นนทบุรี 25 ธ.ค. – กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยยอดจดทะเบียนตั้งธุรกิจใหม่เดือนพฤศจิกายน
2562 มีจำนวน 4,968 ราย ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จดทะเบียนตั้งใหม่มากที่สุด
ส่วนธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนพฤศจิกายน มีทั้งสิ้น 748,942 ราย
นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์
รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยการจดทะเบียนธุรกิจเดือนพฤศจิกายน 2562 ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนตั้งใหม่จำนวน
4,968 ราย และตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2562 มีธุรกิจตั้งใหม่จำนวน 68,327 ราย
ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – พ.ย. 61) ที่มีจำนวน 68,007 ราย
โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไปรองลงมา
คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
สำหรับธุรกิจเลิกกิจการ เดือนพฤศจิกายน 2562 มีจำนวน
2,393 ราย รวมจำนวนธุรกิจเลิกกิจการสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2562 มีจำนวน
16,463 ราย ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – พ.ย. 61)
ซึ่งมีจำนวน 16,264 ราย ธุรกิจเลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร /
ร้านอาหาร
ด้านธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนพฤศจิกายน มีทั้งสิ้น
748,942 ราย มูลค่าทุน 18.24 ล้านล้านบาท
จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด / ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 184,855 ราย
คิดเป็นร้อยละ 24.68 บริษัทจำกัด จำนวน 562,828 ราย คิดเป็นร้อยละ 75.15
และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,259 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17 ตามลำดับ ซึ่งแนวโน้มของการจัดตั้งธุรกิจตลอดปี
2562 เมื่อประเมินจากสถานการณ์การจดทะเบียนและสภาพเศรษฐกิจ คาดว่า
สถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจจะมีจำนวนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ประมาณ 72,000
ราย
ด้านการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว
เดือนพฤศจิกายน 2562
มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 56 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ
22 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 34 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 18,011
ล้านบาท มีนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 21
ราย เงินลงทุน 8,534 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 11 ราย เงินลงทุน 567
ล้านบาท และมาเลเซีย 4 ราย เงินลงทุน 126 ล้านบาท
ทั้งนี้ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2562
คนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ จำนวน 561 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 185,829 ล้านบาท
และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรากฏว่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 73,283 ล้านบาท เนื่องจากในปี
2562 มีต่างชาติลงทุนประกอบธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อาทิ
บริการขุดเจาะปิโตรเลียม
บริการออกแบบทางวิศวกรรมและบริหารจัดการโครงการรื้อถอนแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในทะเล บริการออกแบบติดตั้ง ตรวจสอบ ทดสอบ
และบริหารจัดการโครงการประตูกั้นชานชาลาแบบครึ่งความสูง.- สำนักข่าวไทย