กินเลี้ยงปีใหม่เยอะ “โรคอ้วน-โรคแทรกซ้อน” ถามหา

กรมการแพทย์ 26 ธ.ค.- แพทย์เตือนปีใหม่นี้กินเกินความต้องการของร่างกาย เสี่ยงเป็นโรคอ้วนและโรคแทรกซ้อน



นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ที่จะถึงนี้ จะมีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ รวมทั้งท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ประกอบกับปัจจุบันพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์ อาหารที่ให้พลังงานสูง อาหารแปรรูปหรืออาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม เป็นรสชาติที่คนไทย ชอบรับประทานมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น หากบริโภคเกินความต้องการของร่างกายประกอบกับขาดการออกกำลังกาย หรือออกกำลังกายน้อย จะส่งผลทำให้ระบบเผาพลาญอาหารผิดปกติ  เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคอ้วนและโรคอ้วนลงพุง คือภาวะที่มีไขมันสะสมในร่างกายจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณช่องท้องทำให้เห็นพุงยื่นออกมาชัดเจน ส่งผลให้รูปร่างดูไม่ดี หอบหรือเหนื่อยง่ายกว่าคนปกติ อาจมีผลกระทบต่อกิจกรรมในชีวิตประจำวันต่างๆ ดังนั้น ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งหากละเลยการดูแลตนเองอาจส่งผลทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรงอื่นๆ ตามมา เช่น โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมอง 


ด้าน นพ.เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์  กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่มีภาวะอ้วนหรืออ้วนลงพุง สามารถรักษาและป้องกันได้ ด้วยการควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยวิธีการจำกัดปริมาณอาหาร เป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงของโรคนี้ โดยเทคนิคหรือหลักการการเลือกรับประทานอาหารตามสัดส่วนแบบง่ายๆ คือ ลดปริมาณข้าวหรือแป้งให้น้อยลง เพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ที่หวานน้อย เลือกเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา เนื้อวัวหรือหมูไม่ติดมัน เนื้อไก่ไม่ติดหนัง หรือเต้าหู้ หลีกเลี่ยงน้ำหวาน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น แกงกะทิ ขนมหวานต่างๆ ของทอดและอาหารฟาสต์ฟู้ด เป็นต้น เปลี่ยนวิธีการปรุงอาหารด้วยการต้ม นิ่ง ย่าง  หรือสูตร 2 : 1 : 1 คือ ผัก : แป้ง : โปรตีน ในปริมาณอาหารหนึ่งจานควรมีผัก 50% ข้าวหรือแป้ง 25% โปรตีนหรือเนื้อสัตว์ 25% 


ทั้งนี้ ไม่ควรรับประทานน้ำตาลและไขมันเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน เกลือไม่ควรเกิน 1 ช้อนชาต่อวัน นอกจากนี้ควรเพิ่มการออกกำลังกายครั้งละ 30 นาที จำนวน 5 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเพียงเท่านี้จะสามารถลดพลังงานและน้ำหนักตัวลงได้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน

เงินดิจิทัลเฟส3

นายกฯ บอกรอก่อนเงินดิจิทัลเฟส3 ยังไม่เคาะกำหนดเดิมหรือไม่

นายกฯ บอก เงินดิจิทัลฯ เฟส3 รอก่อน ยังไม่เคาะจ่ายตามกำหนดเดิมหรือไม่ ชี้เจอปัจจัยไม่คาดฝัน-ภาษีทรัมป์ ต้องฟังความเห็นครบทุกหน่วยงาน แจง เจรจาแบบดีลลับสหรัฐ พร้อมเปิดในเวลาที่เหมาะและเกิดประโยชน์สูงสุดกับไทย ย้ำทันกรอบ 90 วัน

คลั่งยิงสนั่นแม่สอด

สยบหนุ่มคลั่ง ยิงสนั่นกลางเมืองแม่สอด

ระทึก! ชายคลั่งสาดกระสุนกลางเมืองแม่สอด ชาวบ้านแตกตื่นหนีตาย สุดท้ายเปิดฉากยิงปะทะ เจอตำรวจยิงสวนโดนขา 2 นัด สิ้นฤทธิ์