เตือนระวังการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส อาบน้ำหน้าหนาว

สธ.14 ธ.ค.-โฆษก สธ.เตือนระวังการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สอาบน้ำ หน้าหนาว ต้องมีช่องระบายอากาศ หากมีอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง หายใจลำบาก ได้กลิ่นแก๊สมากผิดปกติให้รีบออกจากห้องน้ำทันที


วันนี้ (14 ธ.ค.)นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงหน้าหนาวนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวภูเขา  ดอยสูงทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามรีสอร์ทที่พักมักใช้เครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ซึ่งทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และคาร์บอนมอนนอกไซด์ เมื่อสูดดมเข้าไปในปริมาณมากและเป็นเวลานาน จะมีอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ  มึนงง หน้ามืด หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน ซึม หมดสติ และเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคโลหิตจาง หอบหืด ถุงลมโป่งพอง ความดันโลหิตสูง เป็นกลุ่มเสี่ยงมีโอกาสเสียชีวิตสูง จึงควรเปิดช่องหรือพัดลมระบายอากาศในระหว่างอาบน้ำทุกครั้ง และเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 20 นาทีก่อนที่คนต่อไปจะใช้ห้องน้ำ


นพ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า กรณีไม่มีพัดลมดูดอากาศให้สำรวจว่าประตูห้องน้ำมีช่องระบายอากาศกว้างพอที่อากาศภายนอกจะเข้ามาได้  แต่หากไม่มีทั้งพัดลมดูดอากาศและประตูห้องน้ำปิดทึบ ควรแง้มประตูห้องน้ำระหว่างอาบน้ำ และไม่ควรอาบน้ำนานเกินไป หากถ้ามีอาการผิดปกติหรือได้กลิ่นแก๊สมากผิดปกติ ควรรีบออกจากห้องน้ำทันที นอกจากนี้จะต้องใช้เฉพาะการอาบน้ำ ไม่นำไปใช้ทำความร้อนภายในห้องพัก ดังกรณีข่าวนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ จ.เพชรบูรณ์ เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สทิ้งไว้เพื่อให้ความร้อนเข้ามาในห้องนอน จนทำให้หมดสติ


สำหรับผู้ที่นอนเต็นท์ขอย้ำว่าห้ามจุดเตาผิงไฟในเต็นท์ ซึ่งจะเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์จากการเผาไหม้ขังอยู่ภายในเต็นท์ เมื่อหายใจเข้าไปจะทำให้สมองขาดออกซิเจนไปเลี้ยง ง่วงหลับโดยไม่รู้ตัวและเสียชีวิตได้   

“ขอให้ประชาชนรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 6-8 แก้ว ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมร่างกายให้แข็งแรงพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ สวมเสื้อผ้า เครื่องกันหนาวให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ สวมถุงมือถุงเท้า และสวมหมวก       ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้หนาว ผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องนำยาที่แพทย์ติดตัวไปด้วย เพื่อให้เดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุข ช่วยเศรษฐกิจของประเทศ” นพ.ณรงค์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ