รัฐสภา 9 ม.ค.-กมธ.เสียงข้างน้อยอภิปรายงบกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ซักรัฐบาลแจงงบ 300 ล้าน จัด MotoGP ปี 61 – 63 เร่งแก้ปัญหาฝุ่นควัน กระทบการท่องเที่ยว แฉสร้างสนามกีฬาหลายที่ไม่เสร็จ เพราะจ้างกรมทางหลวงสร้าง
หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 248 ต่อ 6 เสียง งดออกเสียง 200 เสียง เห็นชอบมาตรา 10 ประมาณรายจ่ายของกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ก็เข้าสู่การพิจารณามาตรา 11 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานในกำกับ วงเงิน 3,551 ล้านบาท โดยนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการเสียงข้างน้อย อภิปรายแปรญัตติตัดงบประมาณลงร้อยละ15 โดยตั้งข้อสังเกตกรณี คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อเป็นเจ้าภาพจัดงาน MotoGP ระหว่างปี 2561 ถึง 2563 ซึ่งตนเคยยื่นหนังสือร้องเรียนสอบถามไปตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2561 แต่ยังไม่ได้คำตอบ ซึ่งสำนักงบประมาณให้ความเห็นว่าควรคำนึงถึงความประหยัด การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ประโยชน์สูงสุดของประชาชนและราชการจะได้รับ
นายเรืองไกร กล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุดให้ความเห็นว่า หลักการและกรอบงบประมาณเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด MotoGP หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเห็นว่าจะได้ประโยชน์ด้านการกีฬา และการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทย ซึ่งมีความเหมาะสมกับงบประมาณ ค่าใช้จ่ายและค่าลิขสิทธิ์ รวมถึงความพร้อมของสนาม บุคลากร และประสบการณ์ด้านการจัดการแข่งขัน การกีฬาแห่งประเทศไทยสามารถปฏิบัติงานตามเงื่อนไขต่าง ๆ ภายในขอบเขตกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเงื่อนไขของบริษัทผู้จัดงานได้ จะมีคำถามว่าการจัดงาน MotoGP ที่เกิดขึ้น เป็นไปตามมาตรฐานที่สำนักงบประมาณและสำนักอัยการสูงสุดวางเงื่อนไขไว้หรือไม่
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย อภิปรายแปรญัตติตัดงบประมาณร้อยละ 15 โดยชี้ให้เห็นถึงผลกระทบปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือและกรุงเทพมหานคร ซึ่งกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะที่ตัวชี้วัดการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังคงเป็นการชี้วัดในเชิงปริมาณเท่านั้น แต่ยังขาดการชี้วัดเชิงคุณภาพ และอยากให้กระทรวงแก้ไขปัญหาความนิยมเรื่องกีฬา เนื่องจากประชาชนไม่ได้สนใจติดตามมากเหมือนในอดีต
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า หน้าที่ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นอกจากการจัดการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ แล้ว หน้าที่สำคัญคือการจัดสร้างสนามกีฬาทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ แต่แทนที่จะจ้างเหมาให้บริษัทเอกชน แต่กลับไปจ้างให้กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมไปทำสนามกีฬา 7 แห่ง กว่า 700 ล้านบาท แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากมีปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณ จึงมีประเด็นว่าทำไมถึงจ้างกรมทางหลวงมาสร้างสนามกีฬา และงบประมาณปี 2563 จะได้จัดสร้างหรือไม่ ซึ่งนายภราดร ปริศนานันทกุล กรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล ได้ประท้วง เนื่องจากการกีฬาแห่งประเทศไทยอยู่ในหมวดรัฐวิสาหกิจ ไม่ได้เป็นหน่วยงานสังกัดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แปรญัตติขอปรับลดงบประมาณไว้ร้อยละ 10 โดยดูรายละเอียดการพิจารณาจัดทำงบประมาณ มองว่าตั้งงบประมาณค่าเช่ารถยนต์ไว้แบบเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง งบประมาณการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ก็ควรใช้ร่วมกับกระทรวงอื่น งบประมาณรายการก่อสร้างสำนักงาน ซึ่งมีส่วนอื่นที่ควรเพิ่มมากกว่า เช่น การก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอ มีเพียง 3 ที่จากทั่วประเทศ ที่ได้รับงบประมาณ และขอให้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ชนบท เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้อย่างจริงจัง
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นกระทรวงที่ทำรายได้ให้กับประเทศมากที่สุด และกระจายรายได้ให้กับประชาชนมากที่สุด แต่แทบจะไม่มีการจัดสรรงบประมาณสำหรับการท่องเที่ยวมรดกโลก ซึ่งเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่น พระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่จะได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาต้องเตรียมการ.-สำนักข่าวไทย