เกาะติดคดีฆ่าอำพรางเซลส์สาว 3 ปีก่อนพบศพ

สระบุรี 13 ธ.ค.-เกาะติดคดีเซลส์สาวขายปุ๋ย ถูกฆ่าอำพรางหมกเก๋งจมคลอง 3 ปี ล่าสุดตำรวจให้น้ำหนักที่เรื่องชู้สาว พร้อมพบหลักฐานสำคัญในรถคันเกิดเหตุ


รถยนต์ของนางสาวกลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี อยู่ในสภาพเปื้อนดินโคลน หลังจมอยู่ในคลองชลประทานชัยนาท – ป่าสัก นายกว่า 3 ปี ก่อนจะมีผู้พบเห็นและกู้รถขึ้นมา เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา เบาะด้านหลังเป็นจุดพบโครงกระดูก อยู่ในชุดนอนและกางเกงชั้นในสีดำ มีผ้าปูที่นอนลักษณะคล้ายถูกห่อร่างที่เสียชีวิตไว้ นางสาวกลิ่นเกสร หายไป 3 ปีกว่า พยานหลักฐานในคดีนี้เลือนรางตามกาลเวลา แต่สภาพรถยนต์และโครงกระดูกที่พบในรถยนต์ บ่งชี้เป็นการฆาตกรรมอำพราง 


นายสุรเดช ปรางค์ทอง อาสากู้ภัยร่วมกตัญญูที่ดำน้ำและกู้ซากรถ บอกว่าศพอยู่เบาะหลัง ผ้าที่ใช้ห่อศพมีปมมัดด้านศีรษะ ผ้าเทปพันเป็นวงกลม เสื้อนอนสายเดี่ยว และกางเกงชั้นใน ไม่มีกางเกงนอก อีกทั้งเกียร์รถยนต์ที่อยู่ตำแหน่งกลางคาดว่าจะอยู่ในตำแหน่งเกียร์ N หรือเกียร์ D แต่กู้ภัยดันเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง P เพื่อดึงรถขึ้น


นางลั่นทม วงษ์สิงห์ มารดาของนางสาวกลิ่นเกสร ยืนยันว่า โครงกระดูกที่พบในรถ เป็นลูกสาว เพราะรถเป็นรถของลูกสาว เอกสารต่างๆ ของใช้ในรถ ก็เป็นของลูกสาวที่หายไปเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรพระพุทธบาท ผู้เป็นมารดา บอกว่า ลูกสาวทำงานเป็นเซลส์ขายปุ๋ยโรงงานผลิตปุ๋ยรูปดาว 5 ดวงในอำเภอพระพุทธบาท คบหากับเสี่ยเจ้าของโรงงาน โดยวันที่ลูกสาวหายตัว คือวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 บอกจะไปนอนที่โรงงาน ตอนเช้าให้ไปเจอกันที่ร้านอาหารใกล้วงเวียนในอำเภอพระพุทธบาท แต่ไปรอที่ร้านตั้งแต่เช้า ก็ไม่เจอ

นางลั่นทม บอกด้วยว่า หลังนางสาวกลิ่นเกสร หายตัวไป เสี่ยเจ้าของมีท่าทีแปลกไปหลายอย่าง เช่น เคยไปถามหาลูกสาว เจ้าของโรงงานบอกว่าลูกสาวขับรถออกไปแต่งหน้าให้เจ้าสาวที่มาเช่าชุดตั้งแต่ตี 3 และยังเคยเอากล้องวงจรปิดมาให้ดู เห็นรถยนต์ลูกสาวแล่นออกจากโรงงานช่วงตี 3 แต่เธอไม่เชื่อว่าลูกสาวเป็นคนขับ

การหายตัวไปของนางสาวกลิ่นเกสรเมื่อปี 2559 และมาพบศพ 3 ปีให้หลัง ญาติสนิทคนหนึ่ง บอกว่า ก่อนหายตัวไป 1 สัปดาห์ นางสาวกลิ่นเกสร เคยเล่าให้ฟังว่า กำลังมีปัญหากับเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยอย่างรุนแรง อันเนื่องจากความหึงหวง ถึงขั้นถูกส่งคนสะกดรอย และเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยเคยขู่ไว้ว่า เขาฆ่าคนก็ไม่ติดคุก จนนางสาวกลิ่นเกสรเคยคิดหนีไปอยู่ที่อื่น ส่วนญาติสนิท คนนี้ บอกว่าเคยขับรถจากสระบุรีไปชัยนาท กับนางสาวกลิ่นเกสร ถูกรถกระบะตามสะกดรอยไปจนถึงชัยนาท ซึ่งน่าจะเป็นลูกน้องของเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยที่ถูกส่งมาสะกดรอย อีกทั้งในวันเจอรถยนต์และศพของนางสาวกลิ่นเกสร เจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ย โทรศัพท์เข้ามายังโทรศัพท์ของแม่นางสาวกลิ่นเกสร แต่เธอเป็นคนรับสาย คำพูดที่โทรมาทำนองว่า โทรมาตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ แล้วก็วางสาย ไม่ติดต่อมาอีกและไม่มาดูศพเลย

เสี่ยเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นผู้ฆาตกรรมอำพรางนางสาวกลิ่นเกสร มีโรงงานอยู่ในตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ในโรงงานมีบ้านพักหลังใหญ่ ซึ่งห่างจากจุดพบรถยนต์และโครงกระดูก 12 กิโลเมตร 

สำนักข่าวไทย พยายามติดต่อเสี่ยเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ย ไม่รับสาย เมื่อพยายามโทรติดต่ออีกครั้ง ก็เป็นเหมือนเดิม เสี่ยเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ย เคยถูกพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระพุทธบาท เรียกสอบปากคำ ตอนที่นางสาวกลิ่นเกสร หายไปใหม่ๆ เมื่อปลายปี 2559 ซึ่งผู้เป็นแม่แจ้งความคนหายไว้ที่สถานีตำรวจแห่งนี้ และมีรายงานการติดตามคดีครั้งนั้น ถึงขั้นได้เข้าค้นบ้านพักหลังใหญ่ในโรงงานผลิตปุ๋ย อันเป็นสถานที่สุดท้ายที่นางสาวกลิ่นเกสร บอกกับคนรอบตัวว่าจะเข้าไปนอนที่บ้านในโรงงาน คืนวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 และหายไปในคืนนั้น เมื่อไปถามหา เจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยได้นำภาพวงจรปิดมายืนยันว่า นางสาวกลิ่นเกสรขับรถออกไปตั้งแต่ตี 3 

จุดพบรถยนต์และโครงกระดูกของนางสาวกลิ่นเกสร ที่คลองชลประทาน ชัยนาท-ป่าสัก พื้นที่ตำบลหนองโป่ง อำเภอหนองโดน ห่างจากโรงงานผลิตปุ๋ย ในตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท สระบุรี 12 กิโลเมตร ทำให้ตอนนี้ คดีของนางสาวกลิ่นเกสร แยกเป็น 2 คดี คือคดีคนหายเมื่อปลายปี 2559 ของ สภ.พระพุทธบาท และคดีฆาตกรรม หลังการพบศพถูกถ่วงน้ำพร้อมรถยนต์ของ สภ.หนองโดน

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ระบุ การสืบสวนตอนนี้ให้น้ำหนักที่เรื่องชู้สาว แต่คดีเกิดขึ้นนาน ตอนนี้ให้นำคดีเก่าคือคดีคนหายที่ญาติแจ้งความไว้หลังนางสาวกลิ่นเกสร หายตัวไปเมื่อปี 2559 มาดูใหม่ พบว่ามีการสอบปากคำพยานไว้หลายปาก รวมถึงเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ย อีกทั้งยังเคยเข้าค้นบ้านในโรงงานผลิตปุ๋ย ได้หลักฐานต่างๆ กว่า 30 รายการ ซึ่งจะต้องตรวจสอบใหม่ทั้งหมด หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่พบในรถคันเกิดเหตุหลังจากนำขึ้นมา คือ สารสีขาว ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นปูนมาร์ล พบในผ้าห่อศพและเบาะหลัง เจ้าหน้าที่เก็บไปได้ประมาณ 3-4 กก. ที่สันนิษฐานเป็นปูนมาร์ลเพราะเป็นส่วนผสมที่ใช้ในโรงงานผลิตปุ๋ยและโรงงานผลิตปุ๋ยนั้น เป็นแหล่งผลิตปูนมาร์ลด้วย.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ส่งตรวจ DNA ชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ในซากเก๋งจมน้ำ 3 ปี

• เร่งพิสูจน์ชิ้นส่วนกระดูกเซลส์สาวดับคาเก๋งจมน้ำนาน 3 ปี

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]