กรุงเทพฯ 9 ม.ค. – กรมทางหลวงชนบทรับมือพื้นที่เสี่ยงต่อการทรุดตัวของถนน พร้อมรับแจ้งเหตุให้ความช่วยเหลือประชาชนที่สายด่วน 1146 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งส่งผลให้ถนนเลียบคลองชลประทานเกิดการทรุดตัวหลายแห่ง จึงเตรียมพร้อมรับมือพื้นที่เสี่ยงต่อการทรุดตัว เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน แบ่งการรับมือออกเป็น 3 ระยะ คือ 1.ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ให้ทุกหน่วยดำเนินการเตรียมความพร้อม ตรวจสอบพื้นที่หรือสายทางที่มีความเสี่ยงต่อการทรุดตัว โดยจัดชุดลาดตระเวนสำรวจพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการทรุดตัวและประเมินความเสียหายเบื้องต้น ในกรณีที่ความเสียหายอยู่ในระดับไม่รุนแรง การแก้ไขหรือการป้องกันให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการเองทันที เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อประชาชน
ติดตั้งป้ายเตือน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่สัญจรไปมาบริเวณถนนเลียบคันคลองที่มีความเสี่ยง เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำอาจทำให้ถนนเกิดการทรุดตัวและอาจพังทลายอย่างฉับพลัน และ มาตรการลดน้ำหนักบรรทุกและห้ามรถบรรทุกหนักวิ่งผ่าน เพื่อเป็นการควบคุม ป้องกันปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนดใช้เส้นทางที่มีความเสี่ยงต่อการทรุดตัว เนื่องจากรถบรรทุกน้ำหนักเกินได้สร้างความเสียหายให้แก่โครงสร้างทาง ส่งผลให้ถนน สะพานเกิดการชำรุดเสียหาย มีอายุการใช้งานสั้นกว่าที่กำหนด
2.ระหว่างเกิดเหตุการณ์ เมื่อถนนเลียบคันคลองชลประทานในความรับผิดชอบเกิดการทรุดตัว จะต้องรายงานสถานการณ์ให้ผู้บังคับบัญชาทราบและติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จนกว่าจะดำเนินการปรับปรุงให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้อย่างสะดวกปลอดภัย ด้วยการติดตั้งป้ายเตือนให้ประชาชนใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ชำรุด พร้อมติดตั้งสัญญาณไฟเตือนในเวลากลางคืน ทั้งนี้ การติดตั้งป้ายเตือนนั้นจะต้องวางครอบคลุมพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย และตำแหน่งของการวางนั้น จะต้องให้ผู้ใช้เส้นทางสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน มีระยะการมองเห็นปลอดภัย
ติดตั้งป้ายห้ามรถบรรทุกทุกชนิดผ่าน, ติดตั้งป้ายแนะนำประชาชนให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นเป็นการชั่วคราวก่อนจนกว่าจะดำเนินการปรับปรุงแก้ไขแล้วเสร็จ และนำเครื่องจักรเข้าดำเนินการแก้ไขเบื้องต้น เมื่อเกิดการทรุดตัวของถนนเลียบคันคลองชลประทาน ต้องรีบดำเนินการซ่อมแซมหรือควบคุมความเสียหายให้อยู่ในวงจำกัด ไม่ให้ลุกลามเป็นปัญหาใหญ่
3.หลังเกิดเหตุการณ์ ได้สั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดความเสียหายอย่างละเอียดและประเมินความเสียหาย หาวิธีการแก้ไขอย่างถูกต้อง เหมาะสมกับลักษณะความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นจะดำเนินการ ออกแบบ ประมาณราคา เพื่อจัดทำแผนของบประมาณฟื้นฟู ซึ่งเมื่อได้รับการสนับสนุนงบประมาณดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการซ่อมแซมหรือฟื้นฟูถนนที่ได้รับความเสียหายให้กลับคืนสู่สภาพเดิมหรือดีกว่าเดิม เป็นการคืนความสุขให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางอย่างยั่งยืนต่อไป
ส่วนถนนในความรับผิดชอบของ ทช.ที่เกิดการทรุดตัว ได้สั่งการให้ดำเนินการซ่อมแซมให้สัญจรได้เบื้องต้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ทช.ขอให้ระมัดระวังการเดินทางบนถนนที่เกิดการทรุดตัว โดยให้สังเกตป้ายเตือน ป้ายบอกทาง และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณคันคลองชลประทาน ช่วยกันสอดส่องดูแลถนน หากพบว่ามีการแตกร้าว ตามไหล่ทาง ซึ่งมีความเสี่ยงที่ถนนอาจจะทรุดตัวได้ สามารถขอความช่วยเหลือ หรือ แจ้งเหตุ ได้ที่สายด่วน 1146 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทาง ทช.จะได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป.-สำนักข่าวไทย