“พรรคนัยน์”ยัน พรรควิชชั่นใหม่ไม่ใช่พรรคการเมืองสำรอง

สำนักงานกกต. 18 ธ.ค.-“พรรคนัยน์” นำทีมยื่น 600 ชื่อขอตั้ง “พรรควิชชั่นใหม่” ยันไม่ใช่พรรคการเมืองสำรอง อาสาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ยกระดับแรงงานเทียบเท่าข้าราชการ   

นายพรรคนัยน์ รังษีสุวรรณ ว่าที่หัวหน้าพรรควิชชั่นใหม่ นายชนพัฒน์  โภคาเจริญเกียรติ ว่าที่รองหัวหน้า นายสุโท สร้างคำ ว่าที่เลขาธิการพรรค พร้อมกรรมการบริหารพรรคนำรายชื่อสมาชิกพรรคจำนวน 600 รายชื่อยื่นขอจดจัดตั้งพรรควิชชั่นใหม่กับนายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักงาน กกต. โดยนายพรรคนัยน์ กล่าวถึงเหตุผลที่ตั้งพรรคการเมืองเพราะเห็นว่าเศรษฐกิจกำลังแย่ เราคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มาจากหลากหลายอาชีพ  มีรายชื่อคนจัดตั้งทั้งภาคกลาง เหนือ อีสานและใต้ร่วมกลุ่มกันได้ 600 คน

“สมาชิกกลุ่มที่มาร่วมกันจัดตั้งพรรคครั้งนี้มีทั้งอดีตกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) กลุ่มเครือข่ายของพรรคต่างๆ  เพื่อดำเนินการกิจการทางการเมืองในช่วงค่อนข้างเป็นวิกฤติทางเศรษฐกิจ เราได้นำนโยบายหลายอย่างที่จะมาช่วยประชาชน ที่เรามาตั้งพรรควิชชั่นใหม่เพราะเรามองเห็นสภาพความขัดแย้งของประชาชนและพรรคการเมือง เราจึงอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำของสังคม” นายพรรคนัยน์ กล่าว

  นายพรรคนัยน์ กล่าวว่า พรรควิชชชั่นใหม่เป็นพรรคของปวงชนทุกคน   ตลอดระยะเวลา 1 ปี ได้ดำเนินกิจการพรรคมาตั้งแต่มีการเลือกตั้ง ใครจะมองว่าสวนกระแส แต่เราเข้ามาเพื่อจะเป็นพรรคหนึ่งที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง  พัฒนาแรงงานที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้เกษตรกรมีรายได้เลี้ยงดูตัวเองได้  ไม่ใช่เป็นการยื่นเงินให้  แต่จะทำให้ โดยเราจะทำ  1 อำเภอ 5 โรงงานแปรรูปเป็นผลผลิตของทั่วประเทศ และทำให้แรงงาน พนักงานเอกชนมีสิทธิเทียบเท่าข้าราชการ

“ช่วงนี้ไม่ใช่หน้าเลือกตั้ง แต่เชื่อว่าการเมืองไม่แน่นอน เราจะทำสมาชิกให้เยอะที่สุด ที่ผ่านมาเราเคยทำพรรคพลังปวงชนไทย มีสมาชิก 7-8 หมื่นคน ตอนนี้เราจึงจะรวบรวมสมาชิกให้ได้ 1-2 แสนคน เราไม่ได้เป็นพรรคสำรองใคร  เรามาด้วยจิตใจบริสุทธิ์  และไม่ทราบว่าจะมีการยุบพรรคอนาคตใหม่ ขึ้นอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาอย่างไร   ที่เราเข้ามาเพราะเราเดินงานการเมืองมาตั้งแต่มาการเลือกตั้งแล้ว” นายพรรคนัยน์ กล่าว

ด้านนายชนพัฒน์ กล่าวว่า พรรควิชชั่นใหม่ต้องการสร้างการเมืองใหม่  ด้วยการนำนักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อน เพราะสภาวะบ้านเมืองเกิดความขัดแย้งต่อเนื่อง จึงต้องการเป็นตัวหลักขับเคลื่อนให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ.-สำนักข่าวไทย