ประธานผู้ตรวจฯยอมรับการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนต้องใช้เวลามากขึ้น

สนง.ผู้ตรวจฯ 28 ธ.ค.-ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน 
ยอมรับการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนใช้เวลามากขึ้น เพราะเรื่องซับซ้อน   หน่วยงานรัฐยึดกฎหมายต่างกัน  แต่จะไม่ให้ช้ากว่า 2 ปี 
พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูการขึ้นภาษีที่ดินให้เหมาะสม  ลดภาระที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน


 

 พลเอกวิทวัส   รชตะนันทน์   ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน 
กล่าวถึงภาพรวมการทำงานของผู้ตรวจการแผ่นดินในปี 2562  ว่า
ได้มีการปรับปรุงรูปแบบการจัดทำคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน  การร้องเรียน 
ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน มาตรา 22 (1) (2) (3)  เกี่ยวกับการเสนอปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย  ข้อบังคับที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน  การเสนอแนะความเห็นไปยังหน่วยงานรัฐ และ รายงาน
ครม.หากหน่วยงานไม่ปฎิบัติตามข้อเสนอแนะ 
คำวินิจฉัยที่จะต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ 
เมื่อแยกคำวินิจฉัยเป็นส่วนๆ ก็จะง่ายต่อการส่งคำวินิจฉัย  ทำให้รับทราบรายละเอียดของคดี
เช่นหน่วยงานที่ถูกร้อง ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 
ขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริง 
รวมถึงเหตุผลของการสั่งให้ยุติเรื่องหรือส่งไปยังศาลฯให้พิจารณา


 

          สำหรับเรื่องร้องเรียนในปี
2562 มีประมาณ  กว่า 4,000 เรื่อง เป็นเรื่องใหม่
2,600 เรื่อง  เป็นเรื่องที่ค้างมาจากปี
2561  กว่า 1,400 เรื่อง  โดยพิจารณาแล้วเสร็จ 2,600 เรื่อง  หรือคิดเป็นร้อยละ 55   ยอมรับว่าตัวเลขน้อยกว่าปีที่ผ่านมา 
เพราะในขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริงต้องทำให้ละเอียดมากขึ้น  ต้องใช้เวลาในการติดตามผลการหารือร่วมกับหน่วยงาน 
อีกทั้งเรื่องร้องเรียนในระยะหลังๆมีความซับซ้อน
เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานรัฐ 
ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็ยึดถือกฎหมายที่ตัวเองดำเนินการเป็นหลัก 
ดังนั้นต้องเอาเรื่องหลักนิติธรรมไปแก้ไขปัญหา  อีกทั้งบางเรื่องต้องใช้เวลาพิสูจน์
ว่ากฎหมายของหน่วยงานรัฐใดที่มีศักดิ์เหนือกกว่ากัน  เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด  ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาของประชาชน 
นอกจากนี้ยังพบว่าหน่วยงานรัฐไม่ปฎิบัติด้วยเหตุว่ายึดกฎหมายเป็นหลัก  จึงต้องมีการรายงานต่อ ครม. และก่อนเสนอไปยัง
ครม.ก็ต้องสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง  
จึงทำให้ต้องใช้เวลานาน 
แต่ก็มีกรอบเวลาต้องดำเนินการไม่ช้ากว่า 2 ปี

 


         
ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน 
ยอมรับว่ามีหน่วยงานรัฐร้อยละ 99 ยอมให้ความร่วมมือ  แต่ก็มีบางหน่วยงานที่ยังพูดยากอยู่  เช่น กรมอุทยาน กรมป่าไม้
ที่มีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับ สปก. 
การประกาศพื้นที่อุทยานทับซ้อนกับที่ราชพัสดุของ กรมธนารักษ์  ก็เป็นปัญหาค้างคา  เพราะการขีดแนวในอดีตไม่ได้ใช้หลักวิชาการ  และนำไปสู่การยึดถือเป็นข้อกฎหมาย 
เมื่อมีการสำรวจตามหลักแผนที่สมัยใหม่ก็จะเกิดปัญหาทับซ้อน  ขณะที่การบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดมาก  ซึ่งผู้ตรวจฯเห็นว่าอาจจะมองข้ามหลักนิติธรรม 
ย้ำว่าผู้ตรวจฯทำงานโดยยึดผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชน

 

           สำหรับกรณีการขึ้นภาษีที่ดินนั้น   ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน  
กล่าวว่ามีเสียงสะท้อนมายังผู้ตรวจการแผ่นดินในหลายเวที  ว่าเป็นภาระมาก  สำหรับชนขั้นกลาง  ที่ไม่ได้ตั้งบริษัท 
หรือคนที่ไม่สามารถโยกย้ายสินทรัพย์หรือไปเพาะปลูก
เรื่องปัญหาความแห้งแล้งในพื้นที่เพาะปลูก  
ใครจะเป็นฝ่ายดูแล  
ซึ่งมองว่าไม่ใช่เรื่องง่าย  
เมื่อไปออกกฎหมายแล้ว 
นำไปบังคับใช้ 
นับว่าเป็นเรื่องที่สร้างภาระให้กับประชาชนมาก   จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาการดำเนินการให้เกิดความเหมาะสม  ที่จะทำให้ประชาชนอยู่ได้ด้วยความผาสุก.สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

พระโคกิน “น้ำ-หญ้า-เหล้า” น้ำท่าบริบูรณ์ การค้าขายดี เศรษฐกิจรุ่งเรือง

พระยาแรกนา เสี่ยงทายหยิบได้ผ้านุ่ง 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำปีนี้มีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ดี พร้อมพระโคกินน้ำ หญ้า และเหล้า โหรหลวงพยากรณ์ น้ำท่าบริบูรณ์ การค้าขายดี เศรษฐกิจไทยรุ่งเรือง

เตือนพายุฤดูร้อน ภาคอีสาน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อน ภาคอีสาน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าบางพื้นที่ ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ผู้เสียหาย 70 ราย ร้องสภาทนายฯ ถูกหอพักโหดเอาเปรียบ

ผู้เสียหาย 70 คน เข้าร้องสภาทนายความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของหอพัก ย่านรังสิต เอาเปรียบ ข่มขู่กักขัง-ยึดทรัพย์ ด้านนายกสภาทนายความ ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี ทั้งแพ่ง-อาญา เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มอีก