กรุงเทพฯ 17 ธ.ค. – “ประภัตร” เปิดโครงการโคเนื้อสร้างชาติ ดัน “ขอนแก่นโมเดล” หนุนสินเชื่อ 33 ล้านบาท ส่งเสริมการเลี้ยงโค สร้างรายได้ระยะสั้น มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้เกษตรกร
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานการขับเคลื่อนโครงการภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกรมปศุสัตว์และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดทำโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และกิจการที่เกี่ยวเนื่อง พิธีเปิดโครงการจัดขึ้นวิทยาลัยเทคโนโลยีนครขอนแก่น ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน
นายประภัตร กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถประกอบอาชีพและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถภาคปศุสัตว์ไทย ฟื้นฟูอาชีพแก่เกษตรกร บรรเทาความเดือดร้อนเสียหายอันเนื่องมาจากภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ และผลกระทบจากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดการตลาดผลิตผลการเกษตรที่เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ และสร้างอาชีพทางเลือกใหม่ด้วยการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมมาเลี้ยงสัตว์จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศได้แก่ โคเนื้อ กระบือ แพะแกะ และไก่พื้นเมือง รวมถึงกิจการที่เกี่ยวเนื่อง
สำหรับโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคขุนสร้างรายได้ภายใต้โครงการโคเนื้อสร้างชาติ จัดขึ้นจังหวัดขอนแก่นเป็นแห่งแรกเรียกว่า “ขอนแก่นโมเดล” โดยจังหวัดขอนแก่นมีเกษตรกรเลี้ยงโคเนื้อ 28,774 ราย มีโคเนื้อรวม 162,863 ตัว ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในด้านการเลี้ยงโคเนื้อและเป็นศูนย์กลางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นการเลี้ยงโคขุนระยะสั้น ไม่เกิน 4 เดือน โคจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 200 กิโลกรัมซึ่งเบื้องต้นจีนประสงค์รับซื้อจำนวนมาก โดยโคมีชีวิตกิโลกรัมละ 100 บาท นอกจากนี้ มูลโคยังใช้ทำปุ๋ยสำหรับเพาะปลูกช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงโคขุนระยะสั้น ตลอดจนพัฒนาศักยภาพคอกกลางรวบรวมโคขุนและคอกกักเพื่อการส่งออกให้กับสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน จำนวน 40,000 รายในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเกษตรกรต้องจัดหาซื้อโคตามคุณลักษณะที่กรมปศุสัตว์กำหนดคือ โคเนื้อเพศผู้ 5 ตัว อายุระหว่าง 1 ปีครึ่ง – 2 ปี น้ำหนักเฉลี่ย 250 กิโลกรัม พร้อมกันนี้รัฐสนับสนุนค่าอาหารผสมเสร็จ (TMR) ค่าเบี้ยประกันภัยโค และสนับสนุนการเจาะบ่อบาดาลเพื่อการเกษตรอีกด้วย
นายประภัตร กล่าวต่อว่า ขอนแก่นโมเดลจะเป็นต้นแบบให้อีก 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งในการเริ่มโครงการแต่ละจังหวัดจะมีการประชุมชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดให้เกษตรกรผู้ที่สนใจรับทราบ ทั้งนี้ จังหวัดขอนแก่นดำเนินการโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และกิจการที่เกี่ยวเนื่องไปเบื้องต้นแล้วมีกลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มสหกรณ์สนใจขอเข้าร่วมโครงการจำนวน 149 กลุ่ม เกษตรกร 1,487 คน ปัจจุบัน ธ.ก.ส.อนุมัติเงินงบประมาณให้เกษตรกรและแปลงใหญ่โคเนื้อ 3 กลุ่ม เป็นเงิน 25.57 ล้านบาท โครงการสินเชื่อชุมชนปรับเปลี่ยนเพื่อพัฒนาอาชีพของผู้มีรายได้น้อย (XYZ) 4 กลุ่ม เป็นเงิน 7.44 ล้านบาท รวม 33 ล้านบาท และยังมีเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการอีกจำนวนมาก โดยโครงการนี้จะเป็นของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ มอบให้เกษตรกร
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์และกิจการที่เกี่ยวเนื่อง ประกอบด้วย โครงการส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตโคขุน 40,000 ราย ๆ ละ 5 ตัว รวมโคขุนอย่างน้อย 200,000 ตัว สร้างหรือพัฒนาคอกกลางรวบรวมโคขุน 200 แห่ง (สัดส่วนประมาณ 500/คอก) ในพื้นที่ทั่วประเทศ และคอกกักเพื่อการส่งออก 20 แห่ง (รองรับโคขุนประมาณ 1,000 ตัว/คอก) โครงการส่งเสริมการผลิตกระบือ เกษตรกรเป้าหมาย 4,000 ราย ๆ ละ 5 ตัว รวม 20,000 ตัว โครงการส่งเสริมการผลิตแพะเนื้อ เกษตรกรเป้าหมาย 1,000 ราย ๆ ละ 21 ตัว รวม 21,000 ตัว โครงการการส่งเสริมการผลิตไก่พื้นเมือง เกษตรกรเป้าหมาย 294 ราย ผลิตไก่พื้นเมืองขุน 264,000 ตัว/ปี และกิจการที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทั่วประเทศตามศักยภาพและแผนธุรกิจที่มีความชัดเจนได้แก่ ธุรกิจศูนย์ผลิตอาหารสัตว์ (Feed Center) การผลิตพืชอาหารสัตว์ การผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ ธุรกิจการส่งขนและการกระจายสินค้า (Logistics) เป็นต้น
สำหรับคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร หรือวิสาหกิจชุมชน มีความพร้อมในการจัดเตรียมโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่างเหมาะสม จัดหาอาหารสัตว์ให้กินอย่างเพียงพอตลอดระยะเวลาการเลี้ยงเพื่อให้สัตว์มีการเจริญเติบโตเต็มที่อย่างมีศักยภาพ ผู้เข้าร่วมโครงการต้องดำเนินการจัดซื้อจัดหาพันธุ์สัตว์และปัจจัยการผลิตตามโครงการด้วยตนเอง นอกจากนี้ ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อไม่เกิน 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 100 บาท/ปี กลุ่มละไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละโครงการ ส่วนเกษตรกรที่เป็นหนี้ NPL นั้นสามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยติดต่อที่ธ.ก.ส. เพื่อให้ความช่วยเหลือในการแบ่งผ่อนตามระเบียบต่อไป ขณะนี้ปศุสัตว์จังหวัดกำลังสำรวจความต้องการกลุ่มเกษตรกรที่พร้อมเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย