กู้ภัยเล่านาทีช่วยเหลือเฟอร์รารี่ชนแบริเออร์

สมุทรปราการ 4 ธ.ค. – กู้ภัยเล่านาทีช่วยเหลือไฮโซเจ้าของธุรกิจรังนก และ “ฝน ศนันธฉัตร” หรือ “ฝน ฮอร์โมน” ที่ติดอยู่ในรถเก๋งเฟอร์รารี่ หลังพุ่งชนแบริเออร์ บนถนนศรีนครินทร์ ล่าสุดอาการทั้งคู่ปลอดภัย ขณะที่ “ฝน” เตรียมฟ้อง หลังมีเพจลงข้อความทำให้เสียหาย


ความคืบหน้าอุบัติเหตุรถเก๋งเฟอร์รารี่ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ชนแท่งปูนแบริเออร์ แนวกั้นสถานที่ก่อสร้างสะพานรถไฟฟ้าเกาะกลางถนนศรีนครินทร์ อ.เมืองสมุทรปราการ คนขับคือ นายสราวุธ เสรีธรณกุล อายุ 36 ปี กรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด บริษัท เจเอส เอเซีย เบฟเวอเรจ จำกัด เจ้าของแบรนด์รังนก จูซเนส (Juice Nest) และเป็นนักแข่งรถชื่อดัง ทีม Racing Spirit ค.ร.ม. คนรักเมีย PSC Motorsport พร้อมด้วย น.ส.ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล หรือ “ฝน ฮอร์โมนส์” อายุ 25 ปี ดารานักแสดง ที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งช่วยกันปฐมพยาบาล และนำส่งโรงพยาบาล โดยนายสราวุธ ขาขวาหัก 


จากการสอบสวนของตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ทราบว่า นายสราวุธ ขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุแล้วคล้ายเหยียบของเหลวบางอย่าง รถเสียหลักพุ่งเข้าชนแท่งปูนแบริเออร์ที่กั้นเกาะกลางถนน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยาน พบว่า อุบัติเหตุดังกล่าวไม่มีคู่กรณี มีเพียงทรัพย์สินของผู้บาดเจ็บ และทรัพย์สินของผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเท่านั้น จึงต้องรอผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้น แล้วไปตกลงค่าเสียหายกันเอง


นายนฤเบศ แสนกล้า เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง เล่าเหตุการณ์ขณะเข้าไปช่วยเหลือว่า เมื่อไปถึงพบนายสราวุธ นั่งอยู่ที่ฝั่งคนขับ ยังมีสติ ถามตอบรู้เรื่อง แต่ออกจากรถเองไม่ได้ เนื่องจากขาขวาหักจนผิดรูป จึงเร่งช่วยเหลือออกมาจากรถ ผู้บาดเจ็บบอกว่า กำลังจะกลับที่พักที่อยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นได้ปฐมพยาบาลและดามขาที่หัก ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ส่วน น.ส.ศนันธฉัตร ปีนออกมาจากรถด้วยตัวเอง ก่อนกู้ภัยจะไปถึง มีอาการจุกและเจ็บหน้าอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะเข้าช่วยเหลือยังไม่ทราบว่าเป็นดารา ซึ่งไม่ว่าผู้ประสบเหตุจะเป็นใคร ก็ต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว

“ฝน ศนันธฉัตร” อาการปลอดภัย

ส่วนอาการของ “ฝน ศนันธฉัตร” หรือ “ฝน ฮอร์โมน” ผู้จัดการส่วนตัว บอกว่า ตอนนี้อาการปลอดภัยดี ไม่ได้บาดเจ็บอะไร มีแค่รอยฟกช้ำ และรอยแดงๆ จากการรัดเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ไปตรวจร่างกายและสแกนสมอง พบว่าปลอดภัยดี ตอนนี้กลับบ้านได้แล้ว โดย “ฝน ศนันธฉัตร” เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า กำลังกลับจากการไปทำธุระกับเพื่อน แล้วจู่ๆ รถมีอาการเสียหลัก ไม่มั่นใจว่าเป็นเพราะถนนลื่น หรือมีอะไรกีดขวางบริเวณถนน เพราะจุดนั้นเป็นจุดที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้า จึงทำให้รถเสียหลักพุ่งชนแบริเออร์

“ฝน ศนันธฉัตร” เตรียมฟ้องเพจดัง ทำให้เสียหาย

แต่เรื่องยังไม่จบแค่นี้ เมื่ออยู่ๆ มีเพจดังนำรูป “ฝน ศนันธฉัตร” กับรุ่นพี่ที่ไปประสบอุบัติเหตุด้วยกัน มาลงในเพจ พร้อมเขียนแคปชันว่า “หายไวๆ นะคะทั้งคู่ ฝ่ายหญิงมีคุณแม่และผู้จัดการดูแล ฝ่ายชายมีภรรยาดูแล หายไวๆ นะคะ” ซึ่งมีคนเข้ามาคอมเมนต์ในทางเสียหายเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ “ฝน” ก็โต้กลับทันควัน เธอแคปหน้าเพจดังที่โพสต์ข้อความดังกล่าว มาโพสต์ลงไอจีส่วนตัว รวมทั้งโพสต์ชี้แจงพร้อมเอาผิดทางกฎหมายกับเพจดังกล่าวและผู้ที่คอมเมนต์ทันที ว่า

“สวัสดีค่ะ ฝากถึงแอดมินเพจและคนคอมเม้นนะคะ ขอแจ้งให้ทราบว่าจะดำเนินการตามกฎหมายค่ะ ข่าวที่เขียนไม่เป็นความจริง พี่เค้าไม่เคยแต่งงาน ไม่เคยมีภรรยา และคนที่เฝ้าอาการอยู่คือฝนและทางครอบครัวของพี่เค้านะคะ ตอนนี้อาการปลอดภัยดี ทั้งฝนและพี่เค้าอยู่ในขบวนการรักษาของแพทย์ สำหรับเพจนี้ที่ไม่มีจรรยาบรรณและทำให้ชื่อเสียงเสียหาย ทั้งแอดมินและบุคคลที่คอมเม้น คุยกันอีกทีผ่านขบวนการทางกฎหมายนะคะ ไม่รับคำขอโทษค่ะ เพราะว่าจะได้เป็นตัวอย่างให้บุคคลสาธารณะคนอื่นๆ ที่เคยโดนข่าวแบบนี้เหมือนกัน ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง ขอบคุณค่ะ”

***ล่าสุดสำนักข่าวไทยตรวจสอบพบว่า เพจดังกล่าวปิดตัวไปแล้ว***

อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ พบว่า ฝ่ายชายได้โพสต์ไอจีสตอรี่ ขณะอยู่บนเครื่องบินกับ “ฝน” ซึ่งทั้งคู่มีความสนิทสนมกัน เพราะแข่งรถด้วยกัน รวมถึงภาพคู่ในอินสตาแกรมของฝ่ายชายที่ลงรูปคู่มาตลอด ทั้งทริปต่างประเทศและในประเทศ ขณะที่ไอจีของ “ฝน” พบว่าลงรูปเพียงแค่รูปรวม และไม่ได้มีภาพหวานชัดเจนเหมือนในอินสตาแกรมของฝ่ายชาย

ส่องประวัติ “ฝน ศนันธฉัตร”

มาทำความรู้จักกับเธอกันหน่อย สำหรับ “ฝน ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล” หรือ “ฝน ฮอร์โมนส์” แจ้งเกิดแบบเต็มตัวจากซีรีส์ดัง “Hormones วัยว้าวุ่น” ชื่อเดิมคือ “ชไมพร ธีระศักดิ์” เกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2537 จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยมหิดล เกียรตินิยมอันดับ 2 ด้วยเกรดเฉลี่ยสูงถึง 3.28

ผลงานในวงการบันเทิง มีทั้งงานภาพยนตร์ งานโฆษณา และเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอ แต่ผลงานที่ทำให้ใครๆ รู้จักเธอก็คือ บทสก๊อยสาว ในภาพยนตร์เรื่อง “ATM เออรัก เออเร่อ” และด้วยกระแสความแรงของซีรีส์ “Hormones วัยว้าวุ่น” ที่มี “ฝน ศนันธฉัตร” ทั้ง 3 ภาคนั้น ก็ทำให้เธอกลายเป็นดาราอีกหนึ่งคนที่มีงานเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ อาทิ รถไฟฟ้า..มาหานะเพลิน, เพื่อนเฮี้ยน..โรงเรียนหลอน (ตอน วนิดา), ทอฝันกับมาวิน, ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากจะมีฝีมือทางด้านการแสดงแล้ว “ฝน ศนันธฉัตร” ยังเป็นคนที่รักความเร็ว และกล้าที่จะก้าวข้ามขีดจำกัด ออกมาท้าทายความสามารถของตนเอง ในฐานะนักแข่งคนใหม่ของ “โตโยต้า เรซซิ่ง สตาร์ทีม” เข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการใหญ่ระดับอาเซียน “Toyota Gazoo Racing Motorsport 2019” ในรุ่นโตโยต้า วีออส วันเมคเรซ เลดี้คัพ ร่วมทีมกับรุ่นพี่อย่าง “กวาง เอบีนอร์มอล” ที่ลงแข่งในรุ่นโคโรลล่า อัลติส วันเมคเรซ โดยมีเพื่อนดารานักแข่งอย่าง แพรว นฤภรกมล, เจมส์ ภูริพรรธน์ และ เด ดาวิเด โดริโก้ ลงสนามวัดใจในรายการนี้ด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภราดร” ประกาศลาออก “รองปธ.สภาฯ”

รัฐสภา 19 มิ.ย.- “ภราดร” ประกาศลาออกจาก “รองประธานสภาฯ” รักษาหลักการเสียงข้างมาก คืนอำนาจให้สภาฯ เลือกใหม่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และ สส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประกาศยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรองประธานฯ โดยมีผลทันทีในวันนี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้ว่ากรรมการบริหารพรรคมีมติให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายนนี้เช่นกัน นายภราดรให้เหตุผลว่า ตนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ในวันนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมอยู่ในรัฐบาลแล้ว จึงเห็นว่าควรคืนอำนาจให้สภาผู้แทนราษฎรได้มีโอกาสตัดสินใจเลือกรองประธานฯคนใหม่ด้วยมติเสียงข้างมาก ตามธรรมเนียมที่เคยถือปฏิบัติมา “ผมขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ให้เกียรติเลือกผมมาปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการทำงานที่มีคุณค่า และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทีมงานของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองทุกคนที่ได้ทุ่มเททำงานจนบรรลุภารกิจไปหลายประการ ซึ่งล้วนสร้างความก้าวหน้าให้กับสภาของประชาชน กราบขอบพระคุณท่านประธานและรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ที่ได้ให้ความเมตตาผมอย่างยิ่งในการทำงาน” นายภราดรกล่าว พร้อมย้ำว่าจะฝากงานหลายอย่างที่ได้ดำเนินการไว้ โดยเฉพาะโครงการเปิดพื้นที่รัฐสภาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นพื้นที่ของประชาชนอย่างแท้จริง โครงการวันรัฐธรรมนูญ กิจกรรมสภาวาที การพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาให้เป็นสถานีของประชาชน โดยเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม และการต่อยอดโครงการยุวชนประชาธิปไตยที่สร้างเสริมศักยภาพเยาวชน ให้ผู้รับตำแหน่งคนต่อไปได้มาสานต่อ นอกจากนี้ นายภราดรยังยืนยันจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยต่อไป.312 -สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์สำนวนก่อนลบทิ้ง เตรียมเข้าทำเนียบฯ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์สำนวน “ผู้คน ไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งโอเค” ก่อนลบทิ้ง ยกเลิกประชุมทีมคณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก เข้าทำเนียบ เมื่อเวลา 08.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีการแชร์สตอรี่อินสตาแกรม เป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ระบุว่า “People don’t fake depression.They fake being okay. Remember that. Be kind.” ซึ่งมีความหมายว่า “คนเราไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งว่าตัวเองโอเคต่างหาก, จำไว้นะ จงมีเมตตา” พร้อมซาวด์ดนตรี Another love อย่างไรก็ตามในเวลา 08.54 น. นายกรัฐมนตรี ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ออกจากสตอรี่อินสตราแกรม ทำให้ไม่มีข้อความปรากฏแล้ว ขณะเดียวกัน ยังรายงานอีกว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจ […]

“กัญจนา” เชื่อ “วราวุธ’” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- “หนูนา กัญจนา” ชี้พรรคชาติไทยพัฒนาแม้เป็นพรรคเล็ก แต่ศักดิ์ศรีรักบ้านเกิดเมืองนอนยิ่งใหญ่เสมอ เชื่อ “วราวุธ” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีคลิปเสียงสนทนาสองผู้นำไทย-กัมพูชา ว่า “ณ วันนี้ ดิฉันไม่ได้นิยามตัวเองเป็นนักการเมืองแล้ว ถอยออกมามานานแล้ว แต่ที่ดิฉันเป็นเสมอคือ เป็นคนไทยที่รักแผ่นดินเกิด “จุดยืนของดิฉันมั่นคงมาตลอดเหมือนพ่อ คือยึดมั่นต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเชื่อว่าน้องชายดิฉัน (นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ก็เช่นกัน” น.ส.กัญจนา ยังระบุอีกว่า “แม้ที่ผ่านมา เขาอาจจะพูดอะไรพลาดบ้าง นั่นก็เป็นบทเรียนในชีวิตให้เขาต้องจดจำ วันนี้ดิฉันแม้ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แม้พรรคชาติไทยพัฒนาในวันนี้ จะเป็นพรรคขนาดเล็ก แต่ศักดิ์ศรี และความรักบ้านเกิดเมืองนอนต้องยิ่งใหญ่เสมอ” “ดิฉันเชื่อว่า พรรค และหัวหน้าพรรคจะมีการตัดสินใจที่ชัดเจนในการไม่สนับสนุนการกระทำใดที่ไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง ทำในสิ่งที่ควรทำ” -สำนักข่าวไทย

นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัว

19 มิ.ย.- นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี กลางดึก หลัง “ภูมิใจไทย” ประกาศถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล ความเคลื่อนไหวช่วงกลางดึกในเวลา 21.08 น. ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยจะยื่นใบลาออกมีผลวันนี้ (19 มิ.ย.) พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ รับผิดชอบทำประเทศเสียเกียรติภูมิ นั้น พบว่าสตอรี่อินสตราแกรมของ นายกรัฐมนตรี ยังคงมีการเคลื่อนไหวผ่านการรีโพสต์สตอรี่ ที่มีคนโพสต์และแท็ก โดยเป็นภาพระหว่างสื่อมวลชนตามสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และเป็นโพสต์รูปภาพของนายกรัฐมนตรี พร้อมใส่เพลง “ทำด้วยหัวใจ” โดยไม่มีการใส่แคปชั่น หรือระบุข้อความใดใดในภาพ รวมถึงคลิปที่นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ด้วย -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลออกแถลงการณ์โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน“ ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน” ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ แต่ได้รับผลตรงข้าม ชี้ 26 ปี JBC ไร้ผล เป็นเหตุตัดสินใจใช้การทูตโทรหาผู้นำกัมพูชา ย้ำแก้ปัญหายึดสันติวิธี รักษาอธิปไตยไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) “กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา” โดยมีเนื้อหาว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยต่อพี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาที่เกิดขึ้น ทุกการดำเนินการเป็นไปภายใต้เจตจำนงที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนไทย ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในกัมพูชา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ดังกล่าว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ความจริงใจของเรา กลับมีผลตอบรับตรงกันข้าม รัฐบาลไทยยึดหลักสันติวิธี ใช้กลไกทวิภาคีเรื่องเขตแดนที่มีอยู่ โดยเฉพาะการทำงานของ JBC ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาร่วมมือกันมาตลอด 26 ปี เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ในระหว่างนั้นได้ปรากฏเหตุการณ์สื่อสารโต้ตอบที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น หากรัฐบาลนิ่งเฉย และไม่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ย่อมเกิดความเสี่ยงที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยได้ นายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจใช้วิธีทางการทูต ผ่านการโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับผู้นำกัมพูชา […]

กต. ทำหนังสือประท้วงกัมพูชากรณีปล่อยคลิปเสียงหลุด

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือประท้วงกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ฮุน เซน ย้ำผิดมารยาทและผิดหลักปฏิบัติสากล และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ของกัมพูชา ต่อสาธารณชนวานนี้ (18 มิ.ย.68) ว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ และมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่ายตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศ ที่ควรได้รับการเคารพ และให้เกียรติ ตามแนวปฏิบัติสากลในการเจริญสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญให้เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของทางกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถือว่าผิดมารยาทพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เป็นการทำลายความไว้ใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการทูต มีความรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการดูแลคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการดำเนินการทางการทูต […]

นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย