“สมคิด” เร่งรัดลงทุนอีอีซี

กรุงเทพฯ 6 ม.ค. – “สมคิด” เร่งรัดลงทุนอีอีซี คาดสิ้นปีดันเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 650,000 ล้านบาท  มุ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเชื่อมอีอีซี  ดึงหลายหน่วยงานยกระดับชุมชนภาคตะวันออก 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบโยบายให้กับผู้บริหารอีอีซี โดยเชิญนายสุวิทย์ เมษินทรีย์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)  สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มาหารือ เพื่อเร่งรัดการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้คืบหน้าในปี 2563 หวังสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติท่ามกลางปัจจัยเชิงลบภายนอกประเทศอาจทำให้นักลงทุนไหลเข้ามายังไทย จึงต้องการเร่งรัดโครงการขนาดใหญ่  อาทิ แผนลงทุนรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน การพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อาคารผู้โดยสารสนามบินอู่ตะเภา และศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ต้องชัดเจนภายในครึ่งปีแรก เพราะขณะนี้แอร์บัสและรายอื่นสนใจเข้ามาร่วม จึงต้องการให้การบินไทยเร่งรัดข้อสรุป ไม่เช่นนั้นจะเปิดให้รายอื่นเข้ามาร่วมเพิ่มเติม เพราะรัฐบาลต้องการเร่งรัดโครงการขนาดใหญ่ 

ทั้งนี้  โดยเฉพาะการพัฒนาจังหวัดฉะเชิงเทราให้เป็นเมืองใหม่ทันสมัยเป็นเมืองการบินเมืองการเงิน จึงสั่งการให้ตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทาง  โดยมีเลขาธิการอีอีซีเป็นประธาน เพื่อจัดทำแผนผังเมือง เขตอยู่อาศัย อาคารสำนักงาน ดึงคนรุ่นใหม่เข้าอยู่อาศัย ราคาไม่แพงเหมือนกับในเขตกรุงเทพฯ แต่เดินทางเชื่อมต่อกันได้ทั้งเขตอีอีซีและเขตกรุงเทพฯ เมื่อวางแนวทางได้ข้อสรุปจะเชิญนักลงทุนต่างชาติเข้ามาดูทำเล และต้องการย้ำว่าการพัฒนาเขตอีอีซี 3 จังหวัดต้องเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจฐานรากให้ได้อย่างชัดเจน ทั้งการดูแลชุมชน สิ่งแวดล้อม การพัฒนาเกษตรแปรรูป ปรับไปสู่อุตสาหกรรม การท่องเที่ยวเมืองรอง และสร้างเอสเอ็มอีให้เป็นเครือข่ายกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เพื่อให้ชุมชนได้รับประโยชน์จากเขตอีอีซี จึงได้ดึงทุกหน่วยงานทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสหากรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวง อว. เข้ามาร่วมดูแล โดยบีโอไอ ออกมาตรการดูแลเกษตรแปรรูป 


นายสมคิด กล่าวว่า เมื่ออีอีซีปีนี้มีคืบหน้าต้องเริ่มวางเสาเข็ม เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และตามด้วยการสร้างถนน สาธารณูปโภค เพื่อเตรียมพร้อมมุ่งเน้นใช้ “ทฤษฎีฝูงนก” เพราะหากจ่าฝูงบินเข้ามาตัวแรก จากนั้นตัวอื่นจะเข้าตามมาจำนวนมาก การนิคมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ต้องเร่งรัด เพื่อให้นักลงทุนตัดสินใจเข้ามา เพราะต่างชาติทั้งฮ่องกง จีน ไต้หวัน ต้องการเข้ามาจำนวนมาก  EECi ต้องคืบหน้า เมื่อนักลงทุนใหม่เข้ามา เพราะขณะนี้บริษัทในเครืออาลีบาบา 400 ราย พร้อมเข้ามาขยายการลงทุนจำนวนมาก เมื่อหลายโครงการลงนามและคัดเลือกผู้เข้าลงทุนได้แล้วต้องเริ่มลงทุนตามกำหนด 

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กล่าวว่า แผนดำเนินงานของอีอีซี ปี  2563 มุ่งเน้นเรื่องการขยายการลงทุนสู่พื้นที่และชุมชน เพื่อสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนในพื้นที่อีอีซี  จึงต้องขยายท่องเที่ยวพื้นที่รองและสร้างโครงการท่องเที่ยวระดับชุมชน เชื่อมโยงทรัพยากรในพื้นที่ สร้างรายได้ชุมชน ปีละ 120,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี เช่น ท่องเที่ยวเชิงเกษตร บ้านตะพง จ.ระยอง ท่องเที่ยววัฒนธรรม ทางน้ำ จ.ฉะเชิงเทรา ท่องเที่ยวสุขภาพ นันทนาการ จ.ชลบุรี การเชื่อม SME สู่ตลาดโลก ให้ SME ไทยเป็นผู้จัดหาสินค้าและบริการหรือ Suppliers ให้นักลงทุนเทคโนโลยีเป้าหมาย รวมทั้งจัดพื้นที่เฉพาะ ให้สิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม พร้อมส่งเสริมไปตลาดโลกด้วย E-Commerce

นอกจากนี้ การผลักดันโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (EFC) ร่วมกับ อบจ.ระยอง ยกระดับเป็นโครงการหลักให้เกิดการลงทุนปี 2563  ได้เตรียมพื้นที่ 23 ไร่ รองรับที่ ต.มาบข่า จ.ระยอง ตั้งเป้าหมายลดจำนวนผู้มีรายได้น้อย 350,000 รายให้หมดไปภายใน 3 ปีในเขตอีอีซี จากประชากรทั้งหมดในอีอีซี   3.4 ล้านคน ด้วยการเร่งจัดฝึกอบรมพัฒนาอาชีพเฉพาะกลุ่ม จัดหางานในพื้นที่ร่วมกับจังหวัด อปท. ภาคเอกชน และชุมชน พร้อมจัดหางานให้กับผู้สูงอายุ 


ด้านการศึกษา มุ่งพัฒนาทักษะบุคลากร ด้วยการดึงภาคเอกชนร่วม ในรูปแบบของ EEC Model  บริการแบบเรียนฟรี มีงานทำ และแบบจ่ายน้อยมีโอกาสทำงาน กำหนดพัฒนาบุคลากรเร่งด่วน 20,000 คน จำนวน 120 หลักสูตร ให้ตรงความต้องการงานภายใน 1 ปี สร้างบัณฑิตอาสาเพื่อพัฒนาชุมชนเป้าหมาย 120 คน เปิดรับรุ่นแรก 30 คนเริ่มได้ทันที และผลิตอาชีวะมาตรฐานอินเตอร์ ฝึกอบรมครู พัฒนาสื่อการสอน รองรับเป้าหมายพัฒนาบุคลากร 400,000 คนในช่วง 5 ปีข้างหน้า 

 นายคณิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2562 มีการลงทุนอุตสหากรรมเป้าหมายในเขตอีอีซี 120,000 ล้านบาท การลงทุนในเขตการนิคมอุตสาหกรรม และนอกเขตประมาณ 300,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินลงทุนในเขตอีอีซี 3 จังหวัด ประมาณ 400,000 ล้านบาท จากนั้นปีนี้เมื่อโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐ คัดเลือกเอกชนได้พร้อม ภายในสิ้นปี 2563  โครงการขนาดใหญ่เร่ิมลงทุนเฉลี่ย 1 แสนล้านบาทต่อปี จากวงเงินลงทุนทั้งหมด 650,000 ล้านบาท หลังจากศาลปกครองสั่งให้เดินหน้าขั้นตอนการเปิดประมูลสร้างสนามบินอู่ตะเภา การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง  คาดว่าไตรมาส 1 จะสรุปแนวทางและเปิดประมูลจากภาคเอกชน การพัฒนาศูนย์ซ่อมอากาศยาน เมื่อการบินไทยต้องการใช้พื้นที่ 200 ไร่ แอร์เอเชีย ยังเสนอขอใช้พื้นที่ 60 ไร่ และสิงคโปร์ยังสนใจมาลงทุนด้วย    

นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ สศช.ศึกษาแนวทางแก้ไข พ.ร.บ.อีอีซี เพื่อยกระดับการดูแลเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ NEC เขตเศรษฐกิจภาคใต้ SEC หลังจากนำร่องจากเขตอีอีซีภาคตตะวันออก โดย สศช.ส่งนักศึกษาลงพื้นที่สำรวจข้อมูลนำมาวิเคราะห์เตรียมเสนอต่อ ครม.เศรษฐกิจ เพื่อนำเรื่อง SEC, NEC หารือในที่ประชุมเกี่ยวกับแก้ไข  พ.ร.บ.อีอีซี  ให้เป็นแผนแม่บทใหญ่ ดูแลเขตเศรษฐกิจโดยร่วมอย่างไร.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]