อ่าวทอง 2 ม.ค.-สาวสุดผวา! หนุ่มใหญ่ทาสยาบ้าบ้านตรงข้ามบุกพังบ้านหวังขึ้นไปล่วงละเมิด แต่ญาติช่วยได้หวุดหวิด ก่อนถูกล้อมจับ อ้างได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วย จึงบุกเข้าบ้าน
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางสาวอมรรัตน์ ช่วยชู หรือ “น้องเจน” วัย 23 ปี เมื่อลางดึกที่ผ่านมามีคนร้ายบุกเข้าไปที่บ้าน ขณะที่ตนเอง, พี่สาว และพ่อแม่นอนอยู่ในบ้าน พร้อมทั้งใช้อาวุธมีดพังประตูและบานเกล็ดหน้าต่างเข้าไปภายใน รวมถึงบุกขึ้นไปบริเวณชั้นบนที่เป็นห้องนอน เพื่อพยายามเข้าไปแต่เข้าไม่ได้
หลังจากรับแจ้ง ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย จึงลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ โดยพบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้น ต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทอง บริเวณประตูไม้ด้านล่างมีร่องรอยพังเสียหาย มีรอยถูกฟันด้วยมีด หลายแห่ง ใกล้กันเป็นหน้าต่างบานเกล็ดห้องนอนของพ่อและแม่ “น้องเจน” โดยถูกฟันจนกระจกแตกกระจาย และพบรถกระบะของ “น้องเจน” ถูกฟันเช่นกัน
“น้องเจน” เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกขณะตนนอนพักผ่อนอยู่กับพี่สาวที่ชั้นบน โดยมีพ่อและแม่นอนอยู่ชั้นล่าง จู่ๆ ได้ยินเสียงคนอาละวาดทุบทำลายข้าว จึงเปิดมาดูพบนายจีระพล รังผึ้ง อายุ 40 ปี หรือ “นายจัก” ซึ่งอยู่บ้านตรงข้าม ถืออาวุธมีดฟันประตูบ้านและกระจกห้องนอนพ่อแม่ จากนั้นได้พยายามบุกขึ้นไปชั้น 2 ที่เป็นห้องนอนของตนและพี่สาว ขณะนั้นพ่อได้พยายามปิดประตูไว้ ทำให้ “นายจัก” คลุ้มคลั่งอย่างหนัก และขู่จะเผาบ้าน ขณะที่แม่ได้รีบโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้การช่วยเหลือและเรียกตำรวจมาช่วย ทำให้ “นายจัก” หลบหนีไป
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งว่านายจีระพล หรือ “นายจัก” ผู้ก่อเหตุได้ย้อนกลับเข้าบ้านพัก ซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุเพียง 50 เมตร และคลุ้มคลั่งอาละวาดไม่ยอมให้ใครเข้าไปในห้อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า “นายจัก” มีอาวุธมีดติดตัว 3 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมและพยายามเจรจาให้ออกมามอบตัว ซึ่งนายจักมีอาการที่โวยวายคลุ้มคลั่งอยู่ตลอดเวลา ท่ามกลางความตกใจของพ่อและแม่ของ “นายจัก” รวมถึงชาวบ้านที่เดินทางมามุงดูเป็นจำนวนมาก
ตำรวจพยายามพูดเจรจาไกล่เกลี่ย จนสุดท้าย “นายจัก” ยอมเปิดประตูออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากการสอบถาม “นายจัก” มีอาการพูดจาวกวน บอกว่าสาเหตุที่เข้าไปพังประตูที่บ้านหลังดังกล่าว เพราะได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วย ดังอยู่ในหูตลอดเวลา จึงคิดว่าเป็นเสียง “น้องเจน” ส่วนยาบ้าหยุดเสพมาได้ 3 วันแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจาก “นายจัก” พูดจาคล้ายคนเมายา
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัว “นายจัก” ไปดำเนินคดี ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้าน เนื่องจากเกรงว่าหากไม่จับกุมตัวไปนายจักอาจจะก่อเหตุรุนแรงอีก.-สำนักข่าวไทย