สมุทรสาคร 23 ธ.ค.-ข่าวร้ายรับปีใหม่ พนักงานบริษัทอะไหล่ยนต์เกือบ 1,000 คน ที่ จ.สมุทรสาคร มาถึงหน้าโรงงานแล้วเข้าไปทำงานไม่ได้ เพราะโรงงานปิดประตูรั้วแน่นหนา พร้อมติดป้ายประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงาน โดยจะจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่ไม่มีใครคาดคิดและไม่อยากให้เกิดขึ้น เมื่อพนักงานของบริษัทพงศ์พาราโคดันรับเบอร์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เกือบ 1,000 คน มาถึงหน้าบริษัทฯ แล้วไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ เพราะโรงงานปิดประตูรั้วไว้อย่างแน่นหนา พร้อมกับติดป้ายประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงาน โดยจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย ด้วยเหตุผลที่ว่า บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องปิดกิจการอันสืบเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางธุรกิจ โดยปิดกิจการบริษัทฯ นี้ ให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป ทำให้พนักงานตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว นับเป็นข่าวร้ายต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
ทั้งนี้ เมื่อเข้าไปในรั้วโรงงานไม่ได้ พนักงานทุกคนจึงเคลื่อนไปรวมตัวกันที่สำนักงานสหภาพแรงงานผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไทย ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบริษัทฯ มากนัก เพื่อหารือเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้พนักงานทุกคน
นายสัพพัญญู นามไธสง ประธานสภาพแรงงานผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไทย บอกว่า พวกตนไม่เชื่อว่าการเลิกจ้างครั้งนี้เป็นเพราะบริษัทขาดสภาพคล่อง ถึงแม้ยอดส่งออกของชิ้นส่วนยานยนต์จะลดลง แต่ก็ไม่ได้ลดลงถึงกับต้องปิดตัว เรื่องชิ้นส่วนยานยนต์ยังเดินหน้าได้ ตอนนี้สมาชิกของสภาพแรงงานผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไทยส่วนหนึ่งก็ตกลงกันว่ายังไม่ยอมรับเงื่อนไขใดๆ จนกว่าจะรู้อย่างชัดเจนว่าทางบริษัทจะทำอย่างไรต่อไป และสาเหตุของการปิดกิจการนี้เพราะอะไรกันแน่
ด้านหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานทั้ง 5 แห่ง ใน จ.สมุทรสาคร เดินทางไปรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีนายอำนวย มากทรัพย์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้ชี้แจงถึงข้อกฎหมายให้พนักงาน ลูกจ้างทั้ง 997 คน ได้รับทราบ ซึ่งจะเป็นในเรื่องของการจ่ายค่าชดเชยให้แก่แรงงานที่บริษัทปิดกิจการกะทันหัน, การรับค่าชดเชยการว่างงาน, การใช้สิทธิจากสำนักงานประกันสังคม และสำนักงานจัดหางานจังหวัด ตลอดจนการฝึกทักษะฝีมือของผู้ใช้แรงงานกันสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร เป็นต้น และบริษัทฯ จะต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ในส่วนของเงินชดเชยที่บริษัทฯ จะต้องรับผิดชอบ หลังจากประกาศปิดกิจการในครั้งนี้มียอดเงินประมาณ 114 ล้านบาท ซึ่งทางบริษัทฯ กำหนดวันจ่ายไว้ให้วันที่ 23, 24 และ 25 และหลังจากนั้นหากใครไม่มารับก็จะโอนเข้าบัญชีธนาคารให้แก่พนักงานรายนั้นๆ
นายอำนวย กล่าวอีกว่า ในปี 2562 มีบริษัทฯ ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่เลิกจ้างพนักงานหรือปิดกิจการชั่วคราวรวมแล้วประมาณ 15 แห่ง แต่ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่า เป็นสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในอนาคตหรือไม่ เพราะก็มีผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน.-สำนักข่าวไทย