ปปง.อายัดทรัพย์สิน 5 คดีแชร์ดัง

ปปง.20 ธ.ค.- ปปง. อายัดทรัพย์สิน 5 คดีแชร์ดัง เช่น แชร์แม่มณี, แชร์ FOREX 3D, แชร์ NICE REVIEW และแชร์ น้าหลุยส์ร่างทรง รวมมูลค่ากว่า 585 ล้านบาท


พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาธิการ ปปง.)กล่าวว่า คณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 12/2562 วันที่ 19 ธันวาคม 2562 ได้มีมติอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดคดีแชร์ลูกโซ่ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน จำนวน 5 รายคดี ซึ่งพฤติการณ์แห่งคดี มีลักษณะเป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ดังนี้

1. รายคดี นางสาววันทนีย์ ทิพย์ประเวช กับพวก หรือ “คดีแชร์แม่มณี” พฤติการณ์แห่งคดีโดยย่อ : นางสาววันทนีย์ ทิพย์ประเวช มีพฤติการณ์หลอกลวงชักชวนประชาชนโดยทั่วไปผ่านทางเฟซบุ๊กให้ร่วมออมเงิน (แชร์แม่มณี) โดยกล่าวอ้างผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ลงทุนสูง ร้อยละ 1,116 – 3,040.45 ต่อปี จนมีผู้หลงเชื่อและเข้าร่วมลงทุนกับนางสาววันทนีย์ฯ เป็นจำนวนมาก ซึ่งในช่วงแรกนางสาววันทนีย์ฯ ได้จ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ร่วมลงทุนเพื่อจูงใจให้มีการลงทุนใหม่ในครั้งต่อไป แต่ต่อมานางสาววันทนีย์ ไม่สามารถคืนทั้งต้นเงินลงทุนและผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนได้ตามกำหนด เมื่อผู้ลงทุนทวงถามก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงและไม่สามารถติดต่อนางสาววันทนีย์ฯ ได้ เป็นเหตุให้ผู้ลงทุนได้รับความเสียหายจำนวนมาก


มติคณะกรรมการธุรกรรม : เห็นชอบให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 15 รายการ พร้อมดอกผล (ที่ดินและเงินในบัญชีเงินฝาก) รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 56,690,803.51 บาท ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน

2.รายคดี นายอภิรักษ์ โกฎธิ กับพวก หรือ “คดีแชร์ FOREX 3D” พฤติการณ์แห่งคดีโดยย่อ : นายอภิรักษ์ โกฎธิ กับพวก ใช้เว็บไซต์ www.Forex-3D.com เป็นช่องทางในการหลอกลวงโฆษณาชักชวนประชาชนทั่วไปให้นำเงินไปลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (FOREX) โดยเสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 60 – 80 ของเงินผลกำไรที่ได้จากการเทรดฟอเร็กซ์ และประกันเงินต้นที่ร่วมลงทุนร้อยละ 100 อีกทั้งยังมีการชักชวนผ่านระบบแนะนำสมาชิก หากสมาชิกรายใดสามารถชักชวนบุคคลอื่นมาร่วมลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 1 – 5 ของผลตอบแทนของสมาชิกรายใหม่ที่ชักชวนมาร่วมลงทุน ทำให้มีผู้หลงเชื่อและร่วมลงทุน ต่อมาไม่จ่ายผลตอบแทนและไม่คืนเงินทุนตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้มีผู้เสียหายจากการร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก

มติคณะกรรมการธุรกรรม : เห็นชอบให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 9 รายการ พร้อมดอกผล (ที่ดินและเงินฝากในบัญชีธนาคาร) รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 90,964,778.24 บาท ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน


3. รายคดี บริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จำกัด กับพวก หรือ “คดีแชร์ NICE REVIEW” พฤติการณ์แห่งคดีโดยย่อ : บริษัท เอนเนอร์จี ดีดักชั่น จำกัด เปิดรับสมัครคนกดไลค์กดแชร์โดยเรียกเก็บเงินค่าประกันการทำงานก่อนการทำสัญญาจ้างงาน โดยมีการโฆษณาเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทว่าจะให้ค่าจ้างในอัตราที่เพิ่มขึ้น หากผู้สมัครจ่ายค่าประกันการทำงานในอัตราที่สูงขึ้น เพื่อเป็นการจูงใจให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อเข้ามาสมัครและยอมจ่ายเงินค่าประกันการทำงานในอัตราที่สูง เป็นเหตุให้ประชาชนหลงเชื่อเข้ามาสมัครและยอมจ่ายเงินค่าประกันการทำงานในอัตราที่สูงให้แก่ผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก ต่อมาผู้ต้องหาได้มีการจ่ายเงิน ค่าทำงานให้แก่ผู้สมัครล่าช้าจนมีการขอยกเลิกสัญญาจ้างงานและขอคืนเงินประกันการทำงานแต่ผู้ต้องหาไม่ยอมคืนเงินประกันการทำงานให้แก่ผู้สมัครและได้ปิดบริษัทหลบหนีไป โดยในคดีดังกล่าว มีผู้เสียหายจำนวนหลายหมื่นคน

มติคณะกรรมการธุรกรรม : เห็นชอบให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 35 รายการ พร้อมดอกผล (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ นาฬิกาและกระเป๋าแบนด์เนม เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร เงินในบัญชีกองทุนเปิด และเงินในบัญชีกองทุนรวม) รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 174,362,095.45 บาท และเงินสกุลต่างประเทศ ธนบัตรดอลลาร์สิงคโปร์ จำนวน 9,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์ และธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐ จำนวน 18,800 ดอลล่าร์สหรัฐ รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้นประมาณ 175,130,375.45 บาท ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน

4. รายคดี นางพันธุ์ทิพา นัยยทิพย์ กับพวก หรือ “คดีแชร์ น้าหลุยส์ร่างทรง” พฤติการณ์แห่งคดีโดยย่อ : นางพันธุ์ทิพา  นัยยทิพย์ พร้อมพวก ได้ชักชวนผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนเป็นสมาชิกของสมาคมพัฒนาผู้มีรายได้น้อย กองทุนเกตุกัญญาฟาร์ม และกองทุนน้าหลุยส์ โดยจัดให้มีการประชุมและพูดชักจูงใจผู้เข้าร่วมประชุมให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกโดยบอกว่าจะนำเงินไปลงทุนสร้างสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ ซื้อเครื่องจักรเพื่อการเกษตร และช่วยเหลือผู้ที่ไร้โอกาสทางสังคม โดยอ้างว่าสมาชิกฯ จะได้รับผลตอบแทนในอัตราสูง รวมทั้งมีการนำภาพหญิงชราแต่งกายคล้ายนักบวชมากล่าวอ้างว่าเป็น น้าหลุยส์ หรือหม่อมหลุยส์ หรือพันโทพันธุ์ทิพา นัยยทิพย์ ซึ่งทำงานในวัง และจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนจน และยังกล่าวอ้างว่าเงินที่นำไปลงทุน จะเอาไปเสียภาษีเพื่อนำเงินในวังออกมาแจกจ่ายให้กับสมาชิกกองทุนน้าหลุยส์ นอกจากนี้เงินที่ได้รับจากสมาชิกทางสมาคมจะนำไปช่วยในงานพระราชพิธีของในหลวง ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อเข้าร่วมรับฟังและร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก

มติคณะกรรมการธุรกรรม : เห็นชอบให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 9 รายการ พร้อมดอกผล (เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 788,017.10 บาท ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน

5.  รายคดี นางสาววาณี วีรศักดิ์ธารา กับพวก มีพฤติการณ์แห่งคดีโดยย่อ : นางสาววาณี วีรศักดิ์ธารา พร้อมพวก แอบอ้างว่าตนเองเป็นตัวแทนของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทใหญ่ของต่างประเทศ โดยชักชวนให้ผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุน ในธุรกิจซื้อขายรถยนต์ ซึ่งนางสาววาณี อ้างว่าตนได้รับโควต้ารถยนต์จากสำนักงานใหญ่ เป็นล็อตจำนวนหลายคัน ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ร้อยละ 10 สามารถนำไปจำหน่ายเพื่อให้ได้กำไรและแบ่งประโยชน์ให้กับผู้ร่วมลงทุนได้ เมื่อผู้ลงทุนหลงเชื่อและโอนเงินให้ กลับไม่ได้รับรถยนต์ตามที่ตกลงและไม่ได้รับเงินคืน โดยนางสาววาณี ได้มีการทำธุรกรรมเป็นเงินจำนวนมากไปยังบัญชีธนาคารของผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ และบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย และได้มีการนำเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายให้ลงทุนในธุรกิจซื้อขายรถยนต์ที่ไม่มีอยู่จริงไปใช้ในการลงทุนธุรกิจค้าขายอะไหล่ จากนั้นจึงนำเงินจากธุรกิจดังกล่าวหมุนเวียนเข้าไปในธุรกิจรถยนต์ โดยได้กระทำในลักษณะดังกล่าวมาโดยตลอด

มติคณะกรรมการธุรกรรม : เห็นชอบให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 86 รายการ พร้อมดอกผล (กรรมสิทธิ์ห้องชุด เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง) รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 260,295,019.26 บาท ไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน

หลังจากคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวมีกำหนดไม่เกิน 90 วัน ตามมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 แล้ว สำนักงาน ปปง. จะส่งเรื่องไปประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้ผู้เสียหายมายื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหายและจำนวนความเสียหาย ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นจะเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมพิจารณาส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปชดใช้คืนให้ของผู้เสียหาย 

ทั้งนี้ ผู้เสียหายสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าการดำเนินการกับทรัพย์สินในคดีดังกล่าวผ่านเว็บไซต์สำนักงาน ปปง. www.amlo.go.th หรือโทรสอบถามทางสายด่วน ปปง. 1710 ในวันและเวลาราชการ และขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ทราบว่า ผู้ใดกระทำการดังต่อไปนี้ (1) โอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าก่อน ขณะหรือหลังการกระทำความผิด มิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลงในความผิดมูลฐาน หรือ (2) กระทำด้วยประการใด ๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริง การได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือ (3) ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะที่ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ใดยักย้าย ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารหรือบันทึก ข้อมูล หรือทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานยึดหรืออายัดไว้ หรือที่ตนรู้หรือควรรู้ว่าจะตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]