นนทบุรี 29 ธ.ค. – พาณิชย์มั่นใจออกประกาศจัดระเบียบตัวแทนดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์ เกิดผลดีทุกฝ่าย ลดพวกแอบอ้าง ปิดช่องโหว่ได้จริง
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า หลังกรมทรัพย์สินทางปัญญาออกประกาศ เรื่อง การแจ้งข้อมูลตัวแทนดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์ พ.ศ.2562 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลตัวแทนดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป โดยได้นำเทคโนโลยีคิวอาร์โค้ด (QR Code) มาประยุกต์ใช้กับบัตรตัวแทน เพื่อให้สามารถตรวจสอบข้อมูลการมอบอำนาจดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์ของตัวแทน เช่น ข้อมูลเจ้าของลิขสิทธิ์ ระยะเวลาที่ได้รับมอบอำนาจ และผลงานที่ได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีได้ง่าย เพียงใช้สมาร์ทโฟนสแกนที่คิวอาร์โค้ดบนบัตรตัวแทนจะทราบข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยตัวแทนดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์ที่มีความประสงค์จะแจ้งข้อมูลตัวแทนดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์ต้องมีคุณสมบัติตามประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญา เช่น อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ จบการศึกษาไม่ต่ำกว่า ปวส. หรือเทียบเท่า ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งต้องผ่านการอบรมหรือทดสอบความรู้เกี่ยวกับกฎหมายลิขสิทธิ์และจริยธรรมเบื้องต้น เพื่อคัดกรองบุคคลที่จะมาขอรับบัตรตัวแทนดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์
อย่างไรก็ตาม การขึ้นทะเบียนตัวแทนลิขสิทธิ์ เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาจากก่อนหน้านี้ พบมีบางกลุ่มทำการล่อซื้อจับลิขสิทธิ์กระทงและล่อซื้อจับลิขสิทธิ์สินค้าอื่น ๆ อีกหลายสินค้า ทำให้กระทรวงพาณิชย์จะต้องเข้ามาดูและจัดระเบียบ เพื่อไม่ให้มีการดำเนินการแอบอ้าง หรือเอาเปรียบประชาชน และอยากจะขอความร่วมมือเจ้าของลิขสิทธิ์และตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ที่จะแต่งตั้งตัวแทนดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์ให้มาแจ้งข้อมูลกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อยกระดับการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรม
“บัตรตัวแทนจะมีอายุตามระยะเวลาที่ได้รับการมอบอำนาจให้ดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์ หากมอบอำนาจ 5 เดือน บัตรมีอายุ 5 เดือน มอบอำนาจ 12 เดือน บัตรมีอายุ 12 เดือน แต่ถ้ามอบอำนาจ 15 เดือน บัตรจะมีอายุแค่ 12 เดือน หลังจากนั้นจะต้องมาขอบัตรใหม่ทำให้การจับกุมดำเนินคดีลิขสิทธิ์มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ส่วนตัวแทนลิขสิทธิ์ที่ไม่มาขึ้นทะเบียน กรมฯ ไม่ได้บังคับ แต่การดำเนินคดีจะต้องมีหลักฐานไปแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงให้กับผู้ที่ถูกดำเนินคดีทราบด้วยว่าเป็นผู้มีอำนาจจริง แต่กรมฯ เชื่อว่าตัวแทนที่ไม่มาขึ้นทะเบียน ต่อไปก็จะทำงานได้ยาก เพราะตำรวจต้องตรวจสอบมากขึ้น ผู้ที่ถูกจับกุม ก็ต้องตรวจสอบมากขึ้นเช่นเดียวกัน” นายทศพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย