นายกฯ เปิดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

ทำเนียบรัฐบาล 13 ธ.ค.-นายกรัฐมนตรี เปิดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ขอแผ่นดินสงบ โดยทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นเอกภาพ ยืนยันหากพบข้าราชการเกี่ยวข้องยาเสพติด ต้องลงโทษทันทีและลงโทษสถานหนักถึงขั้นออกจากราชการ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลปี 2563 เพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นเอกภาพ ภายใต้การบริหารจัดการของผู้ว่าราชการจังหวัด และให้ทุกหน่วยงานยึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดในการดำเนินการกับผู้ค้ายาเสพติดทุกระดับ และมุ่งลดความต้องการใช้ยาเสพติด โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งในหมู่บ้านและชุมชนให้ปลอดจากยาเสพติด

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้เปิดปฏิบัติการ 1511 ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันของ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง เป็นการบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่าย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 เพื่อสกัดกั้นเคมีภัณฑ์สารตั้งต้นและยาเสพติดในกรอบเวลาเดียวกัน ตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป และจะมีการประเมินผลงานทุก 3 เดือน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลางและภูมิภาค ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร และผู้แทนภาคประชาชนเข้าร่วมรับนโยบายกว่า 500 คน ที่ตึกสันติไม่ตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนทราบดีว่าปัญหายาเสพติดในไทยอยู่ในขั้นร้ายแรง รัฐบาลมีเจตนารมณ์แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ที่ต้องดูตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยเฉพาะแหล่งผลิต สารตั้งต้น การแพร่กระจายมายังพื้นที่ตอนใน และการฟื้นฟู ข้าราชการทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายทั้งสิ้น รัฐบาลเข้มงวดมานานแล้ว และต้องเด็ดขาดในการแก้ปัญหา ยอมรับว่า ในไทยมีการลักลอบและใช้เครื่องจักรในการผลิตยา จึงต้องติดตามยุทธวิธีต่าง ๆ ให้ทัน ขอยืนยันว่าแก้ปัญหาได้ ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหา วิเคราะห์และหาเป้าหมายให้เหมาะกับบริบทของสังคมไทย 

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สิ่งแรกของการแก้ปัญหา คือ ดูที่ความต้องการยาเสพติดว่ามีเป้าหมายต้องการเพื่อนำยาเสพติดไปทำอะไร ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดและแหล่งซ่องสุมเสพยาเสพติด และผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชนทั้งสิ้น โดยเฉพาะเด็กเดินยาที่ต้องเน้นแก้ปัญหา เพราะคนเหล่านี้เป็นอนาคตของชาติ หากคนซื้อไม่มี คนขายก็จะไม่มี ยืนยันว่า หากพบมีข้าราชการเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ต้องลงโทษทันที และลงโทษสถานหนักถึงขั้นออกจากราชการ

“ผมรู้ว่าคนไม่ดีก็มี ผมพูดความจริง ไม่ได้ให้ร้ายใคร ขอย้ำว่าเป็นความรับผิดชอบของข้าราชการทุกระดับในการแก้ปัญหา ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ  ที่สำคัญ คือ ต้องป้องกันมากกว่าแก้ปัญหา ขจัดอุปสงค์อุปทานออกไปให้ได้ ซึ่งประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส แต่อย่าให้ผู้แจ้งเบาะแสตกอยู่ในอันตราย ไม่เช่นนั้น จะไม่มีใครกล้าแจ้งเบาะแส ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา มีคนโพสต์ลงโซเชียลว่ายาเสพติดแพร่ระบาดเยอะ ยาเสพติดมีทุกหมู่บ้าน แล้วผู้ว่าฯ ไปไหน ทำงานรึเปล่า แต่ผมเห็นว่า ไม่ใช่ เพราะหากรู้ข้อเท็จจริง ต้องแจ้งมาให้ชัดเจนว่ามียาเสพติดที่จุดใด” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ยาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วนทุกปี จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง ต้องปราบให้เร็วที่สุด เช่น การร่วมมือกันของประชาชนในกองทุนแม่ของแผ่นดินที่เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน เป็นพลังของสังคมในการต่อสู้กับยาเสพติด ดังนั้นทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ทั้งกระทรวงต่าง ๆ กอ.รมน. ทหาร และตำรวจ โดยสิ่งที่ต้องระวัง คือ เด็ก เยาวชน สถานบันเทิง และชุมชนแออัด

“ต้องรณรงค์ให้แรง ๆ รู้ไหมว่า ยาเสพติดยัดใส่อะไรขนเข้ามา ยัดไอ้นู้น ยัดไอ้นี่ กล้าเสพไปได้อย่างไร ได้แต่คิกออฟ คิกนั่นคิกนี่ แต่ไม่เห็นเป็นรูปธรรม พอคิกเสร็จก็ไปสโลว์ต่อ ไม่ได้แล้ว ต้องด่วนแล้ว เอาจริงเอาจังกันสักที” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ จะติดตามผลสัมฤทธิ์ การพัฒนา และปรับปรุงการดำเนินงาน  ขอยืนยันว่าจะนำพาทุกคนไปในทางที่ดีที่สุด ตนไม่ต้องการอะไรนอกจากความสงบสุขในแผ่นดินนี้  ขณะที่ผู้บังคับบัญชาต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดี อย่าไปรังแกผู้ใต้บังคับบัญชา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้