กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.- กฟผ. ขอความร่วมมือเกษตรกรในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ไม่เผาไร่อ้อย ซังข้าวและวัชพืช โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ใกล้แนวเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง
นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ในช่วงฤดูกาลเปิดหีบอ้อย หรือในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว (ประมาณเดือนธันวาคม – เมษายน ของทุก ๆ ปี) กฟผ. ขอความร่วมมือเกษตรกรและประชาชน ไม่จุดไฟเผาไร่อ้อย วัชพืช และซังข้าวหลังการเก็บเกี่ยว ในพื้นที่ใกล้แนวเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน ทรัพย์สิน และระบบไฟฟ้าของประเทศ
โดยควันและเขม่าจากการเผาดังกล่าว อาจส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรสู่พื้นดิน เป็นอันตรายต่อเกษตรกรและประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ตลอดจนเป็นอันตรายต่อทัศนวิสัยในการเดินทางและการคมนาคมของประชาชน และอาจทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าตกหรือไฟฟ้าดับ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าในภาพรวม ทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างเป็นวงกว้าง
รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. กล่าวต่อว่า เสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่ กฟผ. ดูแลและรับผิดชอบนั้น เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของระบบไฟฟ้าของประเทศไทย เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่แห่งพลังงานที่เชื่อมโยงกระแสไฟฟ้าจากระบบผลิตไปยังระบบจำหน่าย คือ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ซึ่งจะมีการปรับแรงดันไฟฟ้าอย่างเหมาะสม ก่อนส่งถึงผู้ใช้ไฟฟ้าทุกภาคส่วนและทุกครัวเรือนต่อไป ดังนั้นเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง จึงต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา ซึ่ง กฟผ. มีการดูแลบำรุงรักษาเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงเป็นประจำ เพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง
“ทั้งนี้ กฟผ. ขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรและประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้แนวเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ไม่เผาไร่อ้อยและวัชพืช และขอความร่วมมือประชาชนทั่วประเทศร่วมกันดูแลเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งเปรียบเสมือนสมบัติของชาติ โดยหากพบเหตุผิดปกติและไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. โปรดแจ้ง ศูนย์บริการข้อมูล กฟผ. โทร. 1416” รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. กล่าว