ประชาธิปัตย์ 8 ธ.ค. – “วิลาศ” ขู่ร้อง ป.ป.ช.- สตง. สอบทุจริตขยายสัญญาสร้างสภาใหม่ ครั้งที่ 4 แนะควรปรับค่าเสียหายจากผู้รับเหมาวันละ 12 ล้าน และตั้ง คกก.สอบ “สรศักดิ์” อ้างหลักฐานขยายสัญญามิชอบ
นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานกรรมาธิการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวคัดค้านการต่อสัญญาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ครั้งที่ 4 ก่อนที่การขยายสัญญาครั้งที่ 3 กว่า 1,482 วัน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 12 ธันวาคม นี้ ว่า ขณะนี้ ความคืบหน้าการก่อสร้างทั้งหมดยังแล้วเสร็จไม่ถึง ร้อยละ 70
นายวิลาศ กล่าวว่า การขยายสัญญาหลายครั้งที่ผ่านมาไม่ถูกต้อง เช่น การขยายสัญญาครั้งที่ 3 ในปี 2561 อ้างว่า ได้รับการส่งมอบพื้นที่จากโรงเรียนโยธินบูรณะล่าช้า ทั้งที่โรงเรียนได้ย้ายไปที่ตั้งใหม่ตั้งแต่ปี 2559 รวมถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เคยอ้างว่า ระยะเวลาการก่อสร้างอาคารรัฐสภา จำนวน 900 วัน นับแต่วันที่ได้รับการส่งมอบพื้นที่ 100% ซึ่งสภาฯ ได้ส่งมอบพื้นที่ให้กับบริษัทซิโน-ไทย ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2559 จึงตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดถึงต้องต่อขยายสัญญา และไม่ยอมจ่ายค่าปรับ
นายวิลาศ กล่าวว่า สาเหตุที่ผู้รับเหมาใช้อ้างเพื่อขยายการต่อสัญญา อาทิ มีการเข้าใช้พื้นที่ห้องประชุมพระจันทรา และห้องประชุมกรรมาธิการ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการก่อสร้าง ทั้งที่สัญญาก่อนหน้านี้เคยระบุว่า การเข้าใช้พื้นที่ก่อน จะใช้นำมาเป็นเหตุในการขยายสัญญาไม่ได้ หรือถ้ามีอุปสรรคในการทำงาน ผู้รับเหมาต้องแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบภายใน 15 วัน ซึ่งก็ไม่มีการแจ้งใด ๆ
“หากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะขยายสัญญาการก่อสร้างต่อเป็นครั้งที่ 4 ก็จะไปร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ( ป.ป.ช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อไป” นายวิลาศ กล่าว
นายวิลาศ กล่าวว่า การขยายเวลาหลายครั้งที่ผ่านมานั้นมิชอบ เพราะเมื่อมีการส่งมอบพื้นที่ครบ 100% แล้วการก่อสร้างควรจะแล้วเสร็จ 900 วัน ตามที่นายอนุทิน เคยยืนยัน นอกจากนั้น ยังพบว่า การต่อขยายสัญญามีข้าราชการการตรวจสอบการจ้าง และบริษัทที่ปรึกษาการก่อสร้าง ได้รับผลตอบแทนซึ่งกันและกัน มีหลักฐานที่เป็นเอกสารราชการทั้งหมด
“จึงเห็นว่าควรเริ่มปรับค่าเสียหายกับบริษัทผู้รับเหมาวันละประมาณ 12 ล้านบาทได้แล้ว และควรตั้งคณะกรรมการสอบสวน นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อีกคดีหนึ่ง ฐานขยายสัญญาโดยอ้างหลักฐานเท็จ” นายวิลาศ กล่าว
นายวิลาศ ย้ำว่า การก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่เป็นโครงการที่เละเทะที่สุด เพราะมีคณะกรรมการควบคุมการก่อสร้าง และคณะที่ปรึกษา ควบคุมงานก่อสร้างหลายชุด ทั้งบุคคลภายนอก และข้าราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และยังได้รับประโยชน์ทางราชการตอบแทนด้วย ทั้งเบี้ยเลี้ยง เบี้ยประชุม และตำแหน่ง . – สำนักข่าวไทย