พังงา 5 ม.ค.- หลายฝ่ายยังเร่งตามหาไข่เต่ามะเฟืองหายจากหาดท้ายเหมือง ผู้ว่าฯ พังงาสมทบอีก 50,000 บาท เป็น 100,000 บาท รางวัลนำจับมือขโมย วอนทุกคนช่วยกันอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก หยุดเก็บ/ขาย/ซื้อ
กรณีพบร่องรอยการขึ้นมาวางไข่ของเต่ามะเฟืองชายหาดท้ายเหมือง บริเวณเขาหน้ายักษ์ หมู่ 4 ต.ลำ แก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เมื่อคืนวันที่ 3 ม.ค. 2563 เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบไม่พบไข่เต่า คาดว่าน่าจะถูกขโมยไปหมดรัง เบื้องต้นพบร่องรอยต้องสงสัยของรถจักรยานยนต์ขับเลียบชายหาดไปตลอดเส้นทาง แต่หายเป็นระยะที่น้ำทะเลท่วมถึง และมีรอยชัดบริเวณรอบ ๆ หลุมวางไข่
ล่าสุดนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ได้ให้นายอำเภอท้ายเหมืองประสานกับตำรวจเจ้าของคดี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสืบหาเบาะแสให้ชัดเจน เพราะอาจเป็นไปได้ว่าไข่เต่ามะเฟืองถูกขโมย เพื่อจะได้นำตัวผู้ทำผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมาย พร้อมประกาศเพิ่มเงินรางวัลแก่ผู้นำจับหรือแจ้งเบาะแสจนสามารถจับกุมอีก 50,000 บาท สมทบของเดิมที่กองทุนอนุรักษ์เต่าทะเล ร่วมกับกรมอุทยานฯ และผู้นำท้องที่ ตั้งรางวัลไว้ 50,000 บาท รวมเป็น 100,000 บาท พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล เพื่ออนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลทุกชนิด และอย่าเก็บไข่เต่าทะเลเพื่อนำไปขายหรือซื้อเด็ดขาด เพื่อชื่อเสียงของชาวจังหวัดพังงาที่หนึ่งของการอนุรักษ์เต่าทะเล รวมถึงสัตว์ชนิดอื่น ๆ ด้วย
นายจำเริญ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน รวมถึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีช่วยกันอนุรักษ์ ทุกครั้งที่เต่าขึ้นมาไข่ก็จะมีรางวัลให้กับผู้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ทันที 20,000 บาท ส่วนกรณีที่มีข้อสันนิษฐานว่าไข่เต่ามะเฟืองถูกขโมยไปนั้น ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นคนในพื้นที่หรือไม่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน
“ยอมรับว่าในอดีตนิยมกินไข่เต่า อาจเป็นเพราะความเคยชินเป็นของมีอยู่ในพื้นที่ แต่ต่อมาสิ่งที่สร้างความตระหนักคือพันธุ์เต่าลดลงไปเรื่อย ๆ เมื่อก่อนเราเห็นทั้งเต่าตนุ เต่ามะเฟืองตัวเป็นเมตร แต่ตอนนี้รุ่นลูกรุ่นหลานอาจไม่ได้เห็นอีกต่อไป เพราะฉะนั้นในวันนี้ยังมีเวลาที่จะต้องมาช่วยกันอนุรักษ์เต่าทะเล ส่วนการขโมยไข่เต่านั้น เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานเต็มที่เพื่อหาคนทำผิดมาดำเนินคดี เพราะถือว่าเป็นการทำร้ายหัวใจของชาวพังงา แม้ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร เป็นคนในพื้นที่หรือไม่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของจังหวัด คนที่นำไข่เต่าไปแล้วไม่ว่านำไปกิน นำไปขาย หรือมีคนรับซื้อก็ถือว่าทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น และข้อกฎหมายก็มีบทลงโทษหนัก”.-สำนักข่าวไทย