กู้ภัยเล่านาทีช่วยเหลือเฟอร์รารี่ชนแบริเออร์

สมุทรปราการ 4 ธ.ค. – กู้ภัยเล่านาทีช่วยเหลือไฮโซเจ้าของธุรกิจรังนก และ “ฝน ศนันธฉัตร” หรือ “ฝน ฮอร์โมน” ที่ติดอยู่ในรถเก๋งเฟอร์รารี่ หลังพุ่งชนแบริเออร์ บนถนนศรีนครินทร์ ล่าสุดอาการทั้งคู่ปลอดภัย ขณะที่ “ฝน” เตรียมฟ้อง หลังมีเพจลงข้อความทำให้เสียหาย


ความคืบหน้าอุบัติเหตุรถเก๋งเฟอร์รารี่ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ชนแท่งปูนแบริเออร์ แนวกั้นสถานที่ก่อสร้างสะพานรถไฟฟ้าเกาะกลางถนนศรีนครินทร์ อ.เมืองสมุทรปราการ คนขับคือ นายสราวุธ เสรีธรณกุล อายุ 36 ปี กรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด บริษัท เจเอส เอเซีย เบฟเวอเรจ จำกัด เจ้าของแบรนด์รังนก จูซเนส (Juice Nest) และเป็นนักแข่งรถชื่อดัง ทีม Racing Spirit ค.ร.ม. คนรักเมีย PSC Motorsport พร้อมด้วย น.ส.ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล หรือ “ฝน ฮอร์โมนส์” อายุ 25 ปี ดารานักแสดง ที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งช่วยกันปฐมพยาบาล และนำส่งโรงพยาบาล โดยนายสราวุธ ขาขวาหัก 


จากการสอบสวนของตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ทราบว่า นายสราวุธ ขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุแล้วคล้ายเหยียบของเหลวบางอย่าง รถเสียหลักพุ่งเข้าชนแท่งปูนแบริเออร์ที่กั้นเกาะกลางถนน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยาน พบว่า อุบัติเหตุดังกล่าวไม่มีคู่กรณี มีเพียงทรัพย์สินของผู้บาดเจ็บ และทรัพย์สินของผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเท่านั้น จึงต้องรอผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้น แล้วไปตกลงค่าเสียหายกันเอง


นายนฤเบศ แสนกล้า เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง เล่าเหตุการณ์ขณะเข้าไปช่วยเหลือว่า เมื่อไปถึงพบนายสราวุธ นั่งอยู่ที่ฝั่งคนขับ ยังมีสติ ถามตอบรู้เรื่อง แต่ออกจากรถเองไม่ได้ เนื่องจากขาขวาหักจนผิดรูป จึงเร่งช่วยเหลือออกมาจากรถ ผู้บาดเจ็บบอกว่า กำลังจะกลับที่พักที่อยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นได้ปฐมพยาบาลและดามขาที่หัก ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ส่วน น.ส.ศนันธฉัตร ปีนออกมาจากรถด้วยตัวเอง ก่อนกู้ภัยจะไปถึง มีอาการจุกและเจ็บหน้าอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะเข้าช่วยเหลือยังไม่ทราบว่าเป็นดารา ซึ่งไม่ว่าผู้ประสบเหตุจะเป็นใคร ก็ต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว

“ฝน ศนันธฉัตร” อาการปลอดภัย

ส่วนอาการของ “ฝน ศนันธฉัตร” หรือ “ฝน ฮอร์โมน” ผู้จัดการส่วนตัว บอกว่า ตอนนี้อาการปลอดภัยดี ไม่ได้บาดเจ็บอะไร มีแค่รอยฟกช้ำ และรอยแดงๆ จากการรัดเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ไปตรวจร่างกายและสแกนสมอง พบว่าปลอดภัยดี ตอนนี้กลับบ้านได้แล้ว โดย “ฝน ศนันธฉัตร” เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า กำลังกลับจากการไปทำธุระกับเพื่อน แล้วจู่ๆ รถมีอาการเสียหลัก ไม่มั่นใจว่าเป็นเพราะถนนลื่น หรือมีอะไรกีดขวางบริเวณถนน เพราะจุดนั้นเป็นจุดที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้า จึงทำให้รถเสียหลักพุ่งชนแบริเออร์

“ฝน ศนันธฉัตร” เตรียมฟ้องเพจดัง ทำให้เสียหาย

แต่เรื่องยังไม่จบแค่นี้ เมื่ออยู่ๆ มีเพจดังนำรูป “ฝน ศนันธฉัตร” กับรุ่นพี่ที่ไปประสบอุบัติเหตุด้วยกัน มาลงในเพจ พร้อมเขียนแคปชันว่า “หายไวๆ นะคะทั้งคู่ ฝ่ายหญิงมีคุณแม่และผู้จัดการดูแล ฝ่ายชายมีภรรยาดูแล หายไวๆ นะคะ” ซึ่งมีคนเข้ามาคอมเมนต์ในทางเสียหายเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ “ฝน” ก็โต้กลับทันควัน เธอแคปหน้าเพจดังที่โพสต์ข้อความดังกล่าว มาโพสต์ลงไอจีส่วนตัว รวมทั้งโพสต์ชี้แจงพร้อมเอาผิดทางกฎหมายกับเพจดังกล่าวและผู้ที่คอมเมนต์ทันที ว่า

“สวัสดีค่ะ ฝากถึงแอดมินเพจและคนคอมเม้นนะคะ ขอแจ้งให้ทราบว่าจะดำเนินการตามกฎหมายค่ะ ข่าวที่เขียนไม่เป็นความจริง พี่เค้าไม่เคยแต่งงาน ไม่เคยมีภรรยา และคนที่เฝ้าอาการอยู่คือฝนและทางครอบครัวของพี่เค้านะคะ ตอนนี้อาการปลอดภัยดี ทั้งฝนและพี่เค้าอยู่ในขบวนการรักษาของแพทย์ สำหรับเพจนี้ที่ไม่มีจรรยาบรรณและทำให้ชื่อเสียงเสียหาย ทั้งแอดมินและบุคคลที่คอมเม้น คุยกันอีกทีผ่านขบวนการทางกฎหมายนะคะ ไม่รับคำขอโทษค่ะ เพราะว่าจะได้เป็นตัวอย่างให้บุคคลสาธารณะคนอื่นๆ ที่เคยโดนข่าวแบบนี้เหมือนกัน ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง ขอบคุณค่ะ”

***ล่าสุดสำนักข่าวไทยตรวจสอบพบว่า เพจดังกล่าวปิดตัวไปแล้ว***

อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ พบว่า ฝ่ายชายได้โพสต์ไอจีสตอรี่ ขณะอยู่บนเครื่องบินกับ “ฝน” ซึ่งทั้งคู่มีความสนิทสนมกัน เพราะแข่งรถด้วยกัน รวมถึงภาพคู่ในอินสตาแกรมของฝ่ายชายที่ลงรูปคู่มาตลอด ทั้งทริปต่างประเทศและในประเทศ ขณะที่ไอจีของ “ฝน” พบว่าลงรูปเพียงแค่รูปรวม และไม่ได้มีภาพหวานชัดเจนเหมือนในอินสตาแกรมของฝ่ายชาย

ส่องประวัติ “ฝน ศนันธฉัตร”

มาทำความรู้จักกับเธอกันหน่อย สำหรับ “ฝน ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล” หรือ “ฝน ฮอร์โมนส์” แจ้งเกิดแบบเต็มตัวจากซีรีส์ดัง “Hormones วัยว้าวุ่น” ชื่อเดิมคือ “ชไมพร ธีระศักดิ์” เกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2537 จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยมหิดล เกียรตินิยมอันดับ 2 ด้วยเกรดเฉลี่ยสูงถึง 3.28

ผลงานในวงการบันเทิง มีทั้งงานภาพยนตร์ งานโฆษณา และเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอ แต่ผลงานที่ทำให้ใครๆ รู้จักเธอก็คือ บทสก๊อยสาว ในภาพยนตร์เรื่อง “ATM เออรัก เออเร่อ” และด้วยกระแสความแรงของซีรีส์ “Hormones วัยว้าวุ่น” ที่มี “ฝน ศนันธฉัตร” ทั้ง 3 ภาคนั้น ก็ทำให้เธอกลายเป็นดาราอีกหนึ่งคนที่มีงานเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ อาทิ รถไฟฟ้า..มาหานะเพลิน, เพื่อนเฮี้ยน..โรงเรียนหลอน (ตอน วนิดา), ทอฝันกับมาวิน, ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากจะมีฝีมือทางด้านการแสดงแล้ว “ฝน ศนันธฉัตร” ยังเป็นคนที่รักความเร็ว และกล้าที่จะก้าวข้ามขีดจำกัด ออกมาท้าทายความสามารถของตนเอง ในฐานะนักแข่งคนใหม่ของ “โตโยต้า เรซซิ่ง สตาร์ทีม” เข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการใหญ่ระดับอาเซียน “Toyota Gazoo Racing Motorsport 2019” ในรุ่นโตโยต้า วีออส วันเมคเรซ เลดี้คัพ ร่วมทีมกับรุ่นพี่อย่าง “กวาง เอบีนอร์มอล” ที่ลงแข่งในรุ่นโคโรลล่า อัลติส วันเมคเรซ โดยมีเพื่อนดารานักแข่งอย่าง แพรว นฤภรกมล, เจมส์ ภูริพรรธน์ และ เด ดาวิเด โดริโก้ ลงสนามวัดใจในรายการนี้ด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย