart living