เกาะติดคดีฆ่าอำพรางเซลส์สาว 3 ปีก่อนพบศพ

สระบุรี 13 ธ.ค.-เกาะติดคดีเซลส์สาวขายปุ๋ย ถูกฆ่าอำพรางหมกเก๋งจมคลอง 3 ปี ล่าสุดตำรวจให้น้ำหนักที่เรื่องชู้สาว พร้อมพบหลักฐานสำคัญในรถคันเกิดเหตุ


รถยนต์ของนางสาวกลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี อยู่ในสภาพเปื้อนดินโคลน หลังจมอยู่ในคลองชลประทานชัยนาท – ป่าสัก นายกว่า 3 ปี ก่อนจะมีผู้พบเห็นและกู้รถขึ้นมา เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา เบาะด้านหลังเป็นจุดพบโครงกระดูก อยู่ในชุดนอนและกางเกงชั้นในสีดำ มีผ้าปูที่นอนลักษณะคล้ายถูกห่อร่างที่เสียชีวิตไว้ นางสาวกลิ่นเกสร หายไป 3 ปีกว่า พยานหลักฐานในคดีนี้เลือนรางตามกาลเวลา แต่สภาพรถยนต์และโครงกระดูกที่พบในรถยนต์ บ่งชี้เป็นการฆาตกรรมอำพราง 


นายสุรเดช ปรางค์ทอง อาสากู้ภัยร่วมกตัญญูที่ดำน้ำและกู้ซากรถ บอกว่าศพอยู่เบาะหลัง ผ้าที่ใช้ห่อศพมีปมมัดด้านศีรษะ ผ้าเทปพันเป็นวงกลม เสื้อนอนสายเดี่ยว และกางเกงชั้นใน ไม่มีกางเกงนอก อีกทั้งเกียร์รถยนต์ที่อยู่ตำแหน่งกลางคาดว่าจะอยู่ในตำแหน่งเกียร์ N หรือเกียร์ D แต่กู้ภัยดันเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง P เพื่อดึงรถขึ้น


นางลั่นทม วงษ์สิงห์ มารดาของนางสาวกลิ่นเกสร ยืนยันว่า โครงกระดูกที่พบในรถ เป็นลูกสาว เพราะรถเป็นรถของลูกสาว เอกสารต่างๆ ของใช้ในรถ ก็เป็นของลูกสาวที่หายไปเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรพระพุทธบาท ผู้เป็นมารดา บอกว่า ลูกสาวทำงานเป็นเซลส์ขายปุ๋ยโรงงานผลิตปุ๋ยรูปดาว 5 ดวงในอำเภอพระพุทธบาท คบหากับเสี่ยเจ้าของโรงงาน โดยวันที่ลูกสาวหายตัว คือวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 บอกจะไปนอนที่โรงงาน ตอนเช้าให้ไปเจอกันที่ร้านอาหารใกล้วงเวียนในอำเภอพระพุทธบาท แต่ไปรอที่ร้านตั้งแต่เช้า ก็ไม่เจอ

นางลั่นทม บอกด้วยว่า หลังนางสาวกลิ่นเกสร หายตัวไป เสี่ยเจ้าของมีท่าทีแปลกไปหลายอย่าง เช่น เคยไปถามหาลูกสาว เจ้าของโรงงานบอกว่าลูกสาวขับรถออกไปแต่งหน้าให้เจ้าสาวที่มาเช่าชุดตั้งแต่ตี 3 และยังเคยเอากล้องวงจรปิดมาให้ดู เห็นรถยนต์ลูกสาวแล่นออกจากโรงงานช่วงตี 3 แต่เธอไม่เชื่อว่าลูกสาวเป็นคนขับ

การหายตัวไปของนางสาวกลิ่นเกสรเมื่อปี 2559 และมาพบศพ 3 ปีให้หลัง ญาติสนิทคนหนึ่ง บอกว่า ก่อนหายตัวไป 1 สัปดาห์ นางสาวกลิ่นเกสร เคยเล่าให้ฟังว่า กำลังมีปัญหากับเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยอย่างรุนแรง อันเนื่องจากความหึงหวง ถึงขั้นถูกส่งคนสะกดรอย และเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยเคยขู่ไว้ว่า เขาฆ่าคนก็ไม่ติดคุก จนนางสาวกลิ่นเกสรเคยคิดหนีไปอยู่ที่อื่น ส่วนญาติสนิท คนนี้ บอกว่าเคยขับรถจากสระบุรีไปชัยนาท กับนางสาวกลิ่นเกสร ถูกรถกระบะตามสะกดรอยไปจนถึงชัยนาท ซึ่งน่าจะเป็นลูกน้องของเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยที่ถูกส่งมาสะกดรอย อีกทั้งในวันเจอรถยนต์และศพของนางสาวกลิ่นเกสร เจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ย โทรศัพท์เข้ามายังโทรศัพท์ของแม่นางสาวกลิ่นเกสร แต่เธอเป็นคนรับสาย คำพูดที่โทรมาทำนองว่า โทรมาตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ แล้วก็วางสาย ไม่ติดต่อมาอีกและไม่มาดูศพเลย

เสี่ยเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นผู้ฆาตกรรมอำพรางนางสาวกลิ่นเกสร มีโรงงานอยู่ในตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ในโรงงานมีบ้านพักหลังใหญ่ ซึ่งห่างจากจุดพบรถยนต์และโครงกระดูก 12 กิโลเมตร 

สำนักข่าวไทย พยายามติดต่อเสี่ยเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ย ไม่รับสาย เมื่อพยายามโทรติดต่ออีกครั้ง ก็เป็นเหมือนเดิม เสี่ยเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ย เคยถูกพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระพุทธบาท เรียกสอบปากคำ ตอนที่นางสาวกลิ่นเกสร หายไปใหม่ๆ เมื่อปลายปี 2559 ซึ่งผู้เป็นแม่แจ้งความคนหายไว้ที่สถานีตำรวจแห่งนี้ และมีรายงานการติดตามคดีครั้งนั้น ถึงขั้นได้เข้าค้นบ้านพักหลังใหญ่ในโรงงานผลิตปุ๋ย อันเป็นสถานที่สุดท้ายที่นางสาวกลิ่นเกสร บอกกับคนรอบตัวว่าจะเข้าไปนอนที่บ้านในโรงงาน คืนวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 และหายไปในคืนนั้น เมื่อไปถามหา เจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยได้นำภาพวงจรปิดมายืนยันว่า นางสาวกลิ่นเกสรขับรถออกไปตั้งแต่ตี 3 

จุดพบรถยนต์และโครงกระดูกของนางสาวกลิ่นเกสร ที่คลองชลประทาน ชัยนาท-ป่าสัก พื้นที่ตำบลหนองโป่ง อำเภอหนองโดน ห่างจากโรงงานผลิตปุ๋ย ในตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท สระบุรี 12 กิโลเมตร ทำให้ตอนนี้ คดีของนางสาวกลิ่นเกสร แยกเป็น 2 คดี คือคดีคนหายเมื่อปลายปี 2559 ของ สภ.พระพุทธบาท และคดีฆาตกรรม หลังการพบศพถูกถ่วงน้ำพร้อมรถยนต์ของ สภ.หนองโดน

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ระบุ การสืบสวนตอนนี้ให้น้ำหนักที่เรื่องชู้สาว แต่คดีเกิดขึ้นนาน ตอนนี้ให้นำคดีเก่าคือคดีคนหายที่ญาติแจ้งความไว้หลังนางสาวกลิ่นเกสร หายตัวไปเมื่อปี 2559 มาดูใหม่ พบว่ามีการสอบปากคำพยานไว้หลายปาก รวมถึงเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ย อีกทั้งยังเคยเข้าค้นบ้านในโรงงานผลิตปุ๋ย ได้หลักฐานต่างๆ กว่า 30 รายการ ซึ่งจะต้องตรวจสอบใหม่ทั้งหมด หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่พบในรถคันเกิดเหตุหลังจากนำขึ้นมา คือ สารสีขาว ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นปูนมาร์ล พบในผ้าห่อศพและเบาะหลัง เจ้าหน้าที่เก็บไปได้ประมาณ 3-4 กก. ที่สันนิษฐานเป็นปูนมาร์ลเพราะเป็นส่วนผสมที่ใช้ในโรงงานผลิตปุ๋ยและโรงงานผลิตปุ๋ยนั้น เป็นแหล่งผลิตปูนมาร์ลด้วย.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ส่งตรวจ DNA ชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ในซากเก๋งจมน้ำ 3 ปี

• เร่งพิสูจน์ชิ้นส่วนกระดูกเซลส์สาวดับคาเก๋งจมน้ำนาน 3 ปี

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย