ผลสำรวจใช้จ่ายปีใหม่ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 12 ปี

กรุงเทพฯ 24 ธ.ค. – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินพฤติกรรมการใช้จ่ายปีใหม่ 2563 ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 12 ปี เพียงร้อยละ 1.9 หรือประมาณ 137,000 ล้านบาท เนื่องจากประชาชนกังวลปัญหาเศรษฐกิจใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างระหว่างวันที่ 11-20 ธันวาคม 2562 จำนวน 1,223 ตัวอย่างทั้งประเทศ พบว่า กิจกรรมในช่วงปีใหม่ คือ ทำบุญทางศาสนา  สังสรรค์ จัดเลี้ยง ท่องเที่ยว การซื้อสินค้าให้กับตนเองและผู้อื่น 

อย่างไรก์ตาม ในส่วนของการซื้อสินค้าให้ตนเองและผู้อื่น พบว่าลดลงอยู่ที่ร้อยละ 74.1 เมื่อเทียบกับปีที่ร้อยละ 90.1 ส่วนกิจกรรมในช่วงปีใหม่ เช่น ทำบุญทางศาสนา สังสรรค์ พบว่าลดลงจากปีก่อนเช่นกัน แต่ในส่วนของการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยรวมค่าใช้จ่ายที่ประชาชนใช้ในช่วงปีใหม่ 2563 เงินสะพัดประมาณ 137,809 ล้านบาท แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 58,000 ล้านบาท และต่างจังหวัด 79,000 ล้านบาท  เพิ่มจากปี 2562 ที่ 135,279 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1.9 และถือว่าขยายตัวต่ำสุดในรอบ 12 ปี สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่อัตราการเติบโต หรือจีดีพีขยายตัวเพียงร้อยละ 2.6 เนื่องจากประชาชนกังวลภาวะเศรษฐกิจจึงใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง


ทั้งนี้ สิ่งที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการปี 2563 คือ แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ควบคุมราคาสินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน จัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ พัฒนาการศึกษา ดูแลค่าครองชีพให้เหมาะสม มีงานทำ พร้อมประเมินผลการแก้ไขปัญหารัฐบาลด้านต่าง ๆ จากคะแนนเต็ม 10 พบว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้คะแนน  5.56 ปัญหาคอร์รัปชั่นได้คะแนน 5.81 และปัญหาความขัดแย้งได้คะแนน 5.34

อย่างไรก็ตาม คำอวยพรให้กับประเทศไทยปีใหม่นี้ ขอให้สมเด็จพระราชินีในรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ขอให้เศรษฐกิจดีขึ้น ประเทศไทยปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ คนไทยกลุ่มต่าง ๆ มีความสมานฉันท์และภาคใต้สงบสุข โดยปัญหาที่รัฐบาลควรแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด คือ แก้ไขเศรษฐกิจโดยรวม ปัญหาสังคม การเตรียมความพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ การแก้ไขทุจริตคอร์รัปชั่น และอยากให้ของขวัญเป็นกำลังใจกับรัฐมนตรีมากสุด ได้แก่ นายกรัฐมนตรี และอยากไปท่องเที่ยวกับนักการเมืองคนไทยมากที่สุด คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองลงมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นอกจากนี้ สิ่งที่อยากให้รัฐบาลดำเนินปีหน้ามากสุด คือ ปัญหาหนี้ครัวเรือน ดูแลค่าครองชีพให้เหมาะสม ปัญหาค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ ดูแลความผันผวนเศรษฐกิจโลก แก้ไขปัญหายาเสพติดและอื่น ๆ เป็นต้น

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย ยังประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะขยายตัวดีขึ้น เพราะขณะนี้ภาคการท่องเที่ยวเริ่มกระเตื้องขึ้นแล้ว จากจำนวนเที่ยวบินในสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว รวมทั้งมีการย้ายฐานการผลิตจากจีนและไต้หวันหลายอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันรัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ จะต้องประคับประคองบรรยากาศบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อย และไม่มีการประท้วง เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน